เตรียมพบกับ Shadow and Bone ซีรีส์ Netflix ที่หลอมรวมนวนิยาย Six of Crows ในเดือนเมษานี้

กับบทสัมภาษณ์ของผู้แต่ง Leigh Bardugo และผู้จัด Eric Heisserer
Shadow and Bone ซีรีส์ 8 ตอนของ Netflix Original ที่ผสมผสานเรื่องราวจากหนังสือนวนิยายขายดีของ Shadow and Bone และ Six of Crows ของ ลีห์ บาร์ดูโก Leigh Bardugo เข้าด้วยกัน และได้ผู้จัด,ผู้อำนวยการสร้าง,ผู้เขียนบท เอริค ไฮส์เซอเรอร์ (Eric Heisserer) (จาก Bird Box และ ARRIVAL) ที่รับรองว่าจะกลายเป็นซีรีส์มาแรงติดท็อป 10 ของ Neflix ในเดือนเมษายนนี้ และนี่คือบทสัมภาษณ์สุดพิเศษเกี่ยวกับการต่อเรื่อง การคัดนักแสดง สำหรับแฟนหนังสือที่กำลังสงสัยว่าสองเรื่องนี้จะรวมกันได้อย่างไร

คุณผสมผสานผลงานไตรภาค Shadow and Bone และผลงานทวิภาค Six of Crows ซึ่งเกิดขึ้นในโลกเดียวกันแต่ต่างช่วงเวลากันได้อย่างไร

เอริค: หนังสือทุกเล่มเรียงตามลำดับเวลาหมด ดังนั้นตามหลักแล้วเราจะยังไม่เอ่ยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิยายชุด Six of Crows จนกว่าเรื่องราวในนิยายชุด Shadow and Bone จะจบลง  ผมกับลีห์จึงต้องสร้างเรื่องราวภาคปฐมบทขึ้นมาสำหรับตัวละครหลักใน Six of Crows ซีซั่นนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยคาซ, อิเนจ และเจสเปอร์ เพื่อให้สอดคล้องกับเค้าโครงเรื่องของ Shadow and Bone ซึ่งนับว่าเป็นงานช้างเลยทีเดียว

ลีห์: เรานำเรื่องราวใน Shadow and Bone และตัวละครจาก Six of Crows เข้ามารวมอยู่ด้วยกันในลักษณะที่ฉันคิดว่าคาดไม่ถึงจริงๆ เอริค ทีมผู้เขียนบท และทีมผู้กำกับได้สร้างสรรค์องค์ประกอบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดแต่ก็ยังยึดตัวตนของตัวละครเหล่านั้นและรักษาหัวใจสำคัญของ เรื่องเอาไว้ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เอริคนำซีรีส์แฟนตาซีสองเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพลัง สัตว์ประหลาด ความสยดสยอง และการปล้น มาหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างสวยงาม ฉันคิดว่าตัวเองโชคดีที่สุดแล้วที่ได้เจอคนที่ฉันสามารถไว้ใจให้ถือกุญแจดอกสำคัญ เพราะนี่ไม่ใช่แค่กุญแจที่ไขไปสู่หนังสือหรือซีรีส์เพียงเรื่องเดียว แต่มันปลดล็อกโลกทั้งใบที่ฉันทุ่มเทสร้างขึ้นมาเกือบตลอดชีวิตการทำงานของฉัน ฉันจริงจังกับมันมาก ฉันไว้ใจเขาและฉันก็คิดไม่ผิดที่ไว้ใจเขา

 

เนื่องจากมีการผสานเรื่องราวให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน แฟนๆ จะมีโอกาสเห็นตัวละครที่ไม่ได้เจอกันในหนังสือแต่ได้มาเจอกันในซีรีส์หรือไม่

เอริค: ครับ ผมรู้สึกตื่นเต้นที่สุดที่จะบอกว่าตัวละครบางตัวจะได้มาเจอกัน ทั้งที่ในหนังสือไม่ได้พบปะกันเลยเพราะว่าวางไว้ในช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่ในซีรีส์นี้ตัวละครเหล่านี้จะได้มาพบกันครับ และผมเชื่อว่าวินาทีเหล่านั้นจะเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายมาก

ในแง่ของการมองภาพสถานที่ คุณนำฉากสำคัญที่แตกต่างกันอย่างราฟกาและเคตเทอร์ดัมมาผสมผสานเข้าด้วยกันได้อย่างไร

ลีห์: โลกทั้งสองใบนี้ต่างกันคนละขั้วเลยจริงๆ ฉากเรื่อง Shadow and Bone เกิดขึ้นในโลกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากราชอาณาจักรรัสเซียในยุคต้นปี 1800 ราฟกาถูกแดนพยับเงาแบ่งแยกออกเป็นสองดินแดน ดังนั้นจึงเกิดสงครามอยู่ตลอดเวลาและไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประเทศอุตสาหกรรมได้สำเร็จ ส่วนฉากเรื่อง Six of Crows เกิดขึ้นในเคิร์ช ซึ่งเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ต้องข้ามทะเลจริงไป โดยมีเคตเทอร์ดัมเป็นเมืองหลวง ซึ่งคราคร่ำไปด้วยคนหลากหลายเชื้อชาติและเป็นศูนย์กลางทางการค้าระหว่างประเทศทั้งที่ถูกและผิดกฏหมาย ประเทศนี้จึงมีความมั่งคั่ง รุ่งเรือง และขับเคลื่อนด้วยการค้าและการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ ซึ่งต่างจากราฟกาโดยสิ้นเชิง
เอริค: ผมชอบคำศัพท์คำหนึ่งที่คิดค้นขึ้นมาใช้กับนิยายชุดของลีห์ นั่นคือคำว่า ซาร์พังก์ คำนี้ถือเป็นการเชิดชูรำลึกถึงอิทธิพลทางประวัติศาสตร์ของรัสเซียและยุโรปตะวันออกที่ปรากฏในหนังสือของเธอ และเราก็นำรายละเอียดข้อนี้มาใส่ในผลงานซีรีส์ โดยเฉพาะในด้านเครื่องแต่งกาย ตำนานกรีชาไม่เหมือนกับซีรีส์แฟนตาซีเรื่องอื่นๆ นัก เพราะมันมีคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง สิ่งที่สนุกที่สุดสำหรับเราในแง่ของภาพฉากก็คือการนำโลกสองใบนี้มาเขย่ารวมเป็นโลกเดียวกัน เราจะได้เห็นทั้งค่ายสงครามกระจัดกระจายเต็มไปหมด อาณาบริเวณปราสาทสุดหรูอลังการที่ราชวังน้อย และตรอกซอกซอยในเมืองเคตเทอร์ดัม ดูแล้วน่าทึ่งไปหมด

คุณมีวิธีการอย่างไรในการเฟ้นหานักแสดงที่เหมาะสมกับบทบาทของตัวละครที่เป็นที่ชื่นชอบเหล่านี้

ลีห์: โชคดีไม่ได้มีหนเดียว เราโชคดีมากๆ ที่คว้านักแสดงฝีมือดีมาครบทีมได้แบบไม่น่าเชื่อ เราได้นักแสดงที่มีเคมีเข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในจอและสนิทสนมกันนอกจอ ทุกคนตลก นิสัยดี น่ารัก และฉันก็รักทุกคน เขาใส่พลัง ความตั้งใจ และความทุ่มเทในบทบาทตัวละครอย่างเต็มความสามารถ

เอริค: นอกจากนักแสดงทุกคนจะเป็นคนจิตใจดีแล้ว เขายังเป็นนักแสดงฝีมือเยี่ยมอีกต่างหาก เราโชคดีมากจริงๆ และผมรู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมทีม ลีห์ตื่นเต้นมากที่ได้เจอทุกคนและได้เห็นบรรดาตัวละครของเธอมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ

 

คุณมีวิธีการอย่างไรในการคัดตัวนางเอก อาลินา สตาร์คอฟ ที่รับบทโดยเจสซี่ เมย์ ลี และคุณมีการปรับเปลี่ยนตัวละครของเธออย่างไร สิ่งหนึ่งที่ต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างซีรีส์และหนังสือก็คือ อาลินากลายเป็นลูกครึ่งชูฮัน

ลีห์: เจสซี่เปรียบเสมือนตะวันทอแสงอย่างแท้จริง เธอเหมาะมากที่จะมาสวมบทบาทตัวละครที่มีพลังในการเรียกสุริยะ ตอนที่เราคัดเลือกนักแสดงที่จะมารับบทอาลินา เขาส่งเทปออดิชั่นมาให้ฉัน 5 เทป ฉันไล่ดูมาจนถึงเทปที่สามซึ่งเป็นเทปของเจสซี่ ฉันถึงกับหยุดเทปแล้วโทรหาผู้สร้างคนหนึ่งและบอกเขาว่า “บทนี้ต้องเป็นของเจสซี่นะ เพราะฉันจะไม่ดูเทปของใครแล้ว” ฉันคิดว่าวัฒนธรรมปลูกฝังให้พวกเรารู้สึกมาโดยตลอดว่าเรื่องราวแฟนตาซี เวทมนตร์ พลัง การกลายร่าง และการผจญภัยเหมาะกับคนที่เป็นชายแท้ผิวขาวหุ่นดีเท่านั้น และฉันก็คิดว่าตอนนี้เราได้เห็นมุมมองความคิดที่เปลี่ยนไปแล้ว และฉันหวังว่าเรื่อง Shadow and Bone จะเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ว่า และฉันก็หวังว่าเราจะสามารถสร้างโลกแฟนตาซีที่เปิดรับทุกคนเข้ามาอยู่ในเรื่องราวนี้

เอริค: เจสซี่มีความสดใสกระตือรือร้นที่จะเผชิญกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่รออยู่ เธอเป็นคนตลกเฮฮา แต่ก็มีความตั้งใจสูง ผมกับลีห์รู้สึกตื่นเต้นในการปรับบทอาลินาให้เป็นลูกครึ่งชูฮันในซีรีส์เรื่องนี้  ด้วยความที่เจสซี่เองก็เป็นลูกครึ่ง เธอจึงมีประสบการณ์ส่วนตัวมากมายที่ผูกเข้ากับตัวละครที่เราสร้างขึ้นมาเป็นตัวอาลินา เราชอบไอเดียที่สื่อออกมาให้เห็นว่าเหตุผลส่วนหนึ่งที่เธอผูกพันกับมัลตอนที่ทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้าอยู่ที่เครามซินก็เพราะว่าทั้งสองคนเป็นลูกครึ่งเหมือนกัน และเป็นช่องทางที่เอื้อให้เราสามารถปรับบทในผลงานดัดแปลงนี้ได้ เนื่องจากอาลินาเป็นลูกครึ่งชูฮัน เธอจึงมีมลทินติดตัวตั้งแต่วัยเด็กเพราะหน้าตาดูเหมือนฝ่ายศัตรูของราฟกา แต่เธอก็ร่วมต่อสู้อยู่ในกองพลที่หนึ่งของราฟกา เราต้องการเน้นความสำคัญไปที่ตัวนางเอกที่ต้องรับมือกับการปรับตัว ซึ่งสอดคล้องกับคำถามสำคัญตลอดเส้นทางชีวิตของเธอและซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ “ฉันเป็นคนฝ่ายไหนกันแน่” แรงจูงใจส่วนใหญ่เลยมาจากทีมผู้เขียนบทเรื่องนี้โดยเฉพาะคริสติน่า สเตรน, เชลลีย์ มีลส์ และเดแกน ฟริคลินด์ หน้าที่อย่างหนึ่งของผมในฐานะผู้จัดคือการรับฟังทีมงานรอบข้าง และหาว่าอะไรคือจุดสำคัญสำหรับเขา  ตัวผมเองไม่เคยเจอประสบการณ์แบบเดียวกับที่อาลินาต้องเผชิญ แต่ผมรู้ว่าจุดนี้สำคัญมากๆ

 

ทำไมคุณถึงคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้จะสามารถดึงดูดทั้งแฟนหนังสือที่ติดตามผลงานมานานและแฟนคลับหน้าใหม่ได้

ลีห์:  เมื่อแฟนๆ ได้ชมซีรีส์เรื่องนี้ ฉันหวังว่าทุกคนจะหลุดเข้าไปอยู่ในโลกที่ต่างไปจากสถานที่ที่เคยสัมผัสมา นี่ไม่ใช่โลกแห่งดาบและเวทมนตร์คาถา ซีรีส์เรื่องนี้ต้องการให้คุณมาหาคำตอบว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเอาปืนไปสู้กับพลังพิเศษ” มันคือเรื่องราวเกี่ยวกับพลังพิเศษ โชคชะตาที่ยิ่งใหญ่ และกลอุบายในราชสำนัก นอกจากนี้ยังพูดถึงผู้คนที่ถูกมองข้ามและถูกมองว่าต่ำต้อยด้อยค่า

TAG

Related Stories

พร้อมยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโฉมใหม่สุดหรูริมทะเลอันดามัน
มาชิมและถ่ายรูปกับขนมหวานโดย KKI Sweets และเมนูอาหารรสเด็ดจากร้านบรันช์สุดชิค Babyccino
ทั้งเรื่องราวของการดูแลธุรกิจที่กำลังรุ่งโรจน์และครอบครัวที่น่ารัก
ด้วยแรงบันดาลใจแรงบันดาลใจสุดพิเศษจากสัญลักษณ์ของความหวังอย่างดวงดาวแห่งเบธเลเฮม ผสานเข้ากับวัฒนธรรมดิสโก้จากยุค 70s อย่างลงตัว
จิตวิญญาณของดินแดนอินโดจีนผ่านผู้คน ชุมชน อาหาร และโบราณสถานอันงดงาม ผ่านการเชื่อมโยงของสองรีสอร์ทหรู Amantaka หลวงพระบาง และ Amansara ในเสียมเรียบ

Most Viewed

สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
จิตวิญญาณของดินแดนอินโดจีนผ่านผู้คน ชุมชน อาหาร และโบราณสถานอันงดงาม ผ่านการเชื่อมโยงของสองรีสอร์ทหรู Amantaka หลวงพระบาง และ Amansara ในเสียมเรียบ
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
จิตวิญญาณของดินแดนอินโดจีนผ่านผู้คน ชุมชน อาหาร และโบราณสถานอันงดงาม ผ่านการเชื่อมโยงของสองรีสอร์ทหรู Amantaka หลวงพระบาง และ Amansara ในเสียมเรียบ

MORE FROM

พร้อมยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโฉมใหม่สุดหรูริมทะเลอันดามัน
มาชิมและถ่ายรูปกับขนมหวานโดย KKI Sweets และเมนูอาหารรสเด็ดจากร้านบรันช์สุดชิค Babyccino

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว