13 กันยายนถือเป็นวันคล้ายวันเกิดของเหมียว ชไมพร จตุรภุช นักแสดงมากฝีมือที่คนอายุ 30+ และเหล่าคนที่สามารถเรียกตัวเองว่าวัยรุ่นยุค 90s ได้อย่างเต็มปากต้องคุ้นเคยกับเธอแน่ๆ เพราะชไมพรได้ฝากผลงานละครสุดไอคอนิกไว้หลายต่อหลายเรื่องตั้งแต่เธอเข้าวงการมาด้วยการประกวดนางสาวไทยเมื่อปี 2527 และเริ่มงานละครพื้นบ้านก่อนจะมาโด่งดังด้วยบทดราม่าหนักหน่วงจากตัวละครชื่อ “พิตะวัน” ในเรื่อง “มายา” เมื่อปี 2531 และเริ่มรับบทตัวเอกสุดดราม่าของเรื่อง เช่นบท “ศันสนีย์” พี่สาวใจร้ายในเรื่อง “จำเลยรัก” ที่ออกฉายในปีเดียวกัน
ตั้งแต่ช่วงปลายยุค 80s เรื่อยมาตลอดยุค 90s ชไมพรยังคงเดินหน้ารับบทท้าทายพลังการแสดงของเธออยู่เรื่อยๆ ทั้งเรื่องขมิ้นกับปูนในบทของ “ปัทมา” ที่ต้องประชันกับรุ่นใหญ่อย่าง “รุจน์ รณภพ” จนเธอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงดีเด่นมาได้ หรือในบท “คุณยายวรนาท” จากเรื่อง “ทายาทอสูร” สาวสองพันปีที่มีวิญญาณร้ายครอบงำอยู่ซึ่งเธอก็ตีบทแตกกระจุยด้วยเสียงหัวเราะแสนเกรี้ยวกราดอันเป็นเอกลักษณ์ และบทเจ้านางผู้ใช้ชีวิตอยู่บทความแค้นอย่าง “เจ้านางอนัญทิพย์” แห่ง “เพลิงพระนาง” ตำนานละครอิงประวัติศาสตร์พม่าที่หลายคนรอคอยการรีเมคอย่างจดจ่อจนในที่สุดก็กลับมารีเมคอีกครั้งในปี 2560 พร้อมการกลับมารับบทพระพันปี “เจ้าสำเภางาม” คู่ปรับอีกคนของบทเดิมที่เธอเคยเล่นไว้
ในยุคหลังปี 2550 ชไมพรเริ่มรับบทคุณแม่และคุณย่าคุณยายมากขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นบทดราม่าเต็มพิกัดเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นบท “คุณหญิงอบเชย” แม่สามีจำเป็นของ “อีแพง” จากละครรีเมคเรื่อง “บ่วง” ที่สาดพลังการแสดงคู่กับอีแพง “นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา” ได้มันหยด ก่อนเราจะได้เห็นชไมพรปรับลุคมารับบทน่ารักๆ เบาสมองในมาด “คุณหญิงจำปา” แม่สามีของ “แม่หญิงการะเกด” ในปี 2561 กับเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ละครคอมเมดี้แห่งยุคที่สามารทำเรตติ้งได้แตะ 2 หลักในยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นผลงานอีกชิ้นที่การันตีว่านอกจากบทร้ายๆ แรงๆ แล้ว บทคอมเมดี้สดใส ชไมพรก็เอาอยู่ เพราะเธอคือนักแสดงมืออาชีพตัวจริง!