เบื้องหลังภาพสวยงามของภาพยนตร์ระดับแต่ละเรื่องประกอบไปด้วยนักแสดงระดับโลกและสตาฟในกองถ่ายนับร้อยชีวิตที่สามารถทำให้การถ่ายขับเคลื่อนไปต่อได้ ทีมบาซาร์จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับ ดร. เนท-นราธิป ติยะรัตนาชัย ผู้เป็นหมอไคโรแพรคติกที่อยู่เบื้องหลังการดูแลหนุ่มฮอต Chris Hemsworth พระเอกจากภาพยนตร์ Netflix เรื่องล่าสุด “Extraction” ถึงความประทับใจที่มีต่อนักแสดงหนุ่มออสซี่และการทำงานเบื้องหลังภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เป็นครั้งแรกในชีวิต
หมอเนท: ตอนนั้นผมพึ่งย้ายกลับมาจากออสเตรเลียประมาณเดือนกว่าๆ แล้วตรงกับช่วงที่ภาพยนตร์เรื่อง “Extraction” ของ Netflix กำลังจะมาถ่ายทำที่ประเทศไทย โดยทางกองต้องการหมอไคโรแพรคติกที่จะมาทำงานร่วมกับ Chris Hemsworth กับเหล่าสตันท์แมน ซึ่งคุณหมอโทนี่ผู้เป็นรุ่นพี่ผมได้รับการติดต่อจากค่ายหนัง เขาจึงชวนผมกับหมอเต๋อให้มาร่วมงานกันประจำในกองเลยครับ
HB: ความรู้สึกเมื่อรู้ว่าจะได้ทำงานกับ Chris Hemsworth
หมอเนท: ตอนนั้นเขายังไม่ได้แจ้งชื่อดาราแต่แจ้งรายละเอียดและระยะเวลาคร่าวๆ ของงานครับ แต่เขาบอกว่าคนนี้ดังมาก! แค่นั้นก็ตื่นเต้นมากๆ แล้วครับ แล้วยิ่งพอได้ทราบว่าเป็นคุณคริสก็รู้สึกดีใจมากเพราะนี่โอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่น้อยคนจะได้ทำครับ
HB: Chris Hemsworth เป็นคนอย่างไรในกองถ่าย
หมอเนท: ครั้งแรกที่ได้เจอเขาในกองผมค่อนข้างเกร็งเลยล่ะครับ แต่พอได้เจอกันบ่อยขึ้นก็ได้รู้จักกับคุณคริสมากขึ้น เขาเป็นคนที่น่ารักและใจดีมาก พอได้ร่วมงานด้วยแล้วรู้สึกสบายใจครับ ประทับใจตรงที่เขาเป็นคนง่ายๆ ในกองถ่ายเขามักจะทักทายและให้ความสำคัญกับคนรอบข้างเสมอโดยไม่ทำให้ใครต้องรู้สึกอึดอัดหรือเกร็งเลยครับ หลังเลิกกองเขาก็มาร่วมมาเตะบอลกับทีมงานและพนักงานโรงแรมอย่างเป็นกันเอง แต่ผมไม่ได้เตะนะครับ เพราะผมเตะไม่เป็น (หัวเราะ)
HB: งานหลักของหมอเนทคือต้องดูแลอะไร Chris Hemsworth บ้าง
หมอเนท: งานหลักของผมคือการดูแลคุณคริสคนเดียวในระหว่างการถ่ายทำ เนื่องจากภาพยนตร์แอ็กชั่น นักแสดงจึงต้องใช้ร่างกายค่อนข้างหนักหน่วง หากระหว่างการถ่ายทำคริสมีอาการอะไรผิดปกติผมก็ต้องดูแลไปตามอาการนั้นๆ ผมไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ครับ แต่ในบางครั้งก็ต้องแบ่งหน้าที่ไปดูแลคนในกองด้วย การสร้างภาพยนตร์ถึงแม้จะดูสนุก แต่ก็เป็นงานที่หนักและความรับผิดชอบสูงมากเลยครับ
หมอเนท: คุณพ่อของผมรู้จักกับ ดร.โอ๊ต บูรณะสมบัติ นายกสมาคมการแพทย์ไคโรแพรคติกแห่งประเทศไทย ท่านจึงแนะนำผมให้เรียนศาสตร์นี้ ซึ่งตอนนั้นผมไม่ทราบเลยว่าศาสตร์นี้มันเกี่ยวกับอะไร เพราะตอนนั้นแทบไม่มีคนรู้จักไคโรแพรคติกในประเทศไทย ซึ่งตอนนั้นพึ่งจบมัธยมปลายหมาดๆ แล้วก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรหรือสนใจอะไรเป็นพิเศษ แต่ผมอยากที่จะดูแลรักษาสุขภาพของพ่อแม่ในบั้นปลายชีวิตของพวกท่านได้ จึงได้ตัดสินใจไปเรียนแล้วผมก็ไม่ผิดหวังที่เลือกเรียนศาสตร์นี้เลยครับ
HB: ศาสตร์ไคโรแพรคติกคืออะไร
หมอเนท: ไคโรแพรคติกเป็นศาสตร์การจัดกระดูกด้วยมือหรือเครื่องมือโดยแพทย์ไคโรแพรคติก หลักๆ แล้วจะเป็นการปรับสมดุลโครงสร้างให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อกลับมาใช้งานได้ตามปกติ คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าการจัดกระดูกอาจจะทำได้แค่กระดูกสันหลังแต่อันที่จริงแล้ว มันสามารถจัดทุกส่วนของกล้ามเนื้อและกระดูก (musculoskelatal) ทั้งร่างกายได้เลยครับ
HB: การรักษาแบบไคโรแพรคติกเหมาะกับผู้ป่วยแบบไหน?
หมอเนท: ไคโรแพรคติกสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงวัยเลยครับ อาจจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องใช่ชีวิตประจำวันหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน หรือนักกีฬาที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อและกระดูกซึ่งเทคนิคการรักษานั้นก็จะแตกต่างกันครับ
ผมอยากให้มองว่าการรักษาแบบไคโรแพรคติกนั้นอยากเป็นการป้องกันก่อนเกิดอาการ (Preventative Care) มากกว่าครับ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่จำเป็นต้องรอให้มีอาการก่อนถึงค่อยรักษา แต่ทุกคนสามารถที่จะตรวจเช็คสรีระและโครงสร้างที่ผิดปกติก่อนที่จะมีปัญหาได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเคสผู้ป่วยที่ผมเคยเจอก็จะมักมีอาการค่อนข้างเรื้อรังแล้วครับ
HB: แรงจูงใจที่ทำให้หมอเนทมาเปิดคลินิกไคโรแพรคติกในประเทศไทย
หมอเนท: ผมเคยเปิดคลินิกของตัวเองสมัยที่อยู่ออสเตรเลียเมื่อ 4 ปีที่ก่อน แต่ตัดสินใจขายคลินิกนั้นและย้ายกลับมาเมืองไทยเพื่อที่จะอยู่ใกล้ชิดกับที่ครอบครับ ก่อนจะกลับมาก็ตั้งใจว่าอยากเปิดคลินิกคล้ายๆ กับตอนที่อยู่ที่นั่นครับ คลินิกตอนสมัยที่อยู่ออสเตรเลียชื่อว่า ChiroHealth แต่พอย้ายมาที่ประเทศไทย ผมก็ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Align Clinic เพื่อที่จะสื่อถึงลูกค้าได้มากขึ้นครับ และที่สำคัญคลินิกไคโรแพรคติกในเมืองไทยก็มีน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ดังนั้นผมเชื่อว่าไคโรแพรคติกจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการรักษาสุขภาพให้คนไทยได้ครับ
Harper’s BAZAAR: มาเริ่มทำงานกับกองถ่ายนี้ได้อย่างไรView this post on InstagramA post shared by Harper's BAZAAR Thailand (@bazaarthailand) on
หมอเนท: ตอนนั้นผมพึ่งย้ายกลับมาจากออสเตรเลียประมาณเดือนกว่าๆ แล้วตรงกับช่วงที่ภาพยนตร์เรื่อง “Extraction” ของ Netflix กำลังจะมาถ่ายทำที่ประเทศไทย โดยทางกองต้องการหมอไคโรแพรคติกที่จะมาทำงานร่วมกับ Chris Hemsworth กับเหล่าสตันท์แมน ซึ่งคุณหมอโทนี่ผู้เป็นรุ่นพี่ผมได้รับการติดต่อจากค่ายหนัง เขาจึงชวนผมกับหมอเต๋อให้มาร่วมงานกันประจำในกองเลยครับ
HB: ความรู้สึกเมื่อรู้ว่าจะได้ทำงานกับ Chris Hemsworth
หมอเนท: ตอนนั้นเขายังไม่ได้แจ้งชื่อดาราแต่แจ้งรายละเอียดและระยะเวลาคร่าวๆ ของงานครับ แต่เขาบอกว่าคนนี้ดังมาก! แค่นั้นก็ตื่นเต้นมากๆ แล้วครับ แล้วยิ่งพอได้ทราบว่าเป็นคุณคริสก็รู้สึกดีใจมากเพราะนี่โอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่น้อยคนจะได้ทำครับ

หมอเนท: ครั้งแรกที่ได้เจอเขาในกองผมค่อนข้างเกร็งเลยล่ะครับ แต่พอได้เจอกันบ่อยขึ้นก็ได้รู้จักกับคุณคริสมากขึ้น เขาเป็นคนที่น่ารักและใจดีมาก พอได้ร่วมงานด้วยแล้วรู้สึกสบายใจครับ ประทับใจตรงที่เขาเป็นคนง่ายๆ ในกองถ่ายเขามักจะทักทายและให้ความสำคัญกับคนรอบข้างเสมอโดยไม่ทำให้ใครต้องรู้สึกอึดอัดหรือเกร็งเลยครับ หลังเลิกกองเขาก็มาร่วมมาเตะบอลกับทีมงานและพนักงานโรงแรมอย่างเป็นกันเอง แต่ผมไม่ได้เตะนะครับ เพราะผมเตะไม่เป็น (หัวเราะ)
HB: งานหลักของหมอเนทคือต้องดูแลอะไร Chris Hemsworth บ้าง
หมอเนท: งานหลักของผมคือการดูแลคุณคริสคนเดียวในระหว่างการถ่ายทำ เนื่องจากภาพยนตร์แอ็กชั่น นักแสดงจึงต้องใช้ร่างกายค่อนข้างหนักหน่วง หากระหว่างการถ่ายทำคริสมีอาการอะไรผิดปกติผมก็ต้องดูแลไปตามอาการนั้นๆ ผมไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ครับ แต่ในบางครั้งก็ต้องแบ่งหน้าที่ไปดูแลคนในกองด้วย การสร้างภาพยนตร์ถึงแม้จะดูสนุก แต่ก็เป็นงานที่หนักและความรับผิดชอบสูงมากเลยครับ
HB: หมอเนทเริ่มสนใจไคโรแพรคติกมาตั้งแต่เมื่อไรView this post on InstagramA post shared by Chris Hemsworth (@chrishemsworth) on
หมอเนท: คุณพ่อของผมรู้จักกับ ดร.โอ๊ต บูรณะสมบัติ นายกสมาคมการแพทย์ไคโรแพรคติกแห่งประเทศไทย ท่านจึงแนะนำผมให้เรียนศาสตร์นี้ ซึ่งตอนนั้นผมไม่ทราบเลยว่าศาสตร์นี้มันเกี่ยวกับอะไร เพราะตอนนั้นแทบไม่มีคนรู้จักไคโรแพรคติกในประเทศไทย ซึ่งตอนนั้นพึ่งจบมัธยมปลายหมาดๆ แล้วก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรหรือสนใจอะไรเป็นพิเศษ แต่ผมอยากที่จะดูแลรักษาสุขภาพของพ่อแม่ในบั้นปลายชีวิตของพวกท่านได้ จึงได้ตัดสินใจไปเรียนแล้วผมก็ไม่ผิดหวังที่เลือกเรียนศาสตร์นี้เลยครับ
HB: ศาสตร์ไคโรแพรคติกคืออะไร
หมอเนท: ไคโรแพรคติกเป็นศาสตร์การจัดกระดูกด้วยมือหรือเครื่องมือโดยแพทย์ไคโรแพรคติก หลักๆ แล้วจะเป็นการปรับสมดุลโครงสร้างให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อกลับมาใช้งานได้ตามปกติ คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าการจัดกระดูกอาจจะทำได้แค่กระดูกสันหลังแต่อันที่จริงแล้ว มันสามารถจัดทุกส่วนของกล้ามเนื้อและกระดูก (musculoskelatal) ทั้งร่างกายได้เลยครับ

หมอเนท: ไคโรแพรคติกสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงวัยเลยครับ อาจจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องใช่ชีวิตประจำวันหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน หรือนักกีฬาที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อและกระดูกซึ่งเทคนิคการรักษานั้นก็จะแตกต่างกันครับ
ผมอยากให้มองว่าการรักษาแบบไคโรแพรคติกนั้นอยากเป็นการป้องกันก่อนเกิดอาการ (Preventative Care) มากกว่าครับ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่จำเป็นต้องรอให้มีอาการก่อนถึงค่อยรักษา แต่ทุกคนสามารถที่จะตรวจเช็คสรีระและโครงสร้างที่ผิดปกติก่อนที่จะมีปัญหาได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเคสผู้ป่วยที่ผมเคยเจอก็จะมักมีอาการค่อนข้างเรื้อรังแล้วครับ
HB: แรงจูงใจที่ทำให้หมอเนทมาเปิดคลินิกไคโรแพรคติกในประเทศไทย
หมอเนท: ผมเคยเปิดคลินิกของตัวเองสมัยที่อยู่ออสเตรเลียเมื่อ 4 ปีที่ก่อน แต่ตัดสินใจขายคลินิกนั้นและย้ายกลับมาเมืองไทยเพื่อที่จะอยู่ใกล้ชิดกับที่ครอบครับ ก่อนจะกลับมาก็ตั้งใจว่าอยากเปิดคลินิกคล้ายๆ กับตอนที่อยู่ที่นั่นครับ คลินิกตอนสมัยที่อยู่ออสเตรเลียชื่อว่า ChiroHealth แต่พอย้ายมาที่ประเทศไทย ผมก็ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Align Clinic เพื่อที่จะสื่อถึงลูกค้าได้มากขึ้นครับ และที่สำคัญคลินิกไคโรแพรคติกในเมืองไทยก็มีน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ดังนั้นผมเชื่อว่าไคโรแพรคติกจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการรักษาสุขภาพให้คนไทยได้ครับ