บาซาร์ชวนคุณมาพูดคุยกับ 4 สาว ศิษย์เก่าจากสถาบันมารังโกนี่ ดวง โปษยานนท์ (บรรณาธิการบริหารของเรา), พลอย หอวัง, เตย ณัชชา เมฆรักษาวนิช และ มู่ลี่ อัญชิสา วัชรพล หลังจากจบจากสถาบันมารังโกนี่แล้ว พวกเธอทำอะไรกันอยู่บ้าง
คุณดวง โปษยานนท์
Editor in Chief of Harper’s BAZAAR Thailand
Director of Marangoni Information Center Thailand
Creative Director of ROUGE ROUGE bag
Master in Fashion Promotion First Honor Degree (2003 – 2004)
Istituto Marangoni Milan
คุณพลอย หอวัง
Creative Director of HER LA FEMME
Bachelor of fashion design (2004-2008)
Istituto Marangoni London
คุณเตย ณัชชา เมฆรักษาวนิช
Creative Director of NASHA
Master in Accessories Design (2009 – 2010)
Istituto Marangoni Milan
คุณมู่ลี่ อัญชิสา วัชรพล
Business Development at Thairath
Master of Fashion Promotions (2016-2017)
Istituto Marangoni London
อัพเดตชีวิตการทำงานของ 4 สาวเก่ง ศิษย์เก่าจาก Istituto Marangoni
ตอนนี้ทำอะไรกันอยู่บ้าง
ดวง : ดวงเป็นบรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Harper’s Bazaar Thailand แล้วก็เป็นผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันแฟชั่นและดีไซน์มารังโกนี่ (Istituto Marangoni) จากประเทศอิตาลี ตั้งแต่ปีค.ศ.2004 คือดูแลงานทั้งหมด สัมภาษณ์นักเรียนไทยที่อยากไปเรียนต่อทั้ง5แคมปัส มิลานแคมปัสแฟชั่นและแคมปัสออกแบบ ฟลอเลนซ์ ลอนดอน และปารีส ดวงดูแลสถาบันแฟชั่นมารังโกนี่ในเมืองไทยเพียงผู้เดียวมา14ปีละค่ะ ให้ทุนการศึกษากับเด็กเก่งๆกับโปรเจ็กท์การประกวดระดับประเทศมาบ้าง
พลอย : มีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองชื่อ Her La Femme เป็นแบรนด์ที่สองที่โตขึ้นค่ะ ให้ความสำคัญกับตัวตนของผู้หญิงมากกว่าแบรนด์แรก Him and Her แล้วก็มีทำรายการทีวีกับเพื่อนๆค่ะ
เตย : ทำแบรนด์กระเป๋า Nasha ของตัวเอง ดีไซน์จะแปลกตาหน่อย เอารูปทรงเลขาคณิตมาผสมเข้ากับโครงสร้างสถาปัตยกรรม แล้วก็เป็น Freelance consultant ให้กับบริษัทต่างๆ
มู่ลี่ : ของมู่จะต่างไปจากคนอื่นเลย คือไม่ได้ทำด้านแฟชั่นโดยตรงที่เรียนมา ตอนนี้มู่กลับมาทำงานช่วยวางแผนแคมเปญต่างๆให้ที่ไทยรัฐ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว
ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่ สถาบันมารังโกนี่
ดวง : มิลานเป็นศูนย์กลางธุรกิจแฟชั่นและเป็นเมืองแห่งแรงบัลดาลใจ เป็นที่บ่มเพาะดีไซเนอร์ระดับโลกหลายๆคน อย่างแบรนด์ที่ดวงชอบอย่าง Moschino หรือ Domenico Dolce จากDolce Gabbana เขาจบที่นี่กันมา และสถาบันมารังโกนี่ก็เป็นสถาบันแฟชั่นอันเก่าแก่ถึง 83ปี มีคอร์สเรียนที่ออกแบบมาเฉพาะทางที่สุด เพื่อตอบรับอาชีพที่ต้องการในอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างแท้จริง ดวงจึงเลือกจะไปเรียนต่อโททางด้านการจัดการบริหารและโปรโมทแบรนด์แฟชั่น Fashion Promotion ที่มารังโกนี่ค่ะ
พลอย : ความที่พลอยชอบลอนดอนอยู่แล้ว ลอนดอนเป็นเมืองที่มีการผสมผสานของวัฒนธรรม ดนตรี แฟชั่น วินเทจ พลอยเลยส่งพอร์ตโฟลิโอไปสมัครเรียนปริญญาตรี สาขาแฟชั่นดีไซน์ที่มารังโกนี่ ลอนดอน พลอยเป็นนักเรียนไทยคนแรกของแคมปัสนี้ พลอยประทับใจบรรยากาศภายในแคมปัสมาก ตัวอาคารเป็นโกดังเพดานสูงขนาดใหญ่เรือนกระจกดูอินดาสเทรียลแถวBricklane ระหว่างเรียนเราสามารถมองเห็นเพื่อน คลาสอื่นๆ ได้ด้วย พลอยได้เพื่อนรักจากโรงเรียนนี้หลายคน
เตย : คือมิลาน เป็นเมืองเศรษฐกิจเล็กๆ ที่มันมีอะไรที่วาไรตี้หลายๆอย่าง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ระหว่างการเดินทางไปเรียน ทำให้เราน่าจะได้แรงบันดาลใจไม่มากก็น้อย เหมือนได้เปิดโลกใหม่ ได้ประสบการณ์เยอะมาก ที่สำคัญทำให้ค้นพบสไตล์ของตัวเอง อีกอย่างมิลานเป็นศูนย์กลางแฟชั่น และเป็นเมืองที่มีแฟชั่นวีค ทำให้เราเข้าถึงแฟชั่นได้ง่ายขึ้น
มู่ลี่ : อยากเจออะไรใหม่ๆ อยากเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นในด้านศิลปะ วัฒนธรรม แฟชั่น ไปจนถึงเพื่อนๆ ที่หลากหลายเชื้อชาติ ทำให้มู่ได้เปิดตัวเองกับสิ่งใหม่ๆ รอบตัวมากขึ้น ได้ฝึกงาน 3 เดือนระหว่างเรียนปริญญาโทด้วย
พูดถึงสถาบันมารังโกนี่
ดวง : เป็นสถาบันที่ครบวงจรมาก โดยเฉพาะคอร์สธุรกิจแฟชั่น (Fashion Business) มีตั้งแต่เรียนระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี โท ไปจนถึงคอร์สสั้นๆ สำหรับคนที่สนใจธุรกิจแฟชั่น แล้วเขาจะคอยอัพเดทคอร์สใหม่ๆทุกปี อย่างตอนนี้ก็มีคอร์สแฟชั่นที่เกี่ยวกับโซเชียลมีเดียและ Trend Forcast แล้ว
พลอย : จุดแข็งของสถาบันมารังโกนี่คือการสอนแฟชั่นเสื้อสำเร็จรูป (Ready-to-Wear) เขาเก่งเรื่องของธุรกิจแฟชั่นมาก เพราะอิตาลีเป็นประเทศที่สร้าง RTW ไม่ว่าเรื่องของเทรนด์ เรื่องผู้นำผ้าต่างๆ ตอนพลอยเรียนรู้สึกสนุก และมันส์มาก ทำเองหลายๆอย่างในทุกขั้นตอน
เตย : สถาบันมารังโกนี่เน้นพัฒนาคนให้เก่ง สอนความรู้โนว์ฮาว เขาเน้นดึงความสามารถที่แท้จริงของแต่ละคนออกมา แล้วเอามาปรับใช้ในการทำงานได้จริง ทำให้ทุกอย่างพัฒนาต่อยอดไปได้ง่ายขึ้น
มู่ลี่ : เขาใส่ใจนักเรียนทุกคนในคลาส ทำให้เรารู้ลึกลงไปในสิ่งที่เรียนจริงๆ เขาจะสอนให้เราทันกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของโลก
สถาบันมารังโกนี่ ให้อะไรกับเราบ้าง
ดวง : สถาบันมารังโกนี่มีอิทธิพลต่อชีวิตดวงมาก ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ที่นำเราเข้ามาสู่โลกของแฟชั่นอย่างแท้จริง ทำให้ดวงเข้าใจธุรกิจและระบบแฟชั่นทุกอย่างมากขึ้น การไปเรียนที่นั่นทำให้ดวงได้ซึมซับในสิ่งที่เราชอบ ได้เรียนรู้ที่จะทำทุกอย่างด้วยตนเอง และการทำงานกลุ่มกับชาวต่างชาติ วิชาจากการเรียนที่มารังโกนี่สามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต
พลอย : การเรียนการสอนดีมาก อาจารย์ดูแลใกล้ชิดพร้อมให้คำปรึกษาทุกเมื่อ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่เรียนที่นั้น พลอยได้เปิดมุมมองความคิดกว้างขึ้นมากค่ะ
เตย : สถาบันมารังโกนี่ทำให้ตัวเราที่ไม่เคยทำอะไรเกี่ยวกับแฟชั่นเลยได้เข้าใจศาสตร์นี้มากขึ้น เริ่มเข้าใจว่าการออกแบบคอลเล็กชั่นมีกระบวนการคิดอย่างไร รู้จักการนำเทรนด์มาใช้ในงานออกแบบกระเป๋าของเรา โดยที่ยังคงความเป็นตัวเราอยู่
มู่ลี่ : สิ่งสำคัญที่ได้จากสถาบันมารังโกนี่คือระบบความคิดที่เรานำมาใช้ในเชิงธุรกิจจริงๆ ถ้าไม่ได้ไปเรียนที่มารังโกนี่ มู่อาจจะไม่ได้เปิดตัวเองและวิเคราะห์กับอะไรใหม่ๆ รอบตัวมากแบบนี้
ฝากถึงคนที่กำลังหาที่เรียนต่อ
ดวง : สถาบันมารังโกนี่เป็นจุดมุ่งหมายที่ดีสำหรับนักเรียนแฟชั่นและนักเรียนออกแบบรุ่นใหม่ นอกจากการเป็นสถาบันเก่าแก่ด้านดีไซน์และแฟชั่นแล้ว ที่ตั้งของโรงเรียนมักเน้นความเป็นศูนย์กลางเมืองแฟชั่นชั้นนำ มีออฟฟิศช่วยจัดหางานให้นักเรียน ทำให้นักเรียนแฟชั่นได้รับประสบการณ์จริงจากการทำงานกับห้องเสื้อระดับโลก ในขณะที่กำลังเรียนและหลังจากเรียนจบ
พลอย : เลือกที่ตัวเองชอบ แล้วหาข้อมูลสำหรับการเรียนต่อที่ต่างๆ ดูว่าเราเหมาะกับตรงไหน พลอยว่าการไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ทำให้เราโตขึ้นเพราะต้องทำทุกอย่างเอง
เตย: การเรียนต่อเตยว่าต้องรู้ก่อนว่าตัวเองอยากเรียนอะไร แล้วดูที่เรียนที่มีวิชาสาขาที่อยากเรียน เลือกประเทศกับสาขาที่เรียน คิดว่าถ้าจะเรียนด้านแฟชั่นก็ควรไปเรียนในประเทศที่เป็นศูนย์กลางเมืองแฟชั่น เช่น ลอนดอน มิลาน หรือ ปารีส
มู่ลี่ : การได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนแฟชั่นระดับโลก เป็นประโยชน์ในการได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ และยังได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆที่ถ้าไม่ได้ไปเรียนก็คงไม่มีวันได้เห็นอย่างแน่นอน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์ข้อมูลการศึกษามารังโกนี่ประจําประเทศไทย
ที่อยู่: 461 ถนน ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400
โทร: 089-424-2916
Facebook : Istituto Marangoni Information Center Thailand
Email: designschool.imthailand@gmail.com
Special Thanks: Celine, Marni, Stella McCartney, JW Anderson, 3.1 Phillip Lim, Alexander Wang, Gucci, HER La Femme and Vickteerut