บาซาร์พาไปเปิดประสบการณ์ความหรูหราเหนือกาลเวลาของ Raffles Grand Hotel D’Angkor แลนด์มาร์กที่เพิ่งได้รับการรีโนเวทภายในใหม่พร้อมสิ่งที่อำนวยความสะดวกสบาย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลที่อนุรักษ์ไว้นับตั้งแต่เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวในปี 1932 โดยบริเวณรอบๆ โรงแรมล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ขอมโบราณ จึงทำให้เห็นถึงเสน่ห์และความสง่างามที่ผสมผสานสมบัติล้ำค่าจากประวัติศาสตร์อันยาวนานเข้ากับความสะดวกสบายร่วมสมัยสุดลักชัวรี่ พร้อมให้แขกที่มาเยือนได้เปิดรับประสบการณ์และได้ลิ้มรสอาหารเขมรแท้ๆ จิบค็อกเทลริมสระว่ายน้ำที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในเมือง เดินเล่นในสวนอันเขียวชอุ่ม และผ่อนคลายไปกับสปาทรีตเมนต์แบบเขมรโบราณอย่างแท้จริง



ห้องพัก State Room มีขนาดเริ่มต้นที่ 32 ตารางเมตร ตกแต่งสไตล์อาร์ตเดโค ให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยพื้นไม้สีเข้ม ภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์บนผนัง เครื่องเรือนจำลองแบบโบราณ รวมถึงโคมไฟตั้งโต๊ะย้อนยุคและเตียงขนาดใหญ่ที่สะดวกสบายพร้อมทิวทัศน์ของ Royal Gardens หรือวิวสระว่ายน้ำที่จะทำให้การเข้าพักผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น และห้องพัก Landmark Room ที่ยังคงเป็นไอคอนิกตั้งแต่ปี 1932 ที่มีระเบียงขนาดใหญ่ที่สามารถจัดมื้ออาหารค่ำใต้แสงเทียนสำหรับโอกาสพิเศษได้อีกด้วย และห้องน้ำที่ได้รับการตกแต่งใหม่และทันสมัย ปูกระเบื้องด้วยหินอ่อนอิตาลี และมีพื้นที่ฝักบัวแบบวอล์กอินขนาดใหญ่







มาถึงห้องพักไฮไลต์แบบ Colonial Suite ที่มีขนาดกว้างขวางพร้อม Personal Butler ที่จะคอยช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินต่างๆ ภายในตกแต่งด้วยภาพถ่ายของอังกอร์วัดบนผนังโดยช่างภาพชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง John McDermott พร้อมห้องน้ำที่มีทั้งอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่และฝักบัว Rain Shower แบบวอล์กอินและ Amenity ต่างๆ ในห้องน้ำโดย Christian Lacroix มอบความผ่อนคลายพร้อมความหรูหราได้ในขณะเดียวกัน


ภายในโรงแรมมีร้านอาหาร The Restaurant 1932 ซึ่งได้รับความนิยมจากคนในท้องถิ่นมากพอๆ กับแขกของโรงแรม เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในเมืองในการลิ้มลองอาหารเขมรที่สืบทอดมาจากเชฟที่ทำงานในพระราชวัง ตลอดจนอาหารเขมรคลาสสิกสมัยใหม่ การเลือกรับประทานอาหารตะวันตกที่หรูหราไม่แพ้กัน เมนูเด็ด อาทิ สลัดดอกกล้วยกับปลารมควันและไก่เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ดี ส่วนในบรรดาอาหารจานหลัก เป็ดนึ่งกับเครื่องเทศท้องถิ่นในใบบัวนั้นรสชาติอร่อยล้ำไม่เหมือนใคร





The Cafe d’Angkor ห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารเช้า มีพื้นที่ทั้งด้านในและด้านนอกที่สามารถเลือกชมวิวและ แขกที่เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับอาหารเอเชียและอาหารตะวันตกหลากหลายรายการ ตั้งแต่เมนูก๋วยเตี๋ยวท้องถิ่นไปจนถึงเบอร์เกอร์รสเลิศ บนลานเฉลียงที่มองเห็นสระว่ายน้ำ มีน้ำชายามบ่ายแบบดั้งเดิมให้บริการใน The Conservatory ซึ่งมองเห็นสระว่ายน้ำและสวน สำหรับอาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ พร้อมสปาร์คกลิ้งไวน์และอาหารตะวันตกและอาหารเอเชียมากมาย รวมทั้งโยเกิร์ต สมูทตี้ และน้ำผลไม้ที่คัดสรรมาอย่างดี





นอกจากนี้ก็ยังมี Elephant Bar บาร์ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและมีรายการเครื่องดื่มมากมาย อาทิ ไวน์ชั้นเยี่ยม Gin พื้นเมืองที่รสชาติกลมกล่อม และหลากหลายเมนูที่นำเอาสมุนไพรพื้นถิ่นและผลไม้ที่ปลูกใน Culinary Garden ภายในโรงแรมมาใช้ในการปรุงแต่ง และ Raffles Spa & Fitness ที่พร้อมดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยเมนูและทรีทเมนต์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะการนวดแบบกัมพูชาแท้ๆ ที่จะช่วยเปิดประสบการณ์สัมผัสทั้งห้า เลือกรับการปรนนิบัติในห้องทรีตเมนต์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม หรือจะเป็นในสวนและริมสระว่ายน้ำ แม้กระทั่งในห้องสวีทของคุณ ทุกที่ที่คุณรู้สึกสบายที่สุด หรือจะเลือกผ่อนคลายในห้องซาวน่าหรือห้องอบไอน้ำ ปล่อยใจให้สบายในอ่างจากุซซี่ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ยาวถึง 35 เมตร ซึ่งจำลองมาจากการอาบน้ำแบบโบราณของนครอังกอร์ รวมถึงเพลิดเพลินกับการนวดเท้าริมสระว่ายน้ำใต้ต้นลีลาวดีก่อนไปสปาขัดผิวหน้าหรือตัว
ต้องบอกเลยว่า Raffles Grand Hotel D’Angkor ทำให้เราค่อยๆ ปรับวีถีชีวิตให้ช้าลงและสูดลมหายใจเข้าไปในวัฒนธรรมระหว่างการเข้าพักของคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกรับประทานอาหารในร้านอาหารแบบดั้งเดิมหรือเยี่ยมชมหนึ่งในสถานที่สำคัญที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของกัมพูชาในระหว่างการเข้าพักของคุณ



Raffles Grand Hotel D’Angkor อยู่ห่างจากนครวัดเพียง 8 กิโลเมตร ใจกลางย่าน French Quarter ใกล้ถนนศิวะธาที่คึกคัก ตลาด Phsar Chas และวัดโบอันวิจิตรงดงาม สนามบินนานาชาติเสียมเรียบอยู่ห่างออกไปเพียง 20 นาทีโดยรถยนต์
นอกจากนี้ โรงแรม Raffles Grand Hotel D’Angkor ยังได้นำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวในเมืองเสียมเรียบที่ไม่เหมือนใครและคัดสรรมาแล้วจากพาร์ทเนอร์อย่าง Taste Siemreap ที่จะนำพาแขกไปเที่ยวแบบเป็นกันเองเหมือนไอเดียที่ว่า “พาไปเที่ยวให้เหมือนเวลาเราพาเพื่อนหรือคนในครอบครัวไปเที่ยว” โดยมีสถานที่ไฮไลต์อย่างแกลเลอรี่ที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารพื้นถิ่นโดยเชฟชาวเขมร และพาไปบาร์ Local ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารและเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรพิเศษ


และเนื่องในโอกาสครบรอบ 90 ปี ทางโรมแรม Raffles Grand Hotel D’Angkor ได้มีการจัดแสดงการเล่นหุ่นละครหนัง การรำพื้นเมือง และการรำอัปสราแบบพื้นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์ไว้
Sbek Thom คณะละครหุ่นหนังวัดบ่อแห่งกัมพูชา เป็นละครการแสดงประเภทหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในกัมพูชา ที่ใช้แสงและเงาจากหุ่นกระบอกหนัง ถ่ายทอดตำนานและเรื่องราวโบราณมาสู่ชีวิต ย้อนหลังไปถึงศตวรรษที่ 9 เงาที่วาดจากเงาของหุ่นกระบอกบอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์ของ Reamker เวอร์ชั่นกัมพูชาของรามเกียรติ์ และมาพร้อมกับวงดุริยางค์พินพีทและผู้บรรยายสองคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีในราชสำนัก เดิมทีได้รับการประกาศในปี 2548 ในฐานะผลงานชิ้นเอกในรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นตัวแทนขององค์การยูเนสโก รูปแบบศิลปะนี้ยังคงเป็นการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศอีกด้วย

บองซอง การรำพื้นเมืองอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนครอังกอร์ พิธีนี้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับวันครบรอบ 90 ปีของ Raffles Grand Hotel d’Angkor โดยนักเต้นศักดิ์สิทธิ์แห่งนครอังกอร์ ทุกคนเกิดและฝึกฝนด้วยมิติทางจิตวิญญาณที่ไม่เหมือนใครในแหล่งมรดกโลกเมืองอังกอร์ของยูเนสโก ก่อตั้งโดย Ravynn Karet Coxen ภารกิจของพวกเขาได้รับการสนับสนุนอย่างสุดใจจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสีหมุนีและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
Royal Ballet of Cambodia หรือที่รู้จักในชื่อการรำอัปสราแบบคลาสสิก มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับราชสำนักเขมรมากว่า 1,000 ปี การแสดงตามประเพณีควบคู่ไปกับพระราชพิธีและพิธีต่างๆ เช่น พิธีบรมราชาภิเษกและการแต่งงาน ร่ายรำด้วยบทบาทอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นสัญลักษณ์ การเต้นรำผสมผสานคุณค่าดั้งเดิมของความประณีต ความเคารพ และจิตวิญญาณ ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมเขมร บทละครนี้สืบสานตำนานที่เกี่ยวข้องกับชาวกัมพูชา ด้วยเหตุนี้ UNSECO จึงประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เนื่องจากมีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น

Raffles Grand Hotel d’Angkor สำรองห้องพักได้ที่ โทร. +855 63 963 888 หรืออีเมล bookus.siemreap@raffles.com สามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.rafflessiemreap.com และเฟซบุ๊ก facebook.com/RafflesSR






















ต้องบอกเลยว่า Raffles Grand Hotel D’Angkor ทำให้เราค่อยๆ ปรับวีถีชีวิตให้ช้าลงและสูดลมหายใจเข้าไปในวัฒนธรรมระหว่างการเข้าพักของคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกรับประทานอาหารในร้านอาหารแบบดั้งเดิมหรือเยี่ยมชมหนึ่งในสถานที่สำคัญที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของกัมพูชาในระหว่างการเข้าพักของคุณ




นอกจากนี้ โรงแรม Raffles Grand Hotel D’Angkor ยังได้นำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวในเมืองเสียมเรียบที่ไม่เหมือนใครและคัดสรรมาแล้วจากพาร์ทเนอร์อย่าง Taste Siemreap ที่จะนำพาแขกไปเที่ยวแบบเป็นกันเองเหมือนไอเดียที่ว่า “พาไปเที่ยวให้เหมือนเวลาเราพาเพื่อนหรือคนในครอบครัวไปเที่ยว” โดยมีสถานที่ไฮไลต์อย่างแกลเลอรี่ที่เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารพื้นถิ่นโดยเชฟชาวเขมร และพาไปบาร์ Local ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารและเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรพิเศษ



Sbek Thom คณะละครหุ่นหนังวัดบ่อแห่งกัมพูชา เป็นละครการแสดงประเภทหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในกัมพูชา ที่ใช้แสงและเงาจากหุ่นกระบอกหนัง ถ่ายทอดตำนานและเรื่องราวโบราณมาสู่ชีวิต ย้อนหลังไปถึงศตวรรษที่ 9 เงาที่วาดจากเงาของหุ่นกระบอกบอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์ของ Reamker เวอร์ชั่นกัมพูชาของรามเกียรติ์ และมาพร้อมกับวงดุริยางค์พินพีทและผู้บรรยายสองคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีในราชสำนัก เดิมทีได้รับการประกาศในปี 2548 ในฐานะผลงานชิ้นเอกในรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นตัวแทนขององค์การยูเนสโก รูปแบบศิลปะนี้ยังคงเป็นการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศอีกด้วย


Royal Ballet of Cambodia หรือที่รู้จักในชื่อการรำอัปสราแบบคลาสสิก มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับราชสำนักเขมรมากว่า 1,000 ปี การแสดงตามประเพณีควบคู่ไปกับพระราชพิธีและพิธีต่างๆ เช่น พิธีบรมราชาภิเษกและการแต่งงาน ร่ายรำด้วยบทบาทอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นสัญลักษณ์ การเต้นรำผสมผสานคุณค่าดั้งเดิมของความประณีต ความเคารพ และจิตวิญญาณ ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมเขมร บทละครนี้สืบสานตำนานที่เกี่ยวข้องกับชาวกัมพูชา ด้วยเหตุนี้ UNSECO จึงประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เนื่องจากมีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น

