โรงแรม THE STANDARD ประกาศตัวเตรียมเปิดสาขาในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในเอเชีย

ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว ฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ได้ไปร่วมงานแถลงข่าวที่แสนสิริได้มีการลงทุนใน 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลกโดยมีมูลค่ากว่า 80 ล้านดอลล่าร์ หรือ 2,800 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการขยายฐานการลงทุนในธุรกิจอื่นครั้งสำคัญกับพันธมิตรซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงทั้งสิ้น หนึ่งในนั้นคือ ‘เดอะ สแตนดาร์ด’ (The Standard) แบรนด์โรงแรมที่มีชื่อเสียงจากสหรัฐอเมริกาที่เปลี่ยนโฉมและพลิกธุรกิจโรงแรมไปสู่ทิศทางที่แปลกใหม่ มีเอกลักษณ์สูง โดยเราสามารถเห็นได้ตั้งแต่โลโก้กลับหัวของแบรนด์

“ปรัชญาของเราคือ ‘Anything But Standard’ นั่นก็คือความไม่จำเจ ไม่ทำอะไรแบบเดิมๆ มีความน่าตื่นเต้น ซึ่งคุณน่าจะเห็นได้จากโลโก้ที่กลับหัวของเรา” Amar Lalvani ผู้บริหารของ เดอะ สแตนดาร์ด กล่าวกับเราในวันสัมภาษณ์พิเศษ “ทุกครั้งที่ได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในโลก ผมก็มักจะมีความคิดว่าอยากให้เดอะ สแตนดาร์ดมาตั้งอยู่ที่นั่นที่ี่นี่ เพื่อจะได้นำความเป็นเรามานำเสนอในที่แห่งใหม่ ที่สำคัญผมยังเชื่อในพลังของพนักงานและทีมงานมากครับ ทีมของเรามักจะประกอบไปด้วยคนที่มีพลังเต็มเปี่ยม มีความครีเอทีฟอยู่เสมอครับ”

และเร็วๆ นี้ เดอะ สแตนดาร์ด ได้มีการก่อตั้งโรงแรมนอกสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก  “เร็วๆ นี้คือที่ลอนดอนครับ ซึงนับเป็นโลเคชั่นแรกของเราที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกา และที่ต่อไปคือมิลานและปารีส ซึ่งเรายังมองหาโอกาสต่อๆ ไปอีกเพื่อเปิดตลาดในทวีปยุโรป โดยทางแสนสิริได้ช่วยให้เราได้ขยายฐานสู่ที่อื่นๆ ในเอเชีย และเราตั้งใจไว้ว่าจะให้กรุงเทพฯ เป็น Headquarter ของภูมิภาคเอเชียและะวันออกกลางครับ นอกจากนั้นเรายังมีแผนจะเปิดโรงแรมที่สมุย ภูเก็ต รวมถึงหัวหินและกรุงเทพมหานคร

โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แห่งแรกได้เปิดขึ้นใน พ.ศ. 2542 ที่เวสต์ ฮอลลีวู้ด สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเดอะ สแตนดาร์ดมีโรงแรมในเครือทั้งหมด 5 แห่งในนิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส และไมอามี่ รวมถึงเครือโรงแรม Bunkhouse อีก 7 แห่ง ที่พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและประสบการณ์เร้าใจมากมายไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์สุดสร้างสรรค์และกิจกรรมสุดหลากหลาย (Cultural Hub and Social Destination) ทั้งแฟชั่นโชว์ ไลฟ์มิวสิค การแสดง งานอีเว้นท์และปาร์ตี้ ตลอดถึงงานแสดงผลงานศิลปะและงานฉายหนัง ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าพักที่ช่วยเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี

“โรงแรมของเราแตกต่างกันทุกที่เลยครับ แม้แต่ในอเมริกาด้วยกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเอกลัษณ์ของโลเคชั่นต่างๆ อย่าง Highline ก็จะแตกต่างกับโรงแรมที่ Hollywood โดยสิ้นเชิง เราต้องเรียนรู้ว่าอะไรจะทำให้แต่ละที่แตกต่างกันออกไป ไม่มีอะไรสำเร็จตายตัว เราต้องปรับตัว ต้องเฟ้นหาบุคลากรที่ ‘ใช่’ มาร่วมสร้างสรรค์ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้นักเดินทางครับ สำหรับกรุงเทพมหานคร ผมโชคดีที่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาก่อนช่วงหนึ่ง ผมประทับใจผู้คนที่มีอัธยาศัยดี ยิ้มง่าย ผมชอบอาหารของที่นี่มาก ผมชอบทานก๋วยเตี๋ยวเรือ อาหารรสจัดอย่างส้มตำ ผมชอบดูคุณภาพอาหารในกรุงเทพฯ มากครับ อย่างเช่นที่ถนนคอนเเวนต์ในสีลม ผมได้เห็นวัตถุดิบสดๆ ที่ถูกปรุงให้ดูตรงหน้าเลย มันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีีเพราะประเทศอื่นแทบไม่มีแบบนี้นะครับ”

สำหรับเดอะ สแตนดาร์ดแล้ว เราอาจกล่าวได้ว่าที่นี่คือหนึ่งในโรงแรมหรูที่จะเข้ามาเปิดทำการในประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง โดยการเติบโตของโรงแรมระดับลักชัวรี่นั้นกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จะเห็นได้ว่ามีแบรนด์ต่างประเทศไม่น้อยที่ทยอยเปิดตัวในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ แต่คุณ Amar ก็กล่าวกับเราว่าคำว่า ‘ลักชัวรี่’ (Luxury) สำหรับเขามันแตกต่างออกไป “แน่นอนว่าตลาดลักชัวรี่ในประเทศไทยจะเติบโตมาก แต่เราก็อาจจะเห็นแต่สิ่งเดิมๆ ที่เราเคยมี ดังนั้นผมจึงอยากสร้างอะไรใหม่ๆ บ้าง โรงแรมหรูหราอาจไม่ต้องมีโคมระย้า มันอาจเป็นการถอดรองเท้าแล้วออกไปเดินเล่นบนชายหาดก็ได้ครับ โรงแรม 3 ดาว 5 ดาว ผู้คนดูจากอะไรเพราะความหมายของแต่ละคนก็ต่างกันไป  อย่างของผม ถ้าผมเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS แล้วทำให้มีเวลาเหลือเฟือที่จะจิบค็อกเทลอร่อยๆ นั่นคือความหรูหรา ไม่ใช่ว่านั่ง Bentley แล้วรถต้องติดแหง่กบนท้องถนน ซึ่งผมก็หวังว่าผู้อ่านบาซาร์จะได้มาสัมผัสกับความหรูหราในแบบของ The Standard ครับ” เตรียมสนุกตื่นเต้นไปกับประสบการณ์ที่ไม่จำเจของ The Standard ประเทศไทยได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งบาซาร์จะคอยตามติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยคุณสามารถติดตามข่าวสารได้ทาง FB : BazaarThailand