ร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา พร้อมร่วมอนุรักษ์และสนับสนุนงานหัตถศิลป์และหัตถกรรมจากชุมชนไทย 4 ภาค โดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ สมาคมแม่บ้านมหาดไทย จัดงาน “เทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022)” เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ผ้าไทยในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมพระปณิธานและพระกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด และเผยแพร่ความงดงามของหัตถศิลป์ไทย ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2565 บริเวณหน้าฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดยภายในงาน “เทศกาลไหมไทย 2565” จะแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ ได้แก่ โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงให้ความสำคัญและทุ่มเทพระวรกายในการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติอย่างผ้าไทย พระราชทานโครงการศิลปาชีพฯ ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนก่อเกิดประวัติศาสตร์การฟื้นฟู การทอผ้าไทยจนครบวาระ 50 ปี และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงสืบสาน ต่อยอด จนเกิดเป็นความยั่งยืนของหัตถศิลป์และหัตถกรรมไทยในปัจจุบัน รวมทั้งนิทรรศการหม่อนไหม และนิทรรศการผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค ที่ให้ได้เรียนรู้ความเป็นมาและขั้นตอนการทอผ้าไหม ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของชาติที่ตกทอดกันมาแต่โบราณ รวมทั้งผ้าไทย 4 ภาคที่มีความแตกต่างกันทั้งวัตถุดิบ เทคนิค และรูปแบบของผ้าไทยในแต่ละภูมิภาค จนกลายเป็นอัตลักษณ์ที่มีเสน่ห์อันโดดเด่นและเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก


ในส่วนของโซนที่สองก็คือ โซน OTOP Luxury โดยเป็นการออกบูทร้านค้าจากทั้ง 4 ภาค คือ เหนือ กลาง อีสาน ใต้ จำนวน 100 บูท อาทิ กลุ่มผู้ประกวดผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ, ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา, ร้านค้าของศิลปินแห่งชาติ และศิลปิน OTOP ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย สำหรับโซนสุดท้ายก็คือ โซนลานคำหอม (จำลอง) และการแสดง 4 ภาคอันตระการตาที่หาชมได้ยาก ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนทุกวัน เช่น ฟ้อนหางนกยูง, ตารีกีปัสออกยอเก็ต, เซิ้งกะโป๋, ระบำวรเชษฐ, ฟ้อนเล็บราชสำนักล้านนา, รำมโนราห์ และฟ้อนผางประทีปศรีนครพิงค์ เป็นต้น


มาถึงไฮไลต์ที่ห้ามพลาดในงานนี้กับการจัดโชว์ผลงานการออกแบบชุดดีไซน์ทันสมัยจาก 10 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง ได้แก่ SIRIVANNAVARI Couture, KAI, TIRAPAN, PICHITA, PISIT, THEATRE, ASAVA, ISSUE, VATIT ITTHI และ WISHARAWISH รังสรรค์ผลงานสุดประณีตที่ได้แรงบันดาลใจจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยนำผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค มาตัดเย็บเป็นชุดที่มีดีไซน์ทันสมัย อาทิ ผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมยกดอก ผ้าปักชาวเขา ผ้าไหมหางกระรอก ผ้าบาติก ผ้าฝ้ายย้อมคราม ผ้าขาวม้า ผ้าหางกระรอก สะท้อนมุมมองของผ้าไทยในอีกมิติหนึ่งและเห็นถึงศักยภาพของการพัฒนาลายผ้าทอให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทยไว้อย่างสมบูรณ์












สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ พร้อมร่วมสนับสนุน อนุรักษ์ผ้าไทย และงานหัตถศิลป์ไทยได้ในงาน Thai Silk Festival 2022 ระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2565 บริเวณหน้าเพลนารีฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
















