กระแสการดูนางามในประเทศไทยเริ่มกลับมาอีกครั้ง ครั้นเมื่อ Steve Harvey ประกาศชื่อสาวงามจากประเทศไทยเข้ารอบ 15 คนสุดท้ายเมื่อปี 2015 ซึ่งในปีนั้น แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ เป็นตัวแทนสาวไทยทั้งประเทศในการเข้าประกวดเวทีอันทรงเกียรติแห่งนี้และสามารถฟันฟ่าสาวงามอีกเกือบร้อยคนทะลุถึงรอบ 10 คนสุดท้ายในรอบ 27 ปี จนเกิดเป็นกระแสฟีเวอร์ถึงขนาดที่ในปีถัดมา น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ สามารถทำให้ #MissUniverseThailand ในทวิตเตอร์ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งและสามารถทะลุเข้าสู่รอบ 6 คนสุดท้ายไปตอบคำถามจนสำเร็จในรอบ 29 ปีของประวัติศาสตร์สาวไทยในการประกวด Miss Universe
นับจากนั้นมาจึงทำให้ไม่เพียงสายสะพาย THAILAND เป็นที่น่าจับตามองเท่านั้นแต่ยังทำให้ชื่อของประเทศไทยกลับเข้าสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกอีกครั้ง เพราะไม่ว่ามารีญา พูลเลิศลาภ สาวไทยในการเข้าประกวด Miss Universe 2017 จะไปปรากฏตัวแห่งหนไหนของ Las Vegas ที่สหรัฐอเมริกา ทางทีมงานและผู้คนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษถึงขนาดที่เว็บพนันนางงามชื่อดังทุกเว็บไซต์ปรากฏชื่อ มารีญา พูลเลิศลาภ ติดท็อปอันดับ 3 มาโดยตลอดการแข่งขันและเธอก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังถึงขนาดเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายจนสำเร็จ

เรื่องราวเหล่านี้ทำให้เรานึกถึงความครึกครื้นและอลังการของการจัดประกวด Miss Universe ที่จัดขึ้น ณ ประเทศไทยถึง 2 ครั้งที่ผ่านมา โดยครั้งแรกจัดขึ้นในปี 1992 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีตัวแทนสาวไทยอย่าง อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ สาวเหนือม้ามืดที่สามารถคว้ใจกรรมการไปประกวด Miss Universe 1992 ได้สำเร็จ ด้วยความที่เธอเป็นสาวเหนือจึงทำให้เธอมีใบหน้าที่สวยแบบสาวไทยแท้ๆ บวกกับความสามารถในการฟ้อนสาวไหม เธอจึงกลายเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดของไทยในปีนั้นในการนำเสนอความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลก

ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้สาวงามที่เข้าประกวดในปีนั้นคือเหล่าฉากหลังในค่ำคืนการประกวดอันสวยงามที่มีทั้งช้าง ยักษ์และศาลาที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี โดยในค่ำคืนที่สาวๆ รอคอยมาตลอดการแข่งขัน “มิเชล แม็คลีน” สาวงามวัย 19 ปีจากนามิเบีย เป็นผู้ครองตำแหน่งนางงามจักรวาลประจำปีนี้อย่างไม่ค้านสายตาผู้ชมทั่วโลก

ผ่านไปเกือบ 13 ปี ทางกองประกวดกลับมาเล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการจัดประกวด Miss Univers อีกครั้ง ซึ่งหวยมาตกลงในปี 2005 ประเทศไทยมีโอกาสเป็นเจ้าภาพในการประกวด Miss Universe โดยการประกวดในครั้งนั้นถูกชื่นชมจากบรรดาแฟนนางงามและผู้ชมว่าดีที่สุดและเป็นที่น่าจดจำที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

โดยเริ่มตั้งแต่เปิดรายการจะมีบรรดาเหล่าสาวงามออกมาเต้นโชว์เพื่อเปิดตัวอย่างสวยงาม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Opening Dance ซึ่งในปี 2005 นี้ สาวงามออกมายืนเต้นในชุดสีม่วงและแดงสลับกันไป พร้อมด้วยท่าเต้นที่ดูสนุกสนานและผสมผสานความเป็นไทยลงไปด้วย

อีกทั้งยังมากไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่ดูผ่านๆ อาจเหมือนกิจกรรมทั่วไปในการประกวดเวทีนางงามอื่นๆ แต่แท้จริงนั้นมันคือกลยุทธ์หลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะเห็นได้จากการนำเอาวัฒนธรรม เอกลักษณ์และศิลปะมารวมอยู่ในทุกกิจกรรมที่เผยออกสู่สายตาผู้ชม

ตัวแทนสาวไทยของเราในปี 2005 คือ น้อด-ชนันภรณ์ รสจันทน์ โดยเธอสามารถคว้าตำแหน่งชุดประจำชาติยอดเยี่ยมให้แก่ประเทศไทยมาครองได้

ซึ่งในปีนั้นนางงามนัยย์ตาสีฟ้าจากแคนาดานามว่า ‘นาตาลี เกลโบวา’ เป็นผู้สามารถคว้ามงกุฎนางงามจักรวาลประจำปี 2005 ไปด้วยคำตอบที่ฉลาดและหลักแหลมจนต้องยกนิ้วให้









อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของคุณ ?
“สิ่งท้าทายที่สุดในชีวิตของฉันคือการพยายามมองโลกในแง่บวกอยู่ตลอดเวลา ฉันมักมองตัวเองเป็นแก้วที่มีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว แทนที่จะเป็นอีกครึ่งที่มันว่างเปล่า และถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ในช่วงที่ยากลำบากแค่ไหนในชีวิต ฉันก็จะมองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ ขอบคุณค่ะ”