ปีนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกได้จัดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งถือเป็นแข่งขันระดับนานาชาติ ไม่ว่าคุณจะสนใจในการแข่งขันฟุตบอลหรือไม่ แต่เราก็ฏิเสธไม่ได้ว่ารัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่ใหญ่ที่สุด ที่เต็มไปด้วยสถานที่ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีกระทั่งอาคารเก่าแก่ไปจนถึงทะเลสาบอันกว้างใหญ่ เรามีสถานที่ท่องเที่ยว 10 แห่งที่น่าสนใจมากๆ มาไว้ที่นี่
โบสต์ที่ได้ชื่อว่าเป็น The Church of the Savior on Spilled Blood แห่งพระราชวังฤดูหนาว เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งอยู่ถัดจากทะเลบอลติก เป็นสถาปัตยกรรมดูแล้วเหมือนอยู่ในเทพนิยาย
ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในห้าแห่งของโลกที่มีความสำคัญในเรื่องพลังงานจลน์ สร้างขึ้นโดยชาวกะเหรี่ยงซึ่งเป็นชนเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในไซบีเรีย
Kamchatka คาบสมุทรภูเขาไฟอันกว้างใหญ่นี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งที่สุดในโลก การเดินทางอาจจะค่อนข้างลำบาก แต่ด้วย น้ำพุร้อน สัตว์ป่า ป่าเขียวขจี และภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วย หิมะ ชั่งคุ้มค่าที่จะยอมลำบากเพื่อที่จะได้ไปเห็นอะไรดีดีที่น่าจดจำ
เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา Vladivostok ได้รับการเปรียบเทียบว่ามีความคล้ายกันกับเมืองซานฟรานซิสโก เนื่องด้วยเนินเขาที่ตั้งริมน้ำ และอ่าวทราย แต่สิ่งที่คล้ายคลึงกันมากที่สุดคือสะพานแขวนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เหนืออ่าวโกลเด้นฮอร์น
เมืองหลวงของรัสเซีย กรุงมอสโกเป็นเมืองอันตระหง่านที่มีป้อมปราการอันเก่าแก่ อนุสาวรีย์ที่สวยงามและสถาปัตยกรรมอันน่าจดจำ มหาวิหารเซนต์บาซิล, จัตุรัสแดงและโรงละคร Bolshoi ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจไม่น้อย
ทะเลสาบไบคาลเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก (ลึกประมาณ 5,300 เมตร) และมีพื้นที่ผิว 12,248 ตารางไมล์ ซึ่งมีเกาะอยู่ทั้งหมด 27 เกาะ มีสัตว์มากกว่า 1,500 สายพันธุ์ซึ่งประมาณ 80% ไม่มีที่ใดบนโลก
ที่รู้จักกันในนามเมืองหลวงแห่งการกีฬาของรัสเซีย คาซานเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬา แต่ยังมีศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปตะวันออก และอัญมณีของเมืองนี้คือ Kazan Kremlin ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกใน ปีพ. ศ. 2543
เกาะ Kizhi ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบ Onega ได้รับการยกย่องว่าเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก สิ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากของที่นี่คือ โบสถ์ไม้ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยช่างไม้มากฝีมือ
9. Lena Pillars
มรดกโลกขององค์การยูเนสโกอีกอย่างหนึ่งคือ Lena pillars หินที่เกิดขึ้นเองเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเรียงกันอย่างสวยงามและน่าทึ่ง มีความสูงตั้งแต่ 150-300 เมตรและก่อตัวขึ้นเมื่อกว่า 500 ล้านปีก่อน
Dargavs หรือ City of the Dead ตามปกติเรียกว่าเป็นสุสานโบราณที่เต็มไปด้วยสุสานและอุโมงค์ฝังศพ ย้อนกลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 สถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากโรคระบาดที่กวาดล้างผู้อยู่อาศัยออกไปทั้งหมด
โบสต์ที่ได้ชื่อว่าเป็น The Church of the Savior on Spilled Blood แห่งพระราชวังฤดูหนาว เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งอยู่ถัดจากทะเลบอลติก เป็นสถาปัตยกรรมดูแล้วเหมือนอยู่ในเทพนิยาย
ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในห้าแห่งของโลกที่มีความสำคัญในเรื่องพลังงานจลน์ สร้างขึ้นโดยชาวกะเหรี่ยงซึ่งเป็นชนเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในไซบีเรีย
Kamchatka คาบสมุทรภูเขาไฟอันกว้างใหญ่นี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งที่สุดในโลก การเดินทางอาจจะค่อนข้างลำบาก แต่ด้วย น้ำพุร้อน สัตว์ป่า ป่าเขียวขจี และภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วย หิมะ ชั่งคุ้มค่าที่จะยอมลำบากเพื่อที่จะได้ไปเห็นอะไรดีดีที่น่าจดจำ
เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา Vladivostok ได้รับการเปรียบเทียบว่ามีความคล้ายกันกับเมืองซานฟรานซิสโก เนื่องด้วยเนินเขาที่ตั้งริมน้ำ และอ่าวทราย แต่สิ่งที่คล้ายคลึงกันมากที่สุดคือสะพานแขวนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เหนืออ่าวโกลเด้นฮอร์น
เมืองหลวงของรัสเซีย กรุงมอสโกเป็นเมืองอันตระหง่านที่มีป้อมปราการอันเก่าแก่ อนุสาวรีย์ที่สวยงามและสถาปัตยกรรมอันน่าจดจำ มหาวิหารเซนต์บาซิล, จัตุรัสแดงและโรงละคร Bolshoi ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจไม่น้อย
ทะเลสาบไบคาลเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก (ลึกประมาณ 5,300 เมตร) และมีพื้นที่ผิว 12,248 ตารางไมล์ ซึ่งมีเกาะอยู่ทั้งหมด 27 เกาะ มีสัตว์มากกว่า 1,500 สายพันธุ์ซึ่งประมาณ 80% ไม่มีที่ใดบนโลก
ที่รู้จักกันในนามเมืองหลวงแห่งการกีฬาของรัสเซีย คาซานเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬา แต่ยังมีศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปตะวันออก และอัญมณีของเมืองนี้คือ Kazan Kremlin ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกใน ปีพ. ศ. 2543
เกาะ Kizhi ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบ Onega ได้รับการยกย่องว่าเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก สิ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากของที่นี่คือ โบสถ์ไม้ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยช่างไม้มากฝีมือ
9. Lena Pillars
มรดกโลกขององค์การยูเนสโกอีกอย่างหนึ่งคือ Lena pillars หินที่เกิดขึ้นเองเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเรียงกันอย่างสวยงามและน่าทึ่ง มีความสูงตั้งแต่ 150-300 เมตรและก่อตัวขึ้นเมื่อกว่า 500 ล้านปีก่อน
Dargavs หรือ City of the Dead ตามปกติเรียกว่าเป็นสุสานโบราณที่เต็มไปด้วยสุสานและอุโมงค์ฝังศพ ย้อนกลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 สถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากโรคระบาดที่กวาดล้างผู้อยู่อาศัยออกไปทั้งหมด
