คุยกันหลังเลนส์กับ Timothy White ช่างภาพระดับโลกที่ถ่ายภาพบุคคลสำคัญและคนดังระดับฮอลลีวู้ดมากว่า 30 ปี

บอกเลยว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ
เราพบกับทิโมธี ไวท์ (Timothy White) ในวันที่เขาเดินทางมากรุงเทพฯ หลังจากไปภูเก็ตมาเมื่อสามวันก่อนหน้า เขาคือช่างภาพชาวอเมริกันที่ร่วมงานกับฮอลลีวู้ด พาราเมาต์ และโซนี่มิวสิก รวมไปถึงภาพถ่ายปกนิตยสารชั้นนำ และโปสเตอร์ภาพยนต์ชื่อดังมาแล้วกว่าร้อยเรื่อง คนดังที่เคยอยู่หลังเลนส์ของเขามีตั้งแต่ปารีส ฮิลตัน, พอล นิวแมน, แบรด พิตต์, แฮร์ริสัน ฟอร์ด, จูเลีย โรเบิร์ตส์ ฯลฯ หลังจากที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน เขาก็ใช้ทักษะการถ่ายรูปเพื่อทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อต้นปี 2018 เขาเดินทางไปจัดแสดงผลงานเดี่ยวที่ Yang Gallery ประเทศสิงคโปร์ ทำให้เขาได้แรงบันดาล ใจในการออกสำรวจทวีปเอเชียให้มากขึ้น และแน่นอนว่าประเทศไทยคือหนึ่งในจุดหมายที่สำคัญของเขา ทิโมธีจึงร่วมกับเอเอสเอ กรุ๊ป จัดโครงการ ‘รอยยิ้มผ่านเลนส์’ (A Story through Lens) เพื่อใช้การถ่ายภาพเป็นสื่อกลาง บอกเล่าเรื่องราวสู่สังคมและช่วยเหลือกลุ่มคนด้อยโอกาส ในโอกาสนี้ บาซาร์จึงอยากพาคุณผู้อ่านไปพูดคุยกับช่างภาพระดับโลกเกี่ยวกับเบื้องลึกเบื้องหลังของแรงบันดาลใจ และมุมมองในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านแววตา ของมนุษย์ลงบนภาพถ่ายของเขา
ทำไมถึงชื่นชอบการถ่ายภาพ?

การถ่ายภาพทำให้ผมได้เจอคนหลากหลาย ได้ร่วมงานกับศิลปินคนดัง ได้เดินทางไปทั่วโลก ผมร่วมงานสำคัญๆ อยู่บ่อยครั้ง อย่างการถ่ายหนังซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับคนเป็นร้อย และเราได้เป็นส่วนหนึ่งตรงนั้น มันเยี่ยมมาก หรืออย่างการถ่ายสารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ป็อปคัลเจอร์ซึ่งผมทำมานานแล้ว เวลาได้เห็นชื่อเราอยู่บนผลงานเหล่านั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ

การถ่ายภาพบุคคลเป็นสิ่งที่คุณถนัดที่สุด?

งานของผมคือการถ่ายภาพ พอร์เทรตศิลปินดาราภาพยนตร์ ผมจะหาจุดที่ลงตัวในการถ่ายภาพ คุณต้องรู้จักคนที่คุณกำลังจะถ่าย คุณต้องหาอะไรบางอย่างในตัวของคนทุกคนที่คุณกำลังทำงานด้วย คุณรู้ไหมว่าภาพถ่ายคือภาพที่ถูกสร้างขึ้น ไม่ใช่ความจริง (Photography is illusion, not reality.) มันคือการถ่ายทอดภาพภาพหนึ่งในมุมมองของเราว่าคนคนนั้นเป็นใคร การรู้จักกันมาก่อน บางทีมันก็ทำให้ทำงานง่ายขึ้น แต่บางทีมันก็ทำให้ยากขึ้น คือถ้าเราต่างรู้สไตล์กัน เขารู้แนวการถ่ายของผม ผมรู้วิธีการโพสและแสดงออกทางความรู้สึกของเขา บางทีมันก็ struggle เพื่อที่จะทำให้แต่ละครั้งมันดีขึ้นกว่าครั้งก่อนๆ ผมจะชอบดูไปตามสถานการณ์หน้างานมากกว่า ไม่จำเป็นต้องรู้จักตัวแบบเป็นการส่วนตัวขนาดนั้น ก็ทำให้ผมตื่นเต้นและท้าทายดี
ชอบภาพสีหรือขาวดำ?

ดีทั้งสองแบบขึ้นอยู่กับเวลาที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผมเห็นในเฟรม ขึ้นอยู่กับแสงเงา เส้นสาย แล้วแต่ภาพ แล้วแต่สถานการณ์เลยครับ ผมจะดูตามสถานการณ์แล้วก็เปิดกว้างในการทำงาน ไม่ได้วางคอนเซ็ปต์มาล่วงหน้าเคร่งครัดมากนัก เช่นสมมติว่ามุมนั้นมีสีสันสดใส ผมก็อาจจะอยากถ่ายภาพสี แต่ถ้าเกิดมุมนั้นมีแสงมีเงาที่สวย ผมก็อาจจะถ่ายขาวดำ

ถ่ายผู้หญิงกับผู้ชายต่างกันไหม?

แน่นอนครับ ต่างกันมากๆ ถ่ายผู้หญิง ผมจะใส่ใจเรื่องแสงเป็นสำคัญ ผมจะต้องถ่ายให้พวกเธอดูสวย ดูดีเท่าที่ผมจะทำได้ แต่เวลาถ่ายผู้ชาย ก็อาจจะสามารถมีเงาได้มากหน่อย มีแสงที่แข็งกว่าหน่อยได้
ภาพแบบไหนเรียกว่าสวยหรือไม่สวยสำหรับคุณ?
ความสวยงามอยู่รอบตัวเรา สำหรับตัวบุคคล ความสวยงามเป็นสิ่งที่อยู่ข้างใน ไม่ใช่ข้างนอก มันคือความเป็นตัวเขา และปฏิสัมพันธ์ที่เรามีระหว่างกัน
อยากทราบประสบการณ์ที่สิงคโปร์ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดโปรเจ็กต์นี้ขึ้น?

ผมได้ไปสิงคโปร์เมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้วเพื่อจัดนิทรรศการที่นั่น ผมคิดว่าโลกหมุนไปข้างหน้าเรื่อยๆ และเอเชียเป็นดินแดนที่มีสิ่งมากมายรอให้ผมเข้าไปค้นหา ที่นี่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในด้านของธุรกิจและในด้านของการสร้างสรรค์ เอเชียมีพื้นที่ที่ใหญ่โต มีผู้คนมากมาย เหมือนเป็นโลกใบใหม่สำหรับผมเลย ผมตื่นเต้นกับวัฒนธรรมของเอเชียและแพลนจะเดินทางไปในหลายๆ ประเทศ แต่เมืองไทยดึงดูดผมมากที่สุด ด้วยเรื่องของผู้คน จากที่ผมมาที่นี่แค่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ผมเห็นว่าคนไทยมีความอ่อนโยนและความสุภาพ เป็นสิ่งที่เห็นออกมาได้ชัดเจนมาก

ตอนนี้คุณใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน?

ผมเติบโตที่นิวยอร์ก และปัจจุบันผมใช้ชีวิตอยู่ที่ลอสแอนเจลิส แต่การถ่ายทำภาพยนตร์ก็ทำให้ผมได้เดินทางไปทั่วโลก
การเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างช่วยในการถ่ายรูปอย่างไรบ้าง?
มันช่วยทำให้ผมเป็นคนเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการทำงาน ท้าทายผมสู่วิธีการใหม่ๆ ผมคิดว่าสำหรับคนอื่นๆ ก็เหมือนกัน การเดินทางไปเห็นอะไรที่แตกต่างจะช่วยเปิดโลก เปิดความสามารถใหม่ๆ ในตัวเรา และทำให้เราตระหนักถึงความหลากหลายที่มีอยู่ในโลกใบนี้
ทำไมถึงมีความคิดในการใช้ภาพถ่ายเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือคนด้อยโอกาส?

ผมคิดและมีความพยายามที่จะช่วยเหลือคนด้อยโอกาสมาตลอด มันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานที่ผมทำให้มันเกิดขึ้นจริง ตลอดชีวิตการทำงาน ผมเข้าร่วมโครงการที่ช่วยเหลือผู้คนอย่างสม่ำเสมอ คุณรู้ไหม คุณทำงานและได้เงิน ได้ความสำเร็จ แต่ยิ่งคุณมีสิ่งเหล่านั้นมากเท่าไร คุณยิ่งต้องให้คืนกลับไปกับสังคม

ถ้าพูดถึงการเดินทาง สไตล์การเดินทางท่องเที่ยวของคุณเป็นแบบไหน?

ผมไม่ใช่สไตล์แบบนักท่องเที่ยวเท่าไร ตลอดชีวิตการเดินทางของผมที่ผ่านมา สิ่งที่ผมชอบทำก็คือการทำความรู้จักผู้คน เพราะทำให้ผมได้อะไรเยอะมาก ผมเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับประเทศนั้นๆ ผ่านผู้คน

คุณมีช่างภาพที่ชื่นชมหรือเป็นแรงบันดาลใจไหม?

มีช่างภาพมากมายที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผม โดยเฉพาะตอนช่วงเริ่มต้นถ่ายภาพ ริชาร์ด อเวดอน (Richard Avedon) ถือว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลมากๆ ที่ทำให้ผมอยากถ่ายภาพ อยากทำงานเป็นช่างภาพ มันวิเศษมากที่ผมได้มีโอกาสเติบโตมาและทำงานเป็นช่างภาพอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับเขาช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาเสียชีวิตไปแล้ว
แล้วนางแบบนายแบบที่คุณชื่นชอบล่ะ?

ก็มีทั้งคนที่เราชื่นชอบเขาอยู่แล้ว และไม่เคยทำงานกับเขามาก่อนเลย พอได้มีโอกาสมาทำงานกันก็จะตื่นเต้นและรู้สึกดี กับอีกแบบก็คือ เราทำงานกับใครสักคนแล้วความสนิทสนมของเรากับเขาค่อยๆ พัฒนาไป แฮร์ริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) ก็เป็นคนหนึ่งที่ทำงานด้วยกันหลายครั้ง และผมแฮปปี้ที่ความสัมพันธ์ของผมกับเขาเติบโตขึ้นจากวันแรกถึงวันนี้ ทำให้ทุกครั้งที่ได้ทำงานกับเขา ก็จะแฮปปี้ ผมสนุกที่ได้ทำความรู้จักกับผู้คนที่ทำงานด้วย และผมหวังว่าจะได้มีโอกาสทำงานกับคนสำคัญในเมืองไทยเช่นกัน

คำถามสุดท้ายค่ะ การถ่ายภาพสำคัญอย่างไรกับชีวิตของคุณ?

มันคือชีวิตของผม

TAG

Related Stories

ด้วยแรงบันดาลใจแรงบันดาลใจสุดพิเศษจากสัญลักษณ์ของความหวังอย่างดวงดาวแห่งเบธเลเฮม ผสานเข้ากับวัฒนธรรมดิสโก้จากยุค 70s อย่างลงตัว
ทั้งเรื่องราวของการดูแลธุรกิจที่กำลังรุ่งโรจน์และครอบครัวที่น่ารัก
จิตวิญญาณของดินแดนอินโดจีนผ่านผู้คน ชุมชน อาหาร และโบราณสถานอันงดงาม ผ่านการเชื่อมโยงของสองรีสอร์ทหรู Amantaka หลวงพระบาง และ Amansara ในเสียมเรียบ
ปีใหม่นี้เตรียมฟังอัลบั้มเต็มชุดใหม่จากผู้ชายคนนี้ได้เลย

Most Viewed

สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
รีสอร์ทหรูแห่งใหม่ที่พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนระดับอัลตร้าลักชูรีท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
รีสอร์ทหรูแห่งใหม่ที่พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนระดับอัลตร้าลักชูรีท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
เหมือนกับเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่านี่คือยุคของ BLACKPINK อย่างแท้จริง

MORE FROM

ด้วยแรงบันดาลใจแรงบันดาลใจสุดพิเศษจากสัญลักษณ์ของความหวังอย่างดวงดาวแห่งเบธเลเฮม ผสานเข้ากับวัฒนธรรมดิสโก้จากยุค 70s อย่างลงตัว
ทั้งเรื่องราวของการดูแลธุรกิจที่กำลังรุ่งโรจน์และครอบครัวที่น่ารัก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว