OMEGA จัดนิทรรศการสุดพิเศษในชื่อว่า ‘Planet OMEGA’ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาอันทรงคุณค่าทั้งหมดของแบรนด์ ตั้งแต่วันแรกในปี 1848 จนถึงปัจจุบัน ผ่านเรือนนาฬิกาทรงคุณค่าที่หาดูได้ยาก ตั้งแต่เรือนนาฬิกาวินเทจระดับตำนาน อย่างนาฬิกาข้อมือของ Elvis Presley ,John F. Kennedy ที่สวมใส่ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 1961 จนถึงนาฬิกาข้อมือ เจมส์ บอนด์ ซึ่งทั้งหมดถูกยกมาจาก พิพิธภัณฑ์ OMEGA ในเมืองบีล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อมาแสดงโชว์ที่นิวยอร์กโดยเฉพาะ ตั้งแต่วัยที่ 9 -19 พฤศจิกายนนี้
โดยตัวนิทรรศการ Planet OMEGA ถูกร้อยเรียงเป็นสัดส่วนอย่างน่าสนใจ เริ่มจากส่วนแรก ที่รวบรวมเอานาฬิกาวินเทจหลายเรือนมาจัดแสดง ซึ่งเรือนทีได้รับความสนใจอันดับต้นๆ คือ นาฬิกาข้อมือ OMEGA ของเอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) ซึ่งของขวัญที่เขาได้จาก RCA Records เมื่อปี 1960 ขอบตัวเรือนประดับด้วยเพชรเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสร 44 เม็ด ในขณะที่ด้านหลังก็มีข้อความแกะสลักระบุว่า “To Elvis, 75 Million Records, RCA Victor, 12-25-60” เอลวิสสวมใส่นาฬิกาเรือนนี้ทั้งบนเวลาทีและในโอกาสอื่นๆ ตลอดหลายปี นี่อาจเป็นเรือนเวลาของเอลวิสที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดที่เคยปรากฏในตลาด
ไปจนถึง นาฬิกา Ladymatic รุ่นดั้งเดิมจากปี 1955 – เรือนเวลาที่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นการปฏิวัติวงการการผลิตเรือนเวลาสำหรับสตรี แนวคิดในการออกแบบคือการรังสรรค์เครื่องบอกเวลาที่ต้องมีทั้งความเป็นหญิงและเที่ยงตรงเช่นเดียวกับนาฬิกาสำหรับบุรุษ ภายในนาฬิกาติดตั้งด้วยกลไก Calibre 455 ซึ่งกลายมาเป็นกลไกอัตโนมัติที่ใช้โรเตตอร์ขนาดเล็กที่สุดและได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการรวมถึงได้รับรางวัลพิเศษ
ถัดมาคือส่วนของ การกีฬาและมหกรรมกีฬาโอลิมปิก แบรนด์ได้เฉลิมฉลองให้กับประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจในบทบาทผู้บอกเวลาอย่างเป็นทางการที่ขยายครอบคลุมการแข่งขันต่างๆ มากมายตั้งแต่ รายการแข่งเรือใบ America’s Cup ไปจนถึงการแข่งขันกอล์ฟระดับมืออาชีพ, รายการว่ายน้ำ และกรีฑา ซึ่งนาฬิกาที่ตัดแสดงในส่วนนี้ คือ หนึ่งในนาฬิกาโครโนกราฟสปลิตเซกันด์ที่เคยใช้จับเวลาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปี 1932 และยังคงเป็นบทบาทหน้าที่สำคัญ OMEGA ยังคงทำหน้าที่จวบจนปัจจุบันยาวนานกว่า 90 ปี
ต่อด้วยส่วนที่เรียกว่า มหาสมุทร นิทรรศการจะพาคุณเจาะลึกไปกับความเชี่ยวชาญในด้านการดำน้ำและการออกแบบในอดีตที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมหาสมุทร ผ่านนาฬิกาหลายเรือนที่ผลิตขึ้นเพื่อกิจกรรมทางน้ำโดยเฉพาะ อย่างนาฬิกา 1932 Marine หรือที่รู้จักว่าเป็นนาฬิกาดำน้ำแบบแรกที่วางจำหน่ายสำหรับนักดำน้ำพลเรือน เครื่องบอกเวลาโดดเด่นด้วยการออกแบบตัวเรือนสองชั้นและสามารถกันน้ำได้สูงสุดถึง 135 เมตร ด้วยนวัตกรรมที่ก้าวหน้าและน่าเชื่อถือทำให้ Marine ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักสำรวจรุ่นบุกเบิก รวมไปถึง Seamaster “Ultra Deep” ที่ถูกพัฒนาขึ้นไม่นานมานี้ก็ถูกนำมาจัดแสดงเช่นกัน เมื่อปี 2019 นาฬิกาแบบแรกๆ ได้เคยลงไปยังจุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรเท่าที่เคยถูกบันทึก
อีกหนึ่งประวัติศาสตร์อันน่าจดจำของแบรนด์คือ การมีส่วนร่วมในภาพยนตร์ตำนานอย่าง เจมส์ บอนด์ ถูกอุทิศให้กับจารชนคนโปรดของโลก ซึ่ง เจมส์ บอนด์ คือ ผู้สวมใส่เรือนเวลา OMEGA ในภาพยนตร์ทุกภาคตั้งแต่ปี 1995 จนถึงปัจจุบัน
Seamaster Diver 300M 007 Edition จากการรับบทบาทครั้งสุดท้ายของแดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) ในภาค No Time To Die นาฬิกาประกอบฉากเรือนนี้รังสรรค์จากไทเทเนียมเกรด 2 น้ำหนักเบา ประดับด้วยเครื่องหมายของกองทัพและกระทั่งออกแบบจากข้อแนะนำของนักแสดงนำอย่างแดเนียล เคร็ก ความเข้าใจในสายลับรหัส 007 ที่ไม่เหมือนใครของเขาและความหลงใหลในเรือนเวลาคลาสสิกช่วยมอบแรงบันดาลใจให้กับรายละเอียดหลายส่วนบนเรือนเวลา
ในปัจจุบัน OMEGA เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ที่มี เฟรนด์ และแอมบาสเดอร์อยู่ทั่วโลก ซึ่งแต่ละรายต่างเป็นตัวแทนถึงคุณค่าในด้านความยอดเยี่ยมและความสำเร็จของแบรนด์ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในกวงการแฟชั่น, วงการบันเทิง, แวดวงการสำรวจ หรือกีฬา ซึ่งหนึ่งในแอมบาสเดอร์ยาวนานกว่า 30 ปีนั่นก็คือ ซินดี ครอว์ฟอร์ด (Cindy Crawford) ซึ่งการเดินทางมาชมนิทรรศการ Planet OMEGA ในครั้งนี้ บาซาร์ยังได้สัมภาษณ์พิเศษกับ Cindy Crawford และ Kaia Gerber แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ OMEGA อีกด้วย ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์พิเศษได้ที่นี่ Harper’s BAZAAR Thailand
