Van Cleef & Arpels and Dance จากแรงบันดาลใจของ ‘บัลเลต์’ สู่งานดีไซน์จิวเวลรี่ชั้นสูง

ความผูกพันระหว่างโลกแห่งเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงและโลกแห่งนาฏกรรมศิลปะระบำปลายเท้า
นับเป็นเวลาหลายทศวรรษที่แบรนด์จิวเวลรี่ชั้นสูงชื่อก้องโลกอย่าง Van Cleef & Arpels ได้อาศัยแรงบันดาลใจอันไร้ขอบเขตของนาฏกรรมการเต้น ศิลปะแห่งระบำปลายเท้าหรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “บัลเลต์” ในการสร้างสรรค์งานออกแบบเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงหลากหลายรูปแบบ ตลอดจนเครื่องประดับจำลองรูปร่างสตรีที่ล้วนเต็มไปด้วยความอ่อนช้อย บอบบาง น่าทะนุถนอมในหลากลีลาท่าเต้น ซึ่งต่างก็สะท้อนให้เห็นถึงการยกย่องคุณค่าความสำคัญของการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการแบ่งปัน

Van Cleef & Arpels Ballerinas จากท่วงท่างามสง่าสู่ประกายเจิดจรัสแห่งอัญมณี

สายใยแห่งความผูกพันระหว่าง Van Cleef & Arpels กับศิลปะการเต้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อทศวรรษที่ 1920 ในกรุงปารีส โดยในเวลานั้น “ลูอิส อารเปลส์” มักจะพา “โคลด อาร์เปลส์” หลานชายของเขาไปยังโรงอุปรากรการนิเยร์ ซึ่งอยู่ห่างจากบูติกที่จัตุรัสว็องโดมเพียงไม่กี่ก้าว ส่วนเข็มกลัดนางระบำหรือที่เรียกกันว่า “บัลเลรินา คลิป (ballerina clip)” ชุดแรกของเมซง ก็ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1940 และกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำของ Van Cleef & Arpels ในเวลาต่อมาอย่างรวดเร็ว
ท่วงท่าที่ดูคล่องแคล่วและอ่อนช้อย ร่วมกับความงดงามของเครื่องแต่งกายบนเข็มกลัดนางระบำ คือสิ่งที่สะกดสายตาและจุดอารมณ์ปรารถนาให้ครอบครองของบรรดานักสะสมทั้งหลายในทันที ไม่ว่าจะเป็นวงหน้าที่เผยเนื้อทองของตัวเรือนหรือใช้เพชรเดี่ยวเจียระไนอย่างประณีต การเติมเต็มด้วยเครื่องประดับศีรษะอันเลอค่า เช่นเดียวกันกับรองเท้าหัวแหลมและกระโปรงบานฟูฟ่องของนางระบำที่ต่างรองรับความพิถีพิถันของงานฝังเพชรและอัญมณีหลากสี เกิดเป็นลีลาพลิ้วไหวตามอากัปการเคลื่อนกายไปตามจังหวะเพลง


พบกับ Lady Danse และ Lady Danse Duo เสน่ห์แห่งเรือนเวลาจากศิลปะของท่วงท่าการเคลื่อนไหว

นอกเหนือไปจากผลงานชิ้นไอคอนิกอย่างเข็มกลัดนางระบำ Van Cleef & Arpels ยังได้ส่งผ่านลีลาศิลปะของท่วงท่าการเคลื่อนไหวมาสู่สีสันอันเจิดจรัสบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ 2 รุ่นใหม่จากคอลเลกชั่น Extraordinary Dials นั่นคือ เลดี ดองส์ (Lady Danse) และ เลดี ดองส์ ดูโอ (Lady Danse Duo) ซึ่งล้วนแต่ปลุกกลิ่นอายความตื่นเต้นและความสนุกสนานของงานแสดงบนเวทีบรอดเวย์ระหว่างทศวรรษ 1950 และ 1960 ในขณะเดียวกัน แต่ละหน้าปัดยังเป็นเสมือนเวทีย่อส่วนที่สะกดสายตาผู้พบเห็นด้วยการใช้อัญมณีเลอค่ามาประดับและมาพร้อมหมายเลขกำกับรุ่น  
ภายใต้ตัวเรือนขนาด 33 มม. ของนาฬิการุ่น Lady Danse และ Lady Danse Duo ต่างถ่ายทอดช่วงเวลาอันเปี่ยมพลังอารมณ์ของศิลปินในสองรูปแบบ นั่นคือก่อนขึ้นเวทีและระหว่างดำเนินการแสดง
บนหน้าปัดนาฬิการุ่น Lady Danse นักบัลเลต์เจ้าของวงหน้าเพชรเดี่ยว กำลังเตรียมพร้อมก้าวออกไปสู่เวทีการแสดง ด้วยแรงบันดาลใจจากแฟชั่นในช่วงทศวรรษ 1950 ถึง 1960 ชุดเดรสที่เธอสวม ประดับด้วยทับทิมและใช้ทองคำเดินขอบขลิบริมกระโปรงเพื่อจำลองความพลิ้วไหวของน้ำหนักผ้าบางเบา พร้อมเผยให้เห็นงานจิตรกรรมย่อส่วนบนรองเท้าที่ช่วยเติมเต็มความงามอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนเรือนร่างประติมากรรมนูนต่ำของนักบัลเลต์ โดดเด่นตัดกับฉากหลังพื้นหน้าปัดที่อาศัยเทคนิคฝังแผ่นอัญมณีปูพื้นก่อทรวดทรงสามมิติ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นมุก, หินเทอร์คอยซ์ และโมราสีเขียวคริโซเพรส ทั้งหมดนี้ล้วนผ่านการตัดเจียนเป็นแผ่นบางในขนาดซึ่งผ่านการคำนวณอย่างแม่นยำเพื่อให้สามารถนำมาวางเคียงกันได้อย่างสม่ำเสมอและไล่ระดับความกลมกลืนเพื่อให้เกิดมิติที่สร้างความโดดเด่นให้แก่อากัปการเคลื่อนไหวของนักบัลเลต์นั่นเอง
ในขณะที่นาฬิกาข้อมือรุ่น Lady Danse Duo คือบรรยากาศตระการตาของกลุ่มนักเต้น ซึ่งกำลังวาดลวดลายอยู่หน้าสถาปัตยกรรมอันชวนให้นึกถึงกลิ่นอายแห่งมหานครนิวยอร์ก หมู่ตึกหินไข่นกการเวกกับทองคำขาวฝังเพชร ก่อโครงสร้างรูปทรงนูนต่ำตัดกับฉากหลังที่ปูพื้นด้วยแผ่นมุกขาว ส่วนเครื่องแต่งกายของนักเต้นทั้งสามก็เต็มไปด้วยความงามของงานจิตรกรรมย่อส่วนที่จำลองท่วงท่าที่พร้อมเพรียง และอีกด้านของหน้าปัดตัวเรือน นักบัลเลต์ในชุดกระโปรงตูตูสีแดงสด กำลังก้าวตามจังหวะการนำของคู่เต้นไปบนเวทีสามมิติที่ปูพื้นด้วยแผ่นพลอยน้ำสมุทรลาพิซ ลาซูลิ ซึ่งก็คือแถบอัญมณีสีน้ำเงินเข้มต่างขนาดไล่ระดับเพื่อเน้นให้เห็นถึงมิติภาพความลึกเชิงรายละเอียดบนผืนหน้าปัด

เจาะลึกรายละเอียดงานสร้างสรรค์ลวดลายสามมิติบนหน้าปัดนาฬิกา Lady Danse และ Lady Danse Duo

อาจกล่าวได้ว่างานฝังแผ่นวัสดุเดินลวดลายสามมิติของ Van Cleef & Arpels เป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะหัตถศิลป์ชั้นสูงของช่างฝีมือผู้ชำนาญ โดยองค์ประกอบส่วนต่างๆ อาทิ หินไข่นกการเวก, พลอยน้ำสมุทร, โมราสีเขียว และมุก จะถูกตัดเจียนด้วยมือทีละชิ้นๆ ก่อนนำไปเจียระไนและขัดผิวให้หมดจดเกลี้ยงเกลาจนขึ้นเงาทอประกายอย่างงดงาม
ทั้งนี้ ช่างเจียระไนของ Van Cleef & Arpels ต้องใช้เทคนิคพิเศษเฉพาะกับแต่ละวัสดุเพื่อให้ได้แผ่นโมทิฟที่มีความหนาและน้ำหนักรูปทรงตามกำหนด จากนั้นจึงนำมาประกอบขึ้นชิ้นงานเข้าด้วยกัน ทั้งแบบประกบชิดขอบข้างและแบบเว้นระยะห่างหรือช่องไฟเพียงเล็กน้อยเพื่อก่อมิติความลึกขึ้นภายในตัวเรือน นับเป็นความซับซ้อนเชิงเทคนิคที่ต้องใช้ความชำนาญเป็นอย่างสูง เพราะแผ่นวัสดุปูพื้นหน้าปัดนี้ ยังต้องรองรับงานประติมากรรมตัวเรือนทองคำ งานฝังอัญมณี และจิตรกรรมย่อส่วน เพื่อมอบบรรยากาศการเคลื่อนไหวของพลังชีวิตอยู่ท่ามกลางโรงละครสามมิติ

Dance Reflections by Van Cleef & Arpels

โลกแห่งนาฏกรรมศิลปะระบำปลายเท้าไม่เพียงแค่จะส่งต่อแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เครื่องประดับอัญมณีให้กับ Van Cleef & Arpels เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการริเริ่มโครงการ Dance Reflections by Van Cleef & Arpels ซึ่งถือเป็นการจารึกบทใหม่ลงในหน้าประวัติศาสตร์ความผูกพันระหว่างเมซงกับโลกแห่งนาฏกรรม จากการเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2020 โดยโปรแกรมการดำเนินงานของโครงการนี้ได้รับการออกแบบร่วมกับบรรดาศิลปินต่างแขนงระดับสากลเพื่อเป็นตัวแทนพันธกิจมุ่งมั่นของ Van Cleef & Arpels ในการให้ความสนับสนุนและส่งเสริมมรดกศิลปะทางการออกแบบท่าเต้น การมีส่วนร่วมในการพัฒนาผลงานร่วมสมัย และการสร้างความนิยมต่อศิลปะแขนงนี้ในหมู่ผู้รับชอบให้เป็นวงกว้างอย่างที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โครงการ Dance Reflections by Van Cleef & Arpels ประกอบไปด้วยการดำเนินงานอันโดดเด่นถึงสองส่วน สำหรับส่วนแรกก็คือ การให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มศิลปินและสถาบันต่างๆ ซึ่งทำงานสร้างสรรค์และร่วมกันสานต่อมรดกศิลป์ทางการละคร รวมถึงงานแสดงร่วมสมัย นอกจากนั้น Dance Reflections by Van Cleef & Arpels ยังเป็นผู้จัดแสดงผลงานการออกแบบท่าเต้นอันโด่งดังจากการระดมความหลากหลายในรูปแบบงานสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันก็ยังดำเนินกิจกรรมเสริมสร้างและยกระดับความตระหนักรู้ในประเด็นของวัฒนธรรมและศิลปะการเต้นให้เกิดขึ้นแก่กลุ่มบุคคลทุกเชื้อชาติ สาขาอาชีพ และแม้กระทั่งมือสมัครเล่น
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการ Dance Reflections by Van Cleef & Arpels สามารถคลิกเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ www.dancereflections-vancleefarpels.com

TAG

Related Stories

Personal Layered ธีมหลักของเสื้อผ้าและแฟชั่นไอเท็มในคอลเลกชั่น Spring/Summer 2024
พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้มากมาย ที่มาร่วมงานเปิดไฟต้นคริสต์มาส ณ ลาน พาร์ค พารากอน
เมื่อ Balenciaga city bag ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกระเป๋าที่มีทุกบ้านกำลังจะกลับมา
Van Cleef & Arpels : Time, Nature, Love พาชมความงามของเครื่องประดับชั้นสูงผ่านนิทรรศการที่ถักทอไว้ด้วยเรื่องราวแห่งเวลา ธรรมชาติ และรัก
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง

Most Viewed

สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
จิตวิญญาณของดินแดนอินโดจีนผ่านผู้คน ชุมชน อาหาร และโบราณสถานอันงดงาม ผ่านการเชื่อมโยงของสองรีสอร์ทหรู Amantaka หลวงพระบาง และ Amansara ในเสียมเรียบ
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
จิตวิญญาณของดินแดนอินโดจีนผ่านผู้คน ชุมชน อาหาร และโบราณสถานอันงดงาม ผ่านการเชื่อมโยงของสองรีสอร์ทหรู Amantaka หลวงพระบาง และ Amansara ในเสียมเรียบ

MORE FROM

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว