

“วิสัยทัศน์ในการออกแบบโรงแรมแห่งนี้คือนำเสนออารมณ์อันใกล้ชิดกับความเป็นญี่ปุ่นในแบบที่แนบเนียนและหรูหราท่ีสุดทั่วทั้งโรงแรม” Tony Chi กล่าว ดังนั้นเราจึงเห็นทั้งวัฒนธรรมการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติของชาวญี่ปุ่นผ่านการเลือกใช้วัสดุตั้งแต่โถงทางเข้าที่ตกแต่งกระดาษวาชิผืนยักษ์ การตกแต่งภายในลิฟต์โดยสารที่นำกระดาษประเภทเดียวกันมาพับให้เป็นรูปศิลปะปลาตัวเล็กตัวน้อย งานศิลปะแบบลอยตัวซึ่งทำจากแผ่นไม้โดย Charlie Whinney ต้นบอนไซขนาดใหญ่ที่ตกแต่งในห้องอาหารและเลานจ์ ไปจนถึงการใช้วัสดุอย่างไม้วอลนัท หินบะซอล และทองแดงซึ่งเป็นการสร้างความสวยงามของสีคู่ตรงข้ามซึ่งมีให้เห็นทั้งโรงแรม
ว่าด้วยเรื่องของที่ตั้ง โรงแรมตั้งอยู่บนยอดของตึก Toranomon Hills ตึกที่สูงติดอันดับ 1 ใน 5 ของกรุงโตเกียว ทว่าย่านที่ตั้งของตึกแห่งนี้สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นสมัยใหม่ได้อย่างชัดเจน เพราะแม้จะมีชื่อเสียงในด้านความเงียบสงบ และปริมาณของอาคารโบราณ ศาลเจ้า และวัดที่แทรกตัวอยู่ในหลากซอกมุม แต่ก็เต็มไปด้วยการพัฒนาคู่ขนานของภาคธุรกิจอันเป็นผลพลอยได้มาจากการเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิคของโตเกียวในปี 2020
เรื่องอาหารการกิน ความเป็นญี่ปุ่นจ๋าของที่นี่ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง The Tavern Grill & Lounge บนชั้น 51 ร้านอาหารที่เป็นดั่งหัวใจของโรงแรมที่มาพร้อมการตกแต่งดีไซน์คอนเทมโพรารีซึ่งเสริมกันดีกับที่ตั้งที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติจากกระจกและเพดานสูง บวกกับความงดงามเล็กๆ น้อยๆ ของเครื่องเซรามิกเล็กๆ ที่ว่างอยู่ทั่วช่วยเสริมให้การทางอาหารเช้าในกล่องเบนโต๊ะไม้ที่นี่อร่อยขึ้นอีกเท่าตัว หรือจะมานั่งวิวแสงไฟของโตเกียวยามค่ำคืน ฟังเสียงเพลงจากเปียโน พลางดื่ม Andaz Saketini ค็อกเทลซิกเนอร์ที่ทวิสต์มาร์ตินีให้เป็นญี่ปุ่นด้วยใช้สาเก 52 Junmai Ginjyo เฉพาะของ Andaz Tokyo เป็นเบสหลัก

