Gangubai Kathiawadi ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากผู้ชม และยังทำรายได้ในช่วงเข้าโรงได้ดีจนเป็นสถิติของวงการภาพยนตร์อินเดียในช่วงหลังโควิด และยังเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่โดดเด่นที่สุดของปี 2022 โดยหลังจากที่ได้เปิดสตรีมทาง Netflix ผู้ชมก็ได้สัมผัส รัก และชื่นชมหนังเรื่องนี้กันทั่วโลก และในสัปดาห์แรกที่เปิดตัวบน Netflix Gangubai Kathiawadi ขึ้นไปติดชาร์ทอันดับหนึ่งของโลกในกลุ่มภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และยังเข้าไปติดชาร์ท Top 10 ใน 25 ประเทศ ตั้งแต่ออสเตรเลีย แคนาดา ไปจนถึงสหราชอาณาจักร จนกระทั่งผ่านไป 6 สัปดาห์เต็ม ตัวหนังก็ยังติดอยู่ใน Top 10 ของชาร์ทภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ นับเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากมายอย่างท้วมท้น และครั้งนี้เอง Harper’s Bazaar Thailand จึงได้โอกาสคว้าตัว Alia Bhatt มาร่วมพูดคุยผ่านบทสัมภาษณ์อย่างใกล้ชิด
คุณรู้สึกยังไงบ้าง หลังจากที่ภาพยนตร์ Gangubai Kathiawadi: หญิงแกร่งแห่งมุมไบ ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม?
น่าทึ่งมากเลยค่ะที่ Netflix ช่วยให้เรื่องราวดีๆ ได้เดินทางข้ามทุกพรมแดน ให้ผู้ชมทั่วโลกได้สัมผัสไปด้วยกัน ความรักและเสียงชื่นชมจากทั้งผู้ชม ครอบครัว และเพื่อนๆ นับเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่จนทำให้ฉันรู้สึกตัวเล็กไปเลยค่ะ แรงสนับสนุนแบบนี้ จากทั้งคนดูและคนสนิท คือสิ่งที่เติมพลังให้ฉันเดินหน้าทำงานและรักในเนื้องานต่อไปในฐานะนักแสดง
คิดยังไงบ้างกับการมารับบทคังคุไบ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่ต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี?
ภาพยนตร์ Gangubai Kathiawadi สร้างขึ้นจากหนังสือ “Mafia Queens of Mumbai” ของฮุสเซน ไซดี และฉันก็รับบทเป็นคังคุไบเองค่ะ ตอนที่ได้รับเลือกให้มาแสดงในบทนี้ ความรู้สึกแรกๆ เลยคือทั้งตื่นเต้นและกลัวค่ะ ตื่นเต้นเพราะว่าในฐานะนักแสดง ฉันต้องการท้าทายตัวเองด้วยการสวมบทบาทของตัวละครที่มีความลึกซึ้งในตัวเอง แต่ก็กลัวไปด้วย เพราะรู้สึกว่าคังคุไบเป็นบทที่ท้าทายแบบท่วมท้นมากๆ ค่ะ เพราะคังคุไบเป็นคนที่ทั้งแข็งแกร่ง กล้าหาญ มั่นใจ และมีสไตล์ ยิ่งในยุคนั้นแล้ว การออกมาสร้างกระแส ผลักดันการต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้หญิงในกามธิปุระ ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ คังคุไบมีบุคลิกที่โดดเด่น มีความเชื่อมั่นในจุดมุ่งหมายของตัวเองอย่างเต็มร้อย การนำเอาลักษณะและบุคลิกทั้งหมดนี้มาผสมผสานให้ออกมาเป็นตัวละครคังคุไบที่สมบูรณ์จึงเป็นโจทย์ที่ยากมาก แต่ก็คุ้มค่าที่ได้ทำค่ะ
การทำงานกับซันเจย์ ลีลา บานซาลี เป็นยังไงบ้าง?
ตอนที่คุณซันเจย์ ลีลา บานซาลี อ่านสคริปต์ให้ฟังเป็นครั้งแรก ก็รู้สึกสนใจและประทับใจค่ะที่นักสร้างภาพยนตร์ที่มีวิสัยทัศน์ระดับเขา เลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวแนวนี้ แถมยังเชื่อมั่นในตัวฉันให้มารับบทคังคุไบด้วย การทำงานร่วมกับเขาเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ค่ะ ทุกวัน ก่อนที่เราจะเริ่มถ่ายทำกัน เขาจะแนะนำให้ฉันลองคิดและสะท้อนมุมมองของตัวเองว่าจะทำให้ฉากนี้ดูจริงขึ้นได้ยังไงบ้าง เท่ากับว่าเปิดโอกาสให้เราได้คิดและมองในมุมใหม่ที่พ้นจากกรอบเดิมๆ ไปค่ะ การร่วมงานกับคุณซันเจย์ ลีลา บานซาลี ได้เปลี่ยนแปลงตัวฉันเอง ทั้งในมุมส่วนตัวและในฐานะนักแสดงเลยค่ะ เพราะที่ผ่านมาก็เคยคิดอยากร่วมงานกับเขาอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนอายุ 9 ขวบ ก็เคยฝันว่าสักวันจะได้เป็นนักแสดงในภาพยนตร์ที่เขากำกับ และพอสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นจริง ก็รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณมากๆ เลยค่ะฉากเต้นฉากหนึ่งใน Gangubai กลายเป็นซีนที่ฮิตมากทั้งใน TikTok และโซเชียลมีเดียอื่นๆ การถ่ายฉากเต้นต่างๆ เป็นยังไงบ้าง? มีอะไรที่พิเศษหรือน่าจดจำมาแชร์กับแฟนๆ ไหม?
ฉากเต้นเป็นซีนที่ถ่ายสนุกมาก แต่ก็ยากมากเหมือนกันค่ะ อย่างเพลง “Dholida” ที่ใช้ท่าเต้นแบบ Garba ซึ่งเราเองก็ไม่คุ้นเคย เป็นท่าเต้นสไตล์พื้นเมืองที่ดูเหมือนจะง่าย แต่ต้องใช้เทคนิคการเต้นที่ซับซ้อนมาก วันที่ถ่ายจริง ต้องบอกว่าตื่นเต้นและสนุกมาก แต่ก็เป็นวันที่งานหนักเลย ฉันต้องซ้อมแล้วซ้อมอีกอยู่ราว 4 วันเต็มๆ ก่อนที่จะเริ่มถ่ายจริง พอได้เห็นว่าเพลงสร้างกระแสไปได้ทั่วโลก ก็ทั้งแฮปปี้และแปลกใจเลยค่ะ ฉันได้เห็นคลิปเพียบเลย ทั้งจากคนไทยและประเทศอื่นๆ ที่พร้อมใจกันออกมาเต้นหรือแสดงตามแบบซีนต่างๆ ในหนัง ซึ่งพอได้เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแชร์ต่อไปด้วย ต้องขอขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยอย่างมากเลยค่ะ
คุณชอบเพลงแนวไหนบ้าง โดยเฉพาะถ้าเป็นเพลงแนวอื่นๆ จากนอกวงการเพลงอินเดีย?
ปกติชอบฟังเพลงหลายแนวอยู่แล้วค่ะ เพลงแนวโปรดเลยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ฉันชอบฟังหลายแนวไปหมด ตั้งแต่เพลงคึกๆ ไปจนถึงเพลงอินดี้ ขอแค่ฟังแล้วมีความสุขไปกับเพลงก็จับเข้าเพลย์ลิสท์แล้วค่ะ ศิลปินอินเดียที่ฉันชอบฟังก็มีอย่าง Prateek Kuhad, วง When Chai Met Toast หรือ Ritviz ค่ะถ้าเราจะไปเที่ยวอินเดีย คุณจะชี้เป้าให้เราไปที่ไหนบ้าง?
ฉันคิดว่าอินเดียมีที่เที่ยวที่ถูกใจทุกคนแน่ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะมาแนวนั่งจิบค็อกเทลริมหาด ตื่นมาชมวิวป่าเขียวครึ้ม หรือจะไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนภูเขา เราก็มีครบเลย แถมยังมีความรักกับความอบอุ่นที่เหลือล้นจากผู้คนอีกด้วย หลายคนเรียกรัฐ Kerala ว่าเป็นสวรรค์บนดิน ซึ่งที่นี่ก็สวยสมฉายาค่ะ ขึ้นชื่อทั้งหาดทรายและบึงน้ำเค็ม และยังมีวัฒนธรรม ความงดงาม และอาหารที่โดดเด่น เรียกได้ว่าถ้ามาเที่ยวอินเดีย ต้องไม่พลาดที่นี่ค่ะ ส่วน Ladak ก็สวยแบบเหนือจริงด้วยภูมิประเทศแบบทะเลทรายที่ออกแนวสมบุกสมบัน ถึงฉันจะชอบเที่ยวชายหาด แต่ก็ยังชอบขึ้นเขามากกว่า ไม่ว่าจะไปลาดักกี่ครั้ง ก็ยังอารมณ์ดีและตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยววัดบนยอดเขา ลุยผ่านช่องเขาสูงๆ หรือหยุดมองประกายที่สะท้อนจากผิวน้ำสีน้ำเงินของทะเลสาบค่ะ
