หากใครขับรถผ่านถนนพระรามสี่คงจะมีโอกาสได้เห็นภาพถ่ายหลากสไตล์ที่จัดแสดงอยู่รอบรั้วโครงการก่อสร้างแห่งหนึ่งกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึกของหญิงสาว ภาพอาหารเบลอๆ ภาพวิถีชีวิตในไซต์ก่อสร้าง (แล้วยังจัดแสดงอยู่รอบไซต์ก่อสร้าง) และภาพเด็กสาวเดินเที่ยวเล่นในสามย่าน ซึ่งทั้งหมดนี้คือผลงานที่รังสรรค์ขึ้นโดย 4 ศิลปินดังผู้มาร่วมแคมเปญ Samyan Mitrtown Artist Collaboration 3 เพื่อปรับโฉมรั้วโครงการสามย่านมิตรทาวน์ให้กลายเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางเมืองที่ใครสัญจรผ่านไปมาก็สามารถชื่นชมได้ ส่วนดีเทลของแต่ละผลงานจะเป็นอย่างไร มาฟังจากปากศิลปินกัน!
“เป็นการนำเสนอมุมที่แปลกใหม่แนวสตรีทของสามย่าน และลักษณะของการสะท้อน (Reflection) โดยถ่ายทอดภาพผ่านผู้หญิงหนึ่งคน ที่เป็นตัวแทนของผู้ที่เข้ามาสัมผัสกับชุมชนสามย่าน ภาพจึงสื่อมุมสะท้อนของชุมชนสามย่าน และในส่วนของภาพเองก็นำเสนอเทคนิคของเงาสะท้อน เช่น สะท้อนผ่านกระจกหน้าร้าน และน้ำบนพื้น เป็นต้น นอกจากเรื่องของมุมมองของภาพแล้ว อารมณ์ของภาพแต่ละภาพยังไม่ซ้ำกันด้วย ซึ่งผมว่าชีวิตจริงของชุมชน ก็ต้องมีหลากหลายอารมณ์อยู่แล้ว” จอร์จ-ธาดา วารีช
“รู้สึกสนิทกับย่านนี้อยู่แล้วตั้งแต่เด็ก และรู้ว่ามีร้านที่ซ่อนในซอกซอยต่าง ๆ เยอะมาก สำหรับคอนเซ็ปต์ในการถ่ายภาพอาหารชุดนี้ ต้องการดึงดูดความสนใจของผู้คน ด้วยการถ่ายภาพผ่านเงาสะท้อนจากวัตถุต่างๆ ที่ทำให้เกิดความบิดเบือน ซึ่งก็จะทำให้ทุกคนได้สนุกกับการเดาว่าเงาในภาพเป็นอะไรกันแน่ ขอบคุณสามย่านมิตรทาวน์ ที่ให้ศิลปินได้มีโอกาสปล่อยของ แสดงความคิดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนพื้นที่เปิด เพื่อให้ทุกคนได้เสพย์งานศิลป์ทั่วถึงกัน” เชน-คเชนทร์ วงศ์แหลมทอง
“ความที่ชอบงานโครงสร้าง เส้นสาย จึงเป็นโอกาสดีที่ได้เข้ามาถ่ายภาพในไซต์ก่อสร้าง ได้มาเห็นว่ากว่าจะเป็นตึกที่สวยสมบูรณ์แบบ พื้นที่นี้เคยเป็นอย่างไรมาก่อน เกิดความรู้สึกอยากค้นหา และสนุกที่ได้สำรวจพื้นที่ จึงถ่ายทอดภาพถ่ายผ่านนักสำรวจ 3 คน ที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ และเล่นสนุกกัน ดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์นี้ ที่ทำให้ทุกคนให้ความสนใจมาถ่ายภาพกับรั้วก่อสร้าง รวมทั้งกระตุ้นให้ผู้คนที่ผ่านถนนเส้นนี้ หรือคนทั่วไปได้เห็นสิ่งที่เป็นศิลปะอยู่บนพื้นที่สาธารณะ และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเขา” ผ้าป่าน-สิริมา ไชยปรีชาวิทย์
“เปรียบสตรีทอาร์ตแกลเลอรี่แห่งนี้ เหมือนกับสตรีทฟู้ด ที่คนทั่วไปกินได้อร่อย และแต่ละร้านก็มีจุดเด่นในแบบของตัวเอง เช่นเดียวกับผลงานของศิลปินแต่ละคน ก็มีหลากหลายรสชาติมาก ซึ่งไม่ว่าใครที่ผ่านไปมาทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ก็สามารถเสพอาหารตาได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องไปหอศิลป์ หรือแกลเลอรี่เท่านั้น สำหรับภาพถ่ายชุดนี้นำคอนเซ็ปต์ Nostalgia มาถ่ายทอดความโหยหาอดีตในวัยเด็ก โดยนำสัญลักษณ์ของวัยเด็กมาสื่อสารผ่านนางแบบทั้งสอง เช่น การใส่รองเท้านักเรียน การเดินเกี่ยวก้อย รอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่มาจากความรู้สึกจริงๆ ไม่เสแสร้งต่อกัน และนำโมเม้นท์เหล่านั้นมาบรรจุไว้ในภาพถ่ายชุดนี้ ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนเก่าที่ได้มาเจอกัน” อุ๊-สุพัตรา หมั่นแสวง หรือ มานี มีใจ
