BAZAAR x Chef’s Table at Lebua มอบสิทธิพิเศษ ไฟน์ไดนิ่งสุดหรูสไตล์ฝรั่งเศส เจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์

ภายหลังการปรากฏตัวในฉากหนึ่งของภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องดังอย่าง The Hangover 2 เมื่อปี ค.ศ. 2017 ชื่อของโรงแรมสุดหรูอย่าง “เลอ บัว” (Lebua Hotels & Resorts) ก็ทวีความโด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในระยะเวลาเพียงชั่วข้ามคืน ซึ่งนอกจากร้านอาหารบนดาดฟ้า “Sirocco” ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของโรงแรมแห่งนี้ไปแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่ทราบมาก่อนว่า โรงแรมเลอบัวเป็นโรงแรมเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ถึง 2 ร้าน หนึ่งในนั้นคือ ร้านอาหารฝรั่งเศสแบบไฟน์ไดนิ่งที่มีชื่อว่า “เชฟส์ เทเบิ้ล แอท เลอบัว (Chef’s Table At Lebua)”

“Vincent Thierry” สุดยอดเชฟผู้พลิกโฉมร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งในเมืองไทย

แม้บรรยากาศและการตกแต่งร้านอันหรูหราด้วยโทนสีทองเมทัลลิกและหินอ่อนจะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ตอบโจทย์ความเป็นร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งได้อย่างชัดเจน หากแต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการสร้างสรรค์เมนูอาหารอย่างประณีตวิจิตรบรรจง ซึ่งคงต้องยกความดีเหล่านี้ให้กับ “เชฟวินเซนต์ เทียร์รี่” (Vincent Thierry) และทีมงานแห่งร้าน Chef’s Table

เชฟ Vincent Thierry เกิดและเติบโตในบริเวณลุ่มแม่น้ำลัวร์ หรือที่รู้จักกันในนาม Garden of France และเรียนรู้ศิลปะการปรุงอาหารจากร้านขึ้นชื่อมากมายในกรุงปารีส โดยที่เขาจะให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์อาหารฝรั่งเศสโดยไร้สิ่งปรุงแต่งที่ไม่จำเป็น ที่สำคัญ เขายังเคยเป็นหัวหน้าเชฟของร้าน Caprice ในฮ่องกง ร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 3 ดาวก่อนที่เขาจะเดินทางมาสู่กรุงเทพฯในฐานะของเชฟรางวัลมิชลินสตาร์คนแรกที่เปิดร้านในประเทศไทย

ความลงตัวของงานอินทีเรียดีไซน์ที่สะท้อนทุกรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน

ก่อนหน้าที่ร้าน Chef’s Table จะสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เราเห็น เชฟ Vincent และผู้ร่วมงาน ต่างระดมสมองกันหลายเดือนว่าจะนำเสนอแนวคิด Chef’s Table อย่างไร ในที่สุดก็ได้ร้านที่มีครัวแบบโล่งรอบทิศทางที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งใจกลางบริเวณรับประทานอาหาร หรือที่เชฟ Vincent เรียกว่า “โถง Fine Dining พร้อมครัวเปิด” พื้นที่ที่ชวนให้นึกถึงความใกล้ชิดแบบ Kappo (Chef’s Table แบบญี่ปุ่น) โดยยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวของแขกได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่โต๊ะรับประทานอาหารทุกโต๊ะต่างหันหน้าเข้าหาครัวเปิด เพื่อให้แขกทุกคนได้รับชมความมหัศจรรย์ที่ออกมาจากเตาอบที่แพงที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกอย่าง Molteni ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นเวทีแสดงฝีมือในการสร้างสรรค์ศิลปะการปรุงอาหารชั้นสูง ในขณะที่กลิ่นและควันที่เกิดขึ้นจากการประกอบอาหารก็จะถูกจัดการอย่างหมดจดด้วยสุดยอดระบบระบายอากาศที่ถูกติดตั้งไว้ภายในร้านอย่างแนบเนียน

และหากคุณต้องการประสบการณ์ที่แสนเพอร์เฟ็กต์ เราขอแนะนำให้คุณไปถึงที่ร้านในช่วงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เพื่อที่จะชมท้องฟ้าอันงดงามในยามเย็นของกรุงเทพฯ และอย่าลืมแวะจิบแชมเปญหายากและคานาเป้จากฝีมือของเชฟ Vincent ที่ “พิ้งก์ บาร์ (Pink Bar)” บาร์สีชมพูที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกัน ก่อนจะเริ่มต้นมื้อค่ำอันแสนรื่นรมย์

จากเมนูอาหารฝรั่งเศสสุดหรูหรา สู่ปรากฏการณ์ไฟน์ไดนิ่งระดับเวิลด์คลาส

สำหรับสไตล์อาหารของร้าน Chef’s Table ล้วนเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผสมผสานกับเรื่องราวที่ทางเชฟ Vincent ต้องการนำเสนอ โดยแต่ละจานถูกนำเสนอในฐานะอาหารฝรั่งเศสสุดคลาสสิกที่มีความเรียบง่ายตรงไปตรงมา ภายใต้ปรัชญา “80/20” (วัตถุดิบท้องถิ่น 80% และวัตถุดิบนำเข้า 20%) โดย 80% ของวัตถุดิบหายากที่นำมาใช้มาจากแหล่งที่มาเกรดพรีเมียมในประเทศไทย ส่วนวัตถุดิบที่ต้องนำเข้า ทางร้านจะคัดสรรอย่างพิถีพิถันจากผู้ผลิตที่มีคุณภาพระดับโลกเท่านั้น
ในส่วนของเมนูคอร์สที่ Chef’s Table ประกอบไปด้วย 8 เมนู โดยมีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง King Crab Tiramisu, Seared Foie Gras หรือจะเป็น Roasted Challans Duck โดยระหว่างมื้อยังมีชีสพรีเมียมชนิดต่างๆ ให้เลือกชิมกันแบบจุใจ สนนราคาของเมนูคอร์สอยู่ที่ 7,900++ บาท หากต้องการดื่มด่ำกับไวน์เลิศรส สามารถเพิ่มคอร์สไวน์แพร์ริ่ง เพิ่มเติม ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 4,500++ – 6,900++ บาท

BAZAAR x Chef’s Table at Lebua กับแคมเปญ BAZAAR Book With Us

สิทธิพิเศษ! สำหรับผู้อ่านนิตยสารฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ประเทศไทย เมื่อลงทะเบียนเพื่อสำรองที่นั่งร้าน Chef’s Table At Lebua (ราคา 7,900++บาท/ท่าน) รับทันที! Special Champagne 1 แก้วต่อท่าน (มูลค่า 1,800 บาท) พร้อมบริการรถรับ-ส่งโดยรถยนต์ Mercedes-Benz E-Class หรือ Luxury Van สิทธิพิเศษนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2563 (ขอสงวนสิทธิ์ งดการใช้โปรโมชั่นนี้ในวันที่ 25 และ 31 ธันวาคม 2563)
ลงทะเบียน BAZAAR Book With Us >> CLICK <<
ขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ

1. ผู้อ่านลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษทาง www.harpersbazaar.co.th โดยกรอกชื่อ-นามสกุล, อีเมล และเบอร์โทรศัพท์
2. จากนั้นผู้อ่านจะได้รับ QR Code และกด Booking เพื่อสำรองที่นั่งยังเว็บไซต์ www.lebua.com
3. เมื่อถึงวันนัดหมาย ผู้อ่านจะต้องแสดง QR Code ให้พนักงานของเลอบัวสแกนยืนยันการใช้สิทธิ์