ในขณะที่กระแส #BlackLivesMatter กำลังเป็นที่พูดถึงและเป็นการเคลื่อนไหวที่กำลังเปลี่ยนแปลงการเหยียดผิวให้มีความเท่าเทียมกันทุกคนโดยไม่แบ่งแยก บาซาร์จึงขอรวบรวมหนังและซีรีส์ที่เกี่ยวกับการต่อสู้ของคนผิวดำผ่านจอเงินและจอแก้วที่ไม่ควรพลาด










Dreamgirls
มิวสิคัลสุดแกลมของยุค 60’s ที่เล่าเรื่องราวการไขว่คว้าสปอต์ไลท์ของนักร้องสาวผิวดำ 3 คน ในนามวงว่า The Dreamette ซึ่งเป็นช่วงที่ชนชั้นแรงงานผิวดำยังถูกเหยียดอยู่ โดยจะพาคุณเพลิดเพลินไปกับความฝันของวงการมายาที่แลกมาด้วยความดราม่าของการชิงดีชิงเด่น จนสุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ดั่งพี่น้องของสามสาวก็กลับมาสมานอีกครั้ง หลังจากเข้าใจผิดมานาน ความอลังการของฉาก เสื้อผ้าหน้าผม และเสียงอันทรงพลังของ Jennifer Hudsons และ Beyonce ที่ทำให้ภาพยนตร์นี้กลายเป็นคลาสสิกตลอดกาล
Hidden Figures
ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความฉลาดของนักคณิตศาสตร์สาว 3 คน ที่เป็นมันสมองอยู่เบื้องหลังองค์กรนาซ่า แต่กลับโดนบังซีนไม่ให้เลื่อนตำแหน่งเพราะสีผิวบวกความเป็นผู้หญิงในยุค 60’s เป็นอุปสรรค์การทำงาน ที่พวกเธอไม่ย่อท้อ และต่อสู้จนได้รับการยอมรับในที่สุด ฉากที่บาซาร์ประทับใจและตราตึงมาก คือตอนที่ แมร์รี่ แจ็คสัน ต้องการยื่นเรื่องเรียนต่อที่แฮมป์ตันไฮสคูล แต่ผู้พิพากษาตอกหน้าว่า นี่คือโรงเรียนสำหรับคนผิวขาว เธอบอกว่า “ ท่านตระหนักถึงความเป็นคนแรกไหมคะ..ฉันวางแผนที่อยากเป็นวิศวกรที่นาซ่า แต่ฉันไม่สามารถทำได้ถ้าไม่ได้เรียนวิชาเหล่านี้ที่มีอยู่ในโรงเรียนคนผิวขาว และฉันไม่สามารถเปลี่ยนสีผิวของฉันได้ ฉันจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเป็นคนแรก ที่ฉันทำไม่ได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากท่าน”
The Help
วลีเด็ด “Eat my shit!” มาจากฉากหนึ่งที่แม่บ้านผิวดำเสริฟพายช็อกโกแลตที่ทำมาจากอุจจาระของเธอให้กับคุณนายจอมเหยียดผิว ทำให้ภาพยนตร์แนวดราม่าย้อนยุคจากปี 2011 นี้โด่งดังในช่วงข้ามคืน ซึ่งหนังเรื่องนี้เขียนและกำกับโดย Tate Taylor โดยดัดแปลงมาจากนวนิยายของ Kathryn Stockett จากปี 2009 ตัวละครหลักนำแสดงโดย Jessica Chastain, Viola Davis, Bryce Dallas Howard, Allison Janney, Octavia Spencer และ Emma Stone ที่เกี่ยวกับเรื่องราวของนักเขียนหญิงผิวขาว Eugenia “Skeeter” Phelan ผู้สนใจในเรื่อง Civil Rights Movement (ขบวนการสิทธิพลเมือง) จากปี 1963 ในเมืองแจ็กสัน รัฐมิสซิสซิปปี โดยพล็อตเรื่องนั้นโฟกัสเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอและเหล่าแม่บ้านผิวดำที่เล่าถึงประสบการณ์ถูกเหยียดผิวของพวกเธอจากคุณนายผิวขาว
12 Years a Slave
โลกศตวรรษที่ 21 คือการค้าทาสที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม ซึ่งภาพยนตร์ 12 Years A Slave นำเสนอประวัติศาสตร์ตัวบุคคลที่ดัดแปลงมาจากหนังสือของ Solomon Northup รับบทโดย Chiwetel Ejiofor ผู้ถูกลดสภาพจากเสรีชนกลายเป็นทาสอยู่ถึง 12 ปี ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแจ้งเกิดของนักแสดงสาวสวยมากความสามารถอย่าง Lupita Nyong’o และยังมีนักแสดงชายพราวเสน่ห์อย่าง Brad Pitt มาร่วมจอด้วย โดยเนื้อเรื่องเผยให้เห็นถึงการค้าทาสอันโหดร้ายของอเมริกา ตั้งแต่การลักพาตัว Solomon ลงเรือไปยังบ้านนายค้าทาส กระบวนการซื้อขาย การเฆี่ยนตีทาส การทำงานในไร่ วิถีชีวิตอันหดหู่ไปจนถึงการอยู่อาศัยกินนอนสุดอัตคัด
Dear White People
ซีรีส์ที่เล่าเรื่องของการปาร์ตี้ของกลุ่มนักศึกษาผิวขาวที่ทาหน้าสีดำในธีม ‘black face party’ ทำให้นักกิจกรรมสาวผิวดำต้องบรอด์แคสกระจายเสียงในวิทยุมหาลัยว่า ‘dear white people’ โดยเพื่อนๆ คนผิวดำที่เป็นส่วนน้อย ต่างออกมาประท้วงเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมในแบบฉบับของตัวเอง ที่เล่าเรื่องผ่านตัวละครในแต่ละตอน ที่มีครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะความเป็น มีแฟนเป็นผิวขาว ผู้ชายผิวดำที่เป็นเกย์ ลูกอธิการบดีที่อยากพิสูจน์ตัวเองกับพ่อ เรียกได้ว่าเป็นการรวมทุกประเด็นการเหยียดผิวในช่วงยุคปัจจุบันที่มีมิติมากที่สุดเรื่องหนึ่ง
The Princess and the Frog
ในปี 2009 เจ้าหญิงดิสนีย์ผิวดำคนแรก ‘ทีอาน่า’ ได้ำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ บาซาร์ชอบที่ดิสนีย์เล่นกับวัฒนธรรมผิวดำย่านนิวออร์ลีนส์ อย่างครบรส ไม่ว่าจะเป็นความรุ่งเรืองของดนตรีแจ๊ส พรสวรรค์การร้องเพลงและทำอาหาร ที่ทำให้เจ้าหญิงดิสนีย์คนนี้ดู ‘จริง’ ในการตามล่าหาความฝันที่ต้องใช้ความมุมานะ และความพยายาม บวกกับความที่เจ้าชายเป็นกบเลยคอมพลีตความเป็นดิสนีย์ได้อย่างน่ารัก
Hollywood
ซีรีส์สั้นกำกับโดย Ryan Murphy และ Ian Brennan ที่มีเพียง 7 ตอนนี้ เคยขึ้นแท่นอันดับ 1 บน Netflix ในช่วงข้ามคืน เนื่องจากเนื้อเรื่องที่ตีแผ่อีกมุมของวงการฮอลลีวู้ดในช่วงยุคทองหลังจาก World War II ดำเนินเรื่องโดยตัวละครที่เป็นเหล่ากลุ่มคนช่างฝันทั้งผู้กำกับ ผู้เขียนบทและนักแสดง ที่พยายามสานให้ฝันตัวเองกลายเป็นจริงขึ้นมา อีกทั้งคอสตูม หน้าผมและการเซ็ตฉากต่างๆ ยังสวยงามเสริมสร้างให้ภาพยนตร์ชวนให้น่าติดตามยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งตัวละครหลักอย่าง David Corenswet, Darren Criss, Laura Harrier และ Joe Mant ก็ต่างตีบทแตกจนทำให้เรื่องนี้ออกมาครบรส
Itaewon Class
ซีรีส์ Netflix ต้นกำเนิดจากเกาหลีที่พูดถึงร้าน ทันบัม หรือ คืนอันแสนหวานของเถ้าแก่พัคแซรอย ได้หยิบยกการเหยียดผิวของ ‘คิม โทนี่’ หนุ่มลูกครึ่งเกาหลีใต้และกินี ถึงแม้ว่าเขาจะยืนกรานว่าเป็น ‘คนเกาหลี’ อยู่ในเรื่องหลายครั้ง โดนยามหน้าผับไม่ให้เข้าเพราะเป็นคนแอฟริกา ทำให้เห็นมุมมองในเวอร์ชั่นของคนเอเชียที่เหยียดคนผิวดำ ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ได้หยิบประเด็นที่ดูเราไม่เห็นบ่อยในซีรีส์เกาหลี มาคลุกเคล้าอย่างกลมกล่อม และแสดงให้เห็นถึงการเปิดรับความแตกต่างได้อย่างลงตัว