ความมุ่งมั่นที่จะแสดงออกทางศิลปะนี่เองทำให้ลา แพรรีเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับงานอาร์ตแฟร์ร่วมสมัยชั้นนำระดับโลกอย่าง ‘Art Basel’ ซึ่งจัดขึ้นประจำทุกปีในเมืองบาเซิล ฮ่องกง และไมอามีบีช โดยที่ทางแบรนด์จะคัดเลือกศิลปินเพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะผ่านมุมมองแห่งกาลเวลาของศิลปินเพื่อเปรียบเทียบเชิงสร้างสรรค์ถึงคุณค่าของแบรนด์ลา แพรรี และในปีนี้เองทางแบรนด์ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Foundation Beyeler (ฟอนเดชั่น ไบย์เลอร์) สถาบันศิลปะอันทรงเกียรติสูงสุดแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ผลงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ 4 ชิ้นให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต

ฟอนเดชั่น ไบย์เลอร์คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ณ เมืองบาเซิลที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 โดยนักสะสมผลงานศิลปะและเจ้าของแกลลอรี่ เอิร์นส์และฮิลดี ไบย์เลอร์ ซึ่งรวบรวมงานศิลปะยุคหลังอิมเพรสชั่นนิสต์ ยุคคาสสิกโมเดิร์น และงานศิลปะร่วมสมัยรวมกันกว่า 400 ชิ้น และจัดงานนิทรรศการชั่วคราวปีละ 3-4 ครั้ง โดยมีผลงานของศิลปินชื่อดังอย่างปิกัสโซ่, โกลด โมเน่ต์, ปอล เซซานน์, อ็องรี มาติส และอีกมากมาย

โดยที่นี่นั้นนับว่ามีคอลเลกชั่นภาพวาดของ Piet Mondrian (พีต โมนดริยาน) อยู่เป็นจำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยมีผลงานตั้งแต่งานชิ้นสำคัญในช่วงเริ่มต้นอาชีพ เรื่อยมาจนถึงผลงานคลาสสิกในช่วงหลังของเขา ซึ่งการวางแผนจัดแสดงผลงานของพีต โมนดริยานครั้งใหญ่ที่นี่ได้นำสู่การเริ่มต้นโปรเจ็คท์ค้นคว้าวิจัยและอนุรักษ์ผลงานของเขาเป็นระยะเวลา 2 ปีเต็ม โดยโฟกัสที่การอนุรักษ์ผลงานมาสเตอร์พีซจำนวน 4 ชิ้น


อันได้แก่ Tableau No.1; Composition with Yellow and Blue; Composition with Double Line and Blue และ Lozenge Composition with Eight Lives and Red ซึ่งผลงานเหล่านี้ถูกวาดขึ้นช่วงค.ศ 1921-1938 ล้วนแล้วแต่เผยให้เห็นสไตล์ที่ทั้งโดดเด่นและเลียนแบบได้ยาก ซึ่งบรรจุไว้ด้วยความเฉียบคม แม่นยำ และพิถีพิถันอย่างถึงที่สุด


ซึ่งเป็นการสร้างภาษาภาพที่ส่งอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญต่อวัฒนธรรมทางศิลปะในศตวรรษที่ 20 และในช่วงเวลาต่อมา เป็นข้อพิสูจน์ว่าพีต โมนดริยานเป็นศิลปินผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์อย่างแท้จริง เป็นผู้ที่ไม่หวั่นเกรงต่อการมุ่งสำรวจส่วนประกอบพื้นฐานของการสร้างงานศิลปะที่สดใหม่ ความทุ่มเทต่อการสร้างผลงานที่มีความแม่นยำของเขาเผยให้เห็นอย่างเด่นชัดในผลงานภาพวาดที่นำเสนอรายละเอียดที่สมดุล มีระเบียบแบบแผน และความกลมกลืนของโลกในแบบที่เขามองเห็น

ซึ่งเรื่องราวของการร่วมมือในครั้งนี้ทางลา แพรรีใช้แนวคิดแบบทดลองเพื่อสื่อสารเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะโดยการสร้างคอนเทนท์ดิจิทัลที่บอกเล่าเรื่องราวในรูปแบบของการบันทึก โดยจะแบ่งออกเป็นตอนๆ ต่อเนื่องเป็นซีรี่ส์ที่มีให้ชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟทาง The Art Journal บนเว็บไวท์ www.laprairie.com ใครที่สนใจอยากรู้ถึงแนวคิด กระบวนการทำงาน และกรรมวิธีในการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 20 ท่านนี้ สามารถกดเข้าไปชมได้เลย










