สัมผัสสีสันแห่งการพักผ่อนในรีสอร์ทหรูสุดอลังการ Centara Grand Mirage Pattaya ที่มาพร้อมธีม The Lost World

นานแค่ไหนที่คุณไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนเมืองพัทยา เมืองท่องเที่ยวในความทรงจำของครอบครัวสำหรับหลายๆ คน ครั้งนี้เราพาคุณมาเปิดประสบการณ์สีสันของการพักผ่อนในเมืองพัทยาอีกครั้ง ที่รีสอร์ทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งบนหาดวงศ์อมาตย์ ต้อนรับปีแห่งการกลับมาท่องเที่ยวที่เราต่างรอคอย

โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา (Centara Grand Mirage Pattaya) นั้น เป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาวขนาดใหญ่ซึ่งถือเป็น Themed hotel แห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 หรือ 13 ปีที่แล้วนั่นเอง โดยสถานที่ตั้งนั้นอยู่ที่ หาดวงศ์อมาตย์ นาเกลือ พัทยาเหนือ ซึ่งยังคงมีความสงบและเป็นส่วนต้วมากกว่าโซนอื่นๆ ของพัทยา ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวที่ให้บรรยากาศแบบ Tropical ผสานอารยธรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจในธีม Lost World  ตัวอาคารของโรงแรมตั้งตระหง่านอยู่เหนือทุกสิ่งด้วยองค์ประกอบของตัวอาคาร 2 อาคารที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพาน แต่ละอาคารมีทั้งหมด 19 ชั้น และมีจำนวน 555 ห้อง แบ่งเป็นห้องไทป์ต่างๆ กว่า 10  ประเภท

ความกว้างขวางของห้องพักที่นี่นั้นนับว่าเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ไทป์แรกเลยทีเดียว โดยห้อง Deluxe มีขนาดถึง 42 ตารางเมตร ในขณะที่ห้องที่มีขนาดกว้างขวางยิ่งใหญ่ที่สุดหนึ่งเดียวของที่นี่คือห้อง Club Mirage The Royal Suite ที่มีขนาดถึง  326 ตารางเมตร และสามารถเข้าพักได้ถึง 5 คนต่อห้อง โดยทุกไทป์จะหันหน้าออกทะเลทุกห้อง ครั้งนี้เราได้พักผ่อนที่ห้อง Club Mirage  Deluxe Suites ห้องขนาด 91-157 ตารางเมตร ที่มีระเบียงกว้างขวางจนแทบไม่เชื่อสายตาเลยทีเดียว ภายในห้องแบ่งเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่พร้อมระเบียงเล็กที่เชื่อมต่อกับห้องนอนและระเบียงใหญ่พิเศษที่ถือเป็นระเบียงห้องริมของชั้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ ห้องชาวเวอร์ และห้องสุขภัณฑ์แยกกันอย่างเป็นสัดส่วน ภายในห้องตกแต่งสไตล์ Contemporary Thai Style ที่อบอุ่น

อย่างไรก็ตามอย่าเผลอใช้เวลาทอดกายในห้องพักจนลืมวันเวลา เพราะยังมีกิจกรรมและส่วนอื่นๆที่รอให้เราได้ไปสัมผัส อย่างสวนน้ำขนาดใหญ่ โดยจุดเด่นนั้นนั้นคือพื้นที่ขนาดอันกว้างขวางรายล้อมด้วยสวนที่เต็มต้นไม้สีเขียวและแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ทั้งโซนบาร์ริมน้ำ โซนแบบน้ำตกธรรมชาติ โซนเด็กเล็ก และโซนพิเศษ Monsoon Island ที่เด็กๆ จะต้องชอบเป็นพิเศษ เพราะมีเครื่องเล่นที่จะเพิ่มสีสันให้การว่ายน้ำสนุกกว่าเดิมด้วยเหล่าเครื่องฉีดน้ำ ถังน้ำขนาดใหญ่ที่คอยสร้างความตื่นเต้นตลอดการเล่นน้ำ
หากต้องการพาเด็กๆ สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก เราแนะนำให้แวะไปที่โซนกิจกรรมผจญภัยหรือ Lost World Adventure ซึ่งโซนนี้ต้องเสียค่าผ่านประตูให้เด็กๆ คนละ 350 บาท ส่วนผู้ใหญ่เข้าฟรี ที่โซนนี้รวบรวมการผจญภัยกลางแจ้งไว้มากมาย อย่างสกายไรเดอร์ สกายเทรล แทรมโพลีน แต่ก็มีกิจกรรมเบาๆ อย่างการระบายสีและสนุกกับการทำพิซซ่า อิ่มอร่อยกับไอศกรีมแสนอร่อยที่ Kids’ Café พร้อมเพลิดเพลินไปกับโรงภาพยนตร์สำหรับเด็กๆได้เช่นกัน นอกจากสวนน้ำ สวนสนุก ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา ยังมี Kids’ Club คลับสำหรับเด็กๆ คอยให้บริการอีกหนึ่งแห่ง

นอกจากกิจกรรมที่กล่าวมาทั้งหมดยังมีในส่วนของสปาที่พลาดไม่ได้คือที่ Spa Cenvaree ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา สปาที่ตกแต่งอย่างเรียบหรูพร้อมบริการทรีตเม้นต์ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Awakening’ คืนความกระปรี้กระเปร่าในบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเรือนไม้แบบไทยๆ พร้อมเสียงดนตรีบำบัดตามวิถีไทย

ถ้ากล่าวถึงห้องอาหารของที่นี่ ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นสีสันของรีสอร์ทแห่งนี้เช่นกัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่มื้อเช้าที่ห้องอาหาร Oasis ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างล็อบบี้ มีการจำลองบรรยากาศของการผจญภัยผสานความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว เราชอบความหลากหลายของบุฟเฟต์อาหารเช้านานาชาติที่มีทั้งอาหารเช้าสไตล์ตะวันตก และตะวันออก เมนูกาแฟสดร้อนเย็น หรือจะเป็นปาท่องโก๋ ก๋วยเตี๋ยว และรถชงชากาแฟโบราณที่จอดให้บริการที่ด้านหน้าประตูทางเข้า เมื่อผลัดเปลี่ยนจากช่วงอาหารเช้า ที่นี่ก็จะเสิร์ฟเมนู A la carte ที่ให้บริการตลอดทั้งวัน ทั้งยังมีเมนูใหม่มานำเสนอซึ่งจะผลัดเปลี่ยนทุกๆ 2 เดือน โดยเราได้ลิ้มลองเมนูพิเศษของร้านที่มีช่วงเวลาจำหน่ายจำกัดอย่าง ‘Poke Salmon’ สลัดแซลมอนสดราดซอสสไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมผักสดและอะโวคาโดที่มอบรสชาติสดชื่นหอมหวาน และยังมีสเต็กปลากับต้มยำกุ้งที่มีกุ้งแม่น้ำอัดแน่นเต็มชาม ขนมหวานซึ่งเป็นเมนูประจำร้านให้เราได้ลิ้มลองอย่างเพลิดเพลิน

สำหรับใครที่ต้องการจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ก็สามารถนั่งที่บาร์ริมน้ำหรือโซนนั่งของร้าน Waves  ที่มองเห็นทั้งสระว่ายน้ำและชายหาดในเวลาเดียวกัน ล่าสุดเราได้สัมผัสเมนูพิเศษอย่าง ‘ส้มตำถาด’ ถาดใหญ่ ทานกับน้ำมะพร้าวสดเย็นฉ่ำที่เพิ่มเติมความกระชุ่มกระชวยในช่วงบ่ายได้ดีเลยทีเดียว

ระหว่างวันคุณอาจแวะไปจิบกาแฟ Specialty ทานขนมหวานที่มีทั้งเค้กหลากรสกับเบเกอรี่หลายต่อหลายเมนูที่ร้าน Vistas Lobby Lounge หรือหากใครพักห้องพักแบบ Club Mirage และห้อง Suite ก็สามารถเข้าใช้บริการของ Zulu Family Lounge เพื่อเพลิดเพลินกับของว่าง และชุดน้ำชายามบ่ายที่แสนสดใสได้เกือบทั้งวัน ที่นี่ยังมีห้องเล่นเกมและสไลเดอร์ให้เด็กๆ เพลิดเพลิน ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับผู้ที่ใช้บริการห้องพักในไทป์ดังกล่าว

ในส่วนของมื้อค่ำนั้น เรามีที่หมายเป็นที่ COAST Beach Club & Bistro ห้องอาหารติดทะเลมอบพาโนรามาวิวที่งดงามที่สุดในเมืองพัทยาในช่วงเวลาแสนโรแมนติก ทั้งยังมีบาร์ริมชายหาดส่วนตัวให้บริการเครื่องดื่มแสนพิเศษ พร้อมช่วงเวลา Happy Hour ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มม็อกเทลและค็อกเทลแบบ 1 แถม 1 สำหรับเมนูไฮไลท์ในช่วงนี้คือ ‘Giant Pizza’ พิซซ่าเตาถ่านขนาดยักษ์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 21 นิ้ว ที่มาในราคาเริ่มต้นเพียง 650 บาท เป็นเมนู Finger Food ที่จะทำให้คุณได้สนุกสนานกับเพื่อนและครอบครัวได้อย่างเต็มที่ และอย่าลืมเซลฟี่กับพิซซ่ายักษ์อวดโซเชียลให้โลกรู้ก่อนลงมือทาน นอกจากนี้ยังมีเมนูนานาชาติที่เราอยากแนะนำให้ลิ้มลองอีก อย่าง Milk Fed Lamb Rack ซี่โครงแกะนำเข้าเนื้อนุ่มที่กริลล์จนหอมกรุ่นเตะจมูก COAST Paella ข้าวผัดซีฟู้ดสไตล์อิตาเลียน เมนูยอดนิยมของร้าน ส่วนใครชอบเมนูปลาเราแนะนำ Steamed Snow Fish ปลาหิมะเนื้อหนานุ่ม และ Tuna Tartare สลัดทูน่าสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ที่เสิร์ฟพร้อมอะโวคาโดสดท็อปด้านบน