หลังจากที่เราได้ยินข่าวลือหนาหูว่าจะมีดาราฮอลลีวูดบินลัดฟ้ามาร่วมเดินพรมแดงในค่ำคืนอันยิ่งใหญ่ของการเปิดตัวห้างสรรพสินค้า Icon Siam แห่งเครือ Siam Piwat ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร เธอคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก Naomi Watts ไอคอนแห่งวงการฮอลลีวูดและงานพรมแดง วันนี้บรรณาธิการบริหาร ดวง โปษยานนท์ และบรรณธิการฝ่ายดิจิทัล แจน-เจนจิตรา ตันติกาญจน์ ได้มีโอกาสมาร่วมพูดคุยกับนักแสดงหญิงมากความสามารถถึงเส้นทางสู่ความฝันในฐานะนักแสดงและการมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง
Naomi Watts: อันที่จริงฉันเคยมาหลายครั้งแล้วค่ะ ครั้งล่าสุดที่ฉันมาที่นี่คือช่วงที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Impossible” เมื่อปี 2009 นอกจากนั้นก็ยังเคยมาเที่ยวภาคใต้อีกด้วยค่ะ
HB: ชายหาดไหนที่คุณชื่นชอบที่สุดในประเทศไทยคะ?
NW: ฉันชอบสถานที่ที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Impossible” มาก ซึ่งก็คือเขาหลัก เป็นที่เกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2004 ตัวผู้กำกับต้องการจะถ่ายทอดเรื่องราวออกมาให้ใกล้เคียงกับเรื่องจริงมากที่สุด จึงเลือกที่จะถ่ายทำ ณ โรงแรมเดียวกันกับที่ครอบครัวชาวสเปนที่เป็นตัวละครหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้เคยพักอยู่ตอนเกิดโศกนาฏกรรมนั้น ในตอนนั้นนักแสดงและทีมงานทุกคนมักจะนัดรวมตัวกันที่บาร์ชื่อ Memories ในทุกๆ วันเสาร์เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์นั้นขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างความทรงจำใหม่ๆ ร่วมกัน ตอนนั้นลูกๆ ของฉันเพิ่งจะ 1 และ 2 ขวบแต่พวกเขาก็ยังจดจำช่วงเวลาดีๆ ได้อย่างชัดเจน
HB: ประเทศไทยสร้างแรงบันดาลใจอะไรให้กับคุณบ้างคะ
NW: สีสันและกลิ่นของประเทศนี้ค่ะ พอฉันได้ลงจากเครื่องมาสัมผัสสิ่งเหล่านี้ มันก็ทำให้ความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับที่นี่หวนกลับมาอีกครั้ง คนไทยใจเย็นและอ่อนโยน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คืออาหารอันเลิศรสของที่นี่ ฉันชอบอาหารรสเผ็ดมาก ต้มยำกุ้งคืออาหารจานโปรดของฉันเลยล่ะค่ะ อีกอย่างที่ชอบมากก็คือกลิ่นและรสชาติของตะไคร้ เพราะแม่ฉันชอบทำอาหารไทยและมักจะชอบใช้ตะไคร้เป็นส่วนผสม นอกจากนี้ใบกระเพราะและผักชีก็ยังเป็นสมุนไพรไทยที่ฉันชื่นชอบด้วย
HB: คุณเคยเรียนรู้ภาษาไทยมาก่อนบ้างไหมคะ
NW: “สวัสดีค่ะ” และ “ขอบคุณค่ะ” ผู้ชายกับผู้หญิงพูดต่างกันใช่ไหมคะ ? (หัวเราะ)
NW: สำหรับฉัน คนที่เป็นไอคอนคือบุคคลที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึก และเขาหรือเธอสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้ เช่นนักแสดงที่ฉันปลาบปลื้มมาตั้งแต่วัยเด็กอย่าง Jessica Lang, Susan Sarandon และ Meryl Streep ค่ะ
HB: ในฐานะที่คุณเป็นนักแสดงมืออาชีพ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ในยุคปัจจุบัน
NW: ฉันรู้สึกว่ามันเริ่มมีความไม่มั่นคง เพราะทุกวันนี้ทุกคนสามารถชมภาพยนตร์ผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องออกไปไหน แต่ส่วนตัวฉันยังชื่นชอบการดูหนังในโรงภาพยนตร์ ซึ่งมันมีอรรถรสและบรรยากาศพิเศษที่คุณหาไม่ได้ที่บ้าน
NW: ท่านทรงเป็นไอคอนที่ทุกคนทั่วโลกปลาบปลื้ม จึงเป็นบทที่ท้าทายและมีแรงกดดันสูงมาก แต่นี่คือภาพยนตร์ชีวประวัติที่ล้ำลึก และฉันรู้สึกภูมิใจมากที่ไ้ด้รับเลือกให้เล่นบทอันทรงเกียรตินี้
HB: ในชีวิตของการเป็นนักแสดง บทบาทไหนที่คุณชื่นชอบมากที่สุด?
NW: เลือกยากมากเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้เลือกก็คงเป็นบท Betty Elms ใน Mulholland Drive เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไปเลย เพราะฉันได้ลองเล่นเป็นคนสองบุคลิก ซึ่งไม่ค่อยมีโอกาสได้แสดงแบบนี่สักเท่าไร ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจมากที่ผู้กำกับ David Lynch เชื่อในตัวฉัน
NW: ฉันตื่นเต้นมากๆ และรู้สึกเป็นเกียรติมากที่จะได้ร่วมแสดงในซีรี่ส์นี้ค่ะ จริงๆ แล้วฉันไม่สามารถจะแชร์อะไรให้คุณฟังได้เลยเพราะข้อมูลทุกอย่างปิดเป็นความลับค่ะ (หัวเราะ) แต่สิ่งที่ฉันบอกได้เลยก็คือมันกำลังจะเกิดขึ้นและฉันก็ตื่นเต้นกับมันมากๆ!
HB: อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเป็นนักแสดงคะ?
NW: อันที่จริงแล้วไม่ว่าอาชีพไหนก็มีขึ้นมีลงกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่ฉันรู้สึกมาตลอดทั้ง 15 ปีในฐานะนักแสดงก็คือความกังวลว่างานนี้จะเป็นงานสุดท้ายหรือไม่ ซึ่งนี่ก็ไม่ได้แย่ไปซะทั้งหมดเพราะมันเหมือนการที่เราได้ทบทวนตัวเองและรู้สึกขอบคุณในการได้รับบทนั้นๆ
HB: Motto (คติ) ในชีวิตของคุณคืออะไรคะ?
NW: “จงมุ่งไปข้างหน้า ใจเย็น รักษาสุขภาพและอารมณ์ดี” ทุกวันนี้ชีวิตของฉันคือลูกๆ ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ฝันของฉันได้กลายเป็นจริงทั้งในหน้าที่การงานและในฐานะแม่คนหนึ่ง
HB: อาชีพนักแสดงคือความใฝ่ฝันตั้งแต่วัยเด็กใช่ไหมคะ?
NW: ใช่แล้วค่ะ แต่ในตอนนั้นฉันไม่รู้เลยว่าจะทำสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบให้เป็นอาชีพได้อย่างไร ฉันเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ทุกคนมีหัวศิลป์ แต่ฉันรู้ตัวว่าฉันเองไม่สามารถที่จะวาดหรือเพ้นท์ภาพได้เลยแม้แต่นิดเดียว ฉันจึงเข้าใจว่าตัวเองไม่มีความสามารถด้านนี้เลย จนกระทั่งฉันได้ชมละครเวทีที่แม่ฉันเล่น ณ วินาทีนั้นก็รู้เลยว่านี่แหละคือสิ่งที่ฉันอยากจะทำ ฉันจึงได้เริ่มเล่นละครโรงเรียนในช่วงวัยรุ่น และนี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางการแสดงของฉันค่ะ
NW: นี่คือสิ่งที่จัดการยากมาก ในขณะที่ฉันอยู่ที่กองถ่ายฉันก็จะต้องคิดว่าเย็นนี้ลูกจะทานอะไรดี แล้วใครจะเป็นคนไปรับลูกจากโรงเรียน ฉันไม่เคยหยุดคิดได้เลย จึงมีช่วงเวลาหนึ่งที่รู้สึกว่าฉันให้ความสำคัญกับงานเกินไปไหม แต่ฉันก็ชื่นชอบและภูมิใจกับอาชีพนี้ ฉันจึงคิดว่ามันสำคัญมากๆ ที่ฉันจะแสดงให้ลูกๆ เห็นว่าฉันกำลังทำในสิ่งที่ฉันรักอยู่
HB: อยากให้ช่วยเล่าถึงสไตล์การแต่งตัวของคุณค่ะ
NW: อันที่จริงมันแล้วแต่อารมณ์ฉันมากเลยค่ะ ฉันมักจะเลือกชุดที่ฉันรู้สึกคล่องตัวแต่ดูมีอะไรพิเศษและคลาสสิกในขณะเดียวกัน
HB: อะไรคือเคล็ดลับความงามที่ทำให้คุณยังดูสวยเป๊ะขนาดนี้คะ?
NW: อันที่จริงทุกคนก็ทราบกันดีอยู่เพราะโลกนี้ไม่มีความลับค่ะ (หัวเราะ) เพียงแค่นอนหลับให้เพียงพอและดื่มน้ำเยอะๆ ทำจิตใจให้เย็นไว้และอยู่รอบๆ ผู้คนที่มีพลังบวก และที่สำคัญคือการเป็นตัวของตัวเองซึ่งทำให้ฉันรู้สึกสวยจากภายในสู่ภายนอกค่ะ ส่วนด้านการบำรุงผิว ฉันค่อนข้างจะอินกับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคมากๆ เลยล่ะ ฉันเป็นพาร์เนอร์ของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางชื่อว่า Onda Beauty New York ซึ่งทำมาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด เมื่อเข้าสู่วัยนี้ ฉันก็รู้สึกได้เลยว่าผิวฉันมันอ่อนแอมาก ไหนจะตารางงานอันแน่นเนือง ฉันจึงต้องเลือกสรรโปรดักที่ไร้สารเคมีและดีต่อผิวฉันที่สุด
NW: ฉันรู้สึกว่ามันดีมากที่ประเด็นนี้กลายเป็นที่พูดถึงทั่งโลก สำหรับฉันสิทธิสตรีก็คือสิทธิมนุษยชน ยิ่งมีสิทธิเท่าเทียมกันเท่าไรก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น ดูเหมือนว่าโลกของเรากำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่เป็นบวกขึ้นซึ่งฉันรู้สึกปลื้มใจมากๆ เลยค่ะ
HB: อะไรคือการเปลี่ยนแปลงที่คุณอยากจะทำในอนาคต?
NW: ฉันอาจจะยังไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่รู้สึกตื่นเต้นกับบทที่ได้รับ “Game of Thrones” ซีรี่ส์ภาคต่อสำหรับ HBO และก็กำลังจะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์อีกเรื่องซึ่งฉันได้รับบทเป็น Gretchen Carlson ผู้เป็นประธานของการประกวด Miss America ซึ่งเธอเคยสร้างผลงานมากมายในชีวิต
HB: สุดท้ายนี้ อยากฝากอะไรให้กับเหล่านักแสดงเจ็นใหม่ที่อยากจะเป็นอย่างคุณบ้าง
NW: ขอให้รู้ว่าฝันของตัวเองคืออะไร ค้นหาสิ่งนั้นให้เจอ และหาหนทางเพื่อจะไปสู่เป้าหมายของเรา อย่าให้ความคิดเห็นของคนอื่นมาเป็นอุปสรรค แน่นอนว่ามันคืองานที่หนักแต่มันคุ้มค่าทุกหยาดเหงื่อที่สุดเลยล่ะค่ะ
Naomi Watts: อันที่จริงฉันเคยมาหลายครั้งแล้วค่ะ ครั้งล่าสุดที่ฉันมาที่นี่คือช่วงที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Impossible” เมื่อปี 2009 นอกจากนั้นก็ยังเคยมาเที่ยวภาคใต้อีกด้วยค่ะ
HB: ชายหาดไหนที่คุณชื่นชอบที่สุดในประเทศไทยคะ?
NW: ฉันชอบสถานที่ที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Impossible” มาก ซึ่งก็คือเขาหลัก เป็นที่เกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2004 ตัวผู้กำกับต้องการจะถ่ายทอดเรื่องราวออกมาให้ใกล้เคียงกับเรื่องจริงมากที่สุด จึงเลือกที่จะถ่ายทำ ณ โรงแรมเดียวกันกับที่ครอบครัวชาวสเปนที่เป็นตัวละครหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้เคยพักอยู่ตอนเกิดโศกนาฏกรรมนั้น ในตอนนั้นนักแสดงและทีมงานทุกคนมักจะนัดรวมตัวกันที่บาร์ชื่อ Memories ในทุกๆ วันเสาร์เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์นั้นขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างความทรงจำใหม่ๆ ร่วมกัน ตอนนั้นลูกๆ ของฉันเพิ่งจะ 1 และ 2 ขวบแต่พวกเขาก็ยังจดจำช่วงเวลาดีๆ ได้อย่างชัดเจน
HB: ประเทศไทยสร้างแรงบันดาลใจอะไรให้กับคุณบ้างคะ
NW: สีสันและกลิ่นของประเทศนี้ค่ะ พอฉันได้ลงจากเครื่องมาสัมผัสสิ่งเหล่านี้ มันก็ทำให้ความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับที่นี่หวนกลับมาอีกครั้ง คนไทยใจเย็นและอ่อนโยน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คืออาหารอันเลิศรสของที่นี่ ฉันชอบอาหารรสเผ็ดมาก ต้มยำกุ้งคืออาหารจานโปรดของฉันเลยล่ะค่ะ อีกอย่างที่ชอบมากก็คือกลิ่นและรสชาติของตะไคร้ เพราะแม่ฉันชอบทำอาหารไทยและมักจะชอบใช้ตะไคร้เป็นส่วนผสม นอกจากนี้ใบกระเพราะและผักชีก็ยังเป็นสมุนไพรไทยที่ฉันชื่นชอบด้วย
HB: คุณเคยเรียนรู้ภาษาไทยมาก่อนบ้างไหมคะ
NW: “สวัสดีค่ะ” และ “ขอบคุณค่ะ” ผู้ชายกับผู้หญิงพูดต่างกันใช่ไหมคะ ? (หัวเราะ)
HB: ครั้งนี้คุณได้มาร่วมงานเปิดตัวอันยิ่งใหญ่ของ Iconsiam เราจึงอยากทราบว่าคำว่า “Icon” มีความหมายต่อคุณอย่างไรบ้างคะ?
NW: สำหรับฉัน คนที่เป็นไอคอนคือบุคคลที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึก และเขาหรือเธอสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้ เช่นนักแสดงที่ฉันปลาบปลื้มมาตั้งแต่วัยเด็กอย่าง Jessica Lang, Susan Sarandon และ Meryl Streep ค่ะ
HB: ในฐานะที่คุณเป็นนักแสดงมืออาชีพ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ในยุคปัจจุบัน
NW: ฉันรู้สึกว่ามันเริ่มมีความไม่มั่นคง เพราะทุกวันนี้ทุกคนสามารถชมภาพยนตร์ผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องออกไปไหน แต่ส่วนตัวฉันยังชื่นชอบการดูหนังในโรงภาพยนตร์ ซึ่งมันมีอรรถรสและบรรยากาศพิเศษที่คุณหาไม่ได้ที่บ้าน
NW: ท่านทรงเป็นไอคอนที่ทุกคนทั่วโลกปลาบปลื้ม จึงเป็นบทที่ท้าทายและมีแรงกดดันสูงมาก แต่นี่คือภาพยนตร์ชีวประวัติที่ล้ำลึก และฉันรู้สึกภูมิใจมากที่ไ้ด้รับเลือกให้เล่นบทอันทรงเกียรตินี้
HB: ในชีวิตของการเป็นนักแสดง บทบาทไหนที่คุณชื่นชอบมากที่สุด?
NW: เลือกยากมากเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้เลือกก็คงเป็นบท Betty Elms ใน Mulholland Drive เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไปเลย เพราะฉันได้ลองเล่นเป็นคนสองบุคลิก ซึ่งไม่ค่อยมีโอกาสได้แสดงแบบนี่สักเท่าไร ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจมากที่ผู้กำกับ David Lynch เชื่อในตัวฉัน
NW: ฉันตื่นเต้นมากๆ และรู้สึกเป็นเกียรติมากที่จะได้ร่วมแสดงในซีรี่ส์นี้ค่ะ จริงๆ แล้วฉันไม่สามารถจะแชร์อะไรให้คุณฟังได้เลยเพราะข้อมูลทุกอย่างปิดเป็นความลับค่ะ (หัวเราะ) แต่สิ่งที่ฉันบอกได้เลยก็คือมันกำลังจะเกิดขึ้นและฉันก็ตื่นเต้นกับมันมากๆ!
HB: อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเป็นนักแสดงคะ?
NW: อันที่จริงแล้วไม่ว่าอาชีพไหนก็มีขึ้นมีลงกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่ฉันรู้สึกมาตลอดทั้ง 15 ปีในฐานะนักแสดงก็คือความกังวลว่างานนี้จะเป็นงานสุดท้ายหรือไม่ ซึ่งนี่ก็ไม่ได้แย่ไปซะทั้งหมดเพราะมันเหมือนการที่เราได้ทบทวนตัวเองและรู้สึกขอบคุณในการได้รับบทนั้นๆ
HB: Motto (คติ) ในชีวิตของคุณคืออะไรคะ?
NW: “จงมุ่งไปข้างหน้า ใจเย็น รักษาสุขภาพและอารมณ์ดี” ทุกวันนี้ชีวิตของฉันคือลูกๆ ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ฝันของฉันได้กลายเป็นจริงทั้งในหน้าที่การงานและในฐานะแม่คนหนึ่ง
HB: อาชีพนักแสดงคือความใฝ่ฝันตั้งแต่วัยเด็กใช่ไหมคะ?
NW: ใช่แล้วค่ะ แต่ในตอนนั้นฉันไม่รู้เลยว่าจะทำสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบให้เป็นอาชีพได้อย่างไร ฉันเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ทุกคนมีหัวศิลป์ แต่ฉันรู้ตัวว่าฉันเองไม่สามารถที่จะวาดหรือเพ้นท์ภาพได้เลยแม้แต่นิดเดียว ฉันจึงเข้าใจว่าตัวเองไม่มีความสามารถด้านนี้เลย จนกระทั่งฉันได้ชมละครเวทีที่แม่ฉันเล่น ณ วินาทีนั้นก็รู้เลยว่านี่แหละคือสิ่งที่ฉันอยากจะทำ ฉันจึงได้เริ่มเล่นละครโรงเรียนในช่วงวัยรุ่น และนี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางการแสดงของฉันค่ะ
HB: ในเมื่อตารางงานคุณแน่นขนาดนี้ คุณมีวิธีแบ่งเวลางานกับการใช้ชีวิตอย่างไรบ้างคะ?
NW: นี่คือสิ่งที่จัดการยากมาก ในขณะที่ฉันอยู่ที่กองถ่ายฉันก็จะต้องคิดว่าเย็นนี้ลูกจะทานอะไรดี แล้วใครจะเป็นคนไปรับลูกจากโรงเรียน ฉันไม่เคยหยุดคิดได้เลย จึงมีช่วงเวลาหนึ่งที่รู้สึกว่าฉันให้ความสำคัญกับงานเกินไปไหม แต่ฉันก็ชื่นชอบและภูมิใจกับอาชีพนี้ ฉันจึงคิดว่ามันสำคัญมากๆ ที่ฉันจะแสดงให้ลูกๆ เห็นว่าฉันกำลังทำในสิ่งที่ฉันรักอยู่
HB: อยากให้ช่วยเล่าถึงสไตล์การแต่งตัวของคุณค่ะ
NW: อันที่จริงมันแล้วแต่อารมณ์ฉันมากเลยค่ะ ฉันมักจะเลือกชุดที่ฉันรู้สึกคล่องตัวแต่ดูมีอะไรพิเศษและคลาสสิกในขณะเดียวกัน
HB: อะไรคือเคล็ดลับความงามที่ทำให้คุณยังดูสวยเป๊ะขนาดนี้คะ?
NW: อันที่จริงทุกคนก็ทราบกันดีอยู่เพราะโลกนี้ไม่มีความลับค่ะ (หัวเราะ) เพียงแค่นอนหลับให้เพียงพอและดื่มน้ำเยอะๆ ทำจิตใจให้เย็นไว้และอยู่รอบๆ ผู้คนที่มีพลังบวก และที่สำคัญคือการเป็นตัวของตัวเองซึ่งทำให้ฉันรู้สึกสวยจากภายในสู่ภายนอกค่ะ ส่วนด้านการบำรุงผิว ฉันค่อนข้างจะอินกับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคมากๆ เลยล่ะ ฉันเป็นพาร์เนอร์ของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางชื่อว่า Onda Beauty New York ซึ่งทำมาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด เมื่อเข้าสู่วัยนี้ ฉันก็รู้สึกได้เลยว่าผิวฉันมันอ่อนแอมาก ไหนจะตารางงานอันแน่นเนือง ฉันจึงต้องเลือกสรรโปรดักที่ไร้สารเคมีและดีต่อผิวฉันที่สุด
NW: ฉันรู้สึกว่ามันดีมากที่ประเด็นนี้กลายเป็นที่พูดถึงทั่งโลก สำหรับฉันสิทธิสตรีก็คือสิทธิมนุษยชน ยิ่งมีสิทธิเท่าเทียมกันเท่าไรก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น ดูเหมือนว่าโลกของเรากำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่เป็นบวกขึ้นซึ่งฉันรู้สึกปลื้มใจมากๆ เลยค่ะ
HB: อะไรคือการเปลี่ยนแปลงที่คุณอยากจะทำในอนาคต?
NW: ฉันอาจจะยังไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่รู้สึกตื่นเต้นกับบทที่ได้รับ “Game of Thrones” ซีรี่ส์ภาคต่อสำหรับ HBO และก็กำลังจะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์อีกเรื่องซึ่งฉันได้รับบทเป็น Gretchen Carlson ผู้เป็นประธานของการประกวด Miss America ซึ่งเธอเคยสร้างผลงานมากมายในชีวิต
HB: สุดท้ายนี้ อยากฝากอะไรให้กับเหล่านักแสดงเจ็นใหม่ที่อยากจะเป็นอย่างคุณบ้าง
NW: ขอให้รู้ว่าฝันของตัวเองคืออะไร ค้นหาสิ่งนั้นให้เจอ และหาหนทางเพื่อจะไปสู่เป้าหมายของเรา อย่าให้ความคิดเห็นของคนอื่นมาเป็นอุปสรรค แน่นอนว่ามันคืองานที่หนักแต่มันคุ้มค่าทุกหยาดเหงื่อที่สุดเลยล่ะค่ะ
ใน 30 นาทีที่ทีมบาซาร์ได้พูดคุยกับนักแสดงหญิงวัย 50 ปีคนนี้ ก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักเป็นกันเอง ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นผู้หญิงที่มีแพสชั่นลุกโชน พร้อมที่จะปรับตัวรับมือกับบทบาทใหม่ๆ ในวงการภาพยนตร์และซีรี่ส์ได้โดยไม่มีวันรู้เบื่อ เข้าใจแล้วว่าทำไมวงการฮออลีวูดจึงยกย่องให้เธอเป็นไอคอน
