ย้อนรอยประวัติ Raf Simons ดีไซเนอร์ผู้โค่นไม่ล้ม

ไม่มีใครทำได้เยี่ยงชายคนนี้
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีข่าวลือหนาหูทั่ววงการแฟชั่นว่าดีไซเนอร์ชาวเบลเยี่ยมอย่าง Raf Simons จะเข้าไปร่วมงานกับเครือ Prada ซึ่งถือเป็นข่าวดีของวงการแฟชั่น ดีไซเนอร์ผู้ฉกาจคนนี้เคยผลิกโฉมให้กับสไตล์มินิมอลเมื่อสมัยที่เขาทำอยู่ Jil Sander ขึ้นแท่นเป็นครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ให้กับแฟชั่นเฮ้าส์ชื่อดังจากฝรั่งเศสอย่าง Dior ไปจนถึงการ สร้างคาแร็กเตอร์อันโดดเด่นให้กับ CALVIN KLEIN 205W39NYC บาซาร์จึงได้รวบรวมประวัติอันน่าทึ่งของดีไซเนอร์คนนี้มาให้ชาวบาซาร์ได้รู้จักกับเขามากยิ่งขึ้น
Raf Simons (ราฟ ซิมงส์) เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม ปี 1968 ในเมืองเล็กๆ Neerpelt ณ ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเขาได้เริ่มมีแววมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนและจบการศึกษาด้านการออกแบบอุตสาหกรรมและการออกแบบเฟอร์นิเจอร์จากมหาวิทยาลัย Genk นั่นจึงทำให้ได้มีโอกาสฝึกงานกับดีไซเนอร์ชื่อดังสัญชาติเบลเยี่ยมอย่าง Walter Van Beirendonck ในฐานะผู้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์
การฝึกงานครั้งนี้ได้สร้างจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตของ Raf Simons ไปตลอดกาล เพราะเขาได้มีโอกาสได้ชมแฟชั่นโชว์ครั้งแรกโดยดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกอย่าง Martin Margiela กับคอลเลกชั่น Spring 1990 ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์หลังจากจบโชว์ว่า “ในฐานะที่ผมเป็นแค่นักเรียน ผมคิดมาเสมอว่าแฟชั่นนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องผิวเผิน แค่หรูหราและสวยงาม แต่โชว์ครั้งนี้ได้เปลี่ยนแนวคิดทุกอย่างโดยสิ้นเชิง ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำมาตลอด โชว์ครั้งนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากจะเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์” และนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาผันตัวมาอยู่ในวงการแฟชั่น
Raf Simons ได้เริ่มก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายขึ้นเมื่อปี 1995 และได้จัดแฟชั่นโชว์ครั้งแรกใน Paris Fashion Week 1997 ณ Impasse de Mont-Louis แต่จุดที่สร้างกระแสให้กับแบรนด์ Raf Simons ก็คือการที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร V โดยได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนในวงการอย่างสไตลิสต์ Olivier Rizzo และช่างภาพ Willy Vanderperre
หลังจากโลดแล่นในวงการแฟชั่นมานานนับ 10 ปี ราฟก็ได้พบกับจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้งเมื่อเขาได้ขึ้นแท่นเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ให้กับแบรนด์ Jil Sander ซึ่งคอลเลกชั่น Fall 2006 เป็นการเผยโฉมเสื้อผ้าผู้หญิงที่รังสรรค์โดยฝีมือเขาครั้งแรก ด้วยการนำเสนอเสื้อผ้าที่เน้นโครงสร้างมากกว่าดีเทล เขาจึงได้ครองใจสาวกมินิมอลในยุคนั้น
จนกระทั่งปี 2012 ราฟก็ได้ขึ้นมาคุมบังเหียนของแฟชั่นเฮ้าส์เก่าแก่จากฝรั่งเศสอย่าง Dior ในตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ ซึ่งคอลเลกชั่น Haute Couture Fall 2012 ที่มี 54 ลุคนั้นได้สานต่อเจตนารมณ์ของมองซิเออร์ Christian Dior อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการนำโครงสร้างและซิลลูเอตของผลงานก่อนๆ มาผนวกเข้ากับสไตล์มินิมอล ที่เน้นดีเทลอันละเอียดอ่อนและสีสัน ซึ่งแตกต่างจากยุค John Galliano โดยสิ้นเชิง
การเปลี่ยนตำแหน่งของเขาไม่ได้หยุดอยู่เท่านั้น เพราะดีไซเนอร์คนเก่งคนนี้ได้ก้าวสู่ตำแหน่งใหญ่ Chief Creative Officer (ประธานบริหารฝ่ายสร้างสรรค์) แห่งแบรนด์ Calvin Klein เมื่อปี 2017 ซึ่งได้สร้างคาแร็กเตอร์อันโดดเด่นให้กับแบรนด์ด้วยการเปิดตัวไลน์เสื้อผ้าแยกภายใต้ชื่อ CALVIN KLEIN 205W39NYC นอกจากนั้นยังได้ทำปรากฏการณ์โดยการนำครอบครัว Kardashian – Jenner เกือบทั้งครอบครัว, Bella Hadid, Justin Bieber, Shawn Mendes และคนดังอีกมากมายมาร่วมถ่ายแคมเปญชุดชั้นในอีกด้วย
จึงไม่แปลกใจที่ Raf Simons ได้กวาดรางวัลใหญ่จาก CFDA Fashion Awards 2017 ทั้งในสาขา Menswear Designer of the Year และ Womenswear Designer of the Year แต่เบื้องหลังการทำงานที่ Calvin Klein ของเขาก็ไม่ได้สวยหรูอย่างภาพที่ออกมา เพราะแบรนด์กลับขาดทุนย่อยยับและคาดว่ามาจาก CALVIN KLEIN 205W39NYC ขายไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ หนำซ้ำการเปลี่ยนทิศทางของดีไซน์นั้นส่งผลให้เข้าถึงกลุ่มคนธรรมดาได้ยาก จึงทำให้เขาต้องยอมสละตำแหน่งไป
แต่ท้ายที่สุดดีไซเนอร์ผู้นี้ก็ได้กลับมายืนหยัดอีกครั้ง เพราะได้คอนเฟิร์มว่าจะร่วมกับแบรนด์ Prada ในฐานะ Co-Creative Director เคียงคู่ Miuccia Prada ซึ่งจะเริ่มงานตั้งแต่เดือนเมษายน และประเดิมคอลเลกชั่นแรกด้วย Spring/Summer 2021ในเดือนกันยายนนี้ ติดตามชมได้เลยว่า Prada ภายใต้การสร้างสรรค์ของราฟนั้นจะออกมาเป็นอย่างไร

TAG

Related Stories

Van Cleef & Arpels : Time, Nature, Love พาชมความงามของเครื่องประดับชั้นสูงผ่านนิทรรศการที่ถักทอไว้ด้วยเรื่องราวแห่งเวลา ธรรมชาติ และรัก
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
ปีใหม่นี้เตรียมฟังอัลบั้มเต็มชุดใหม่จากผู้ชายคนนี้ได้เลย
กระเป๋าจากวัสดุเดนิม ที่ผสมผสานความคลาสสิคเข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
เดินทางสำรวจการสร้างสรรค์ผลงานของ Hermès กับงานฝีมือสุดประณีตที่ได้ถ่ายทอดผ่านเรื่องราวอันยาวนาน
สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งของ LUXURY DESTINATION
และถ้าถามว่าซอฟต์เพาเวอร์ของไทยคืออะไร คำตอบว่า Lisa ก็คงไม่ผิดเช่นกัน

Most Viewed

สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการทรงคุณค่า ประวัติศาสตร์ขององค์กรหกแผ่นดินยึดมั่นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อประชาสังคม
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการทรงคุณค่า ประวัติศาสตร์ขององค์กรหกแผ่นดินยึดมั่นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อประชาสังคม

MORE FROM

Van Cleef & Arpels : Time, Nature, Love พาชมความงามของเครื่องประดับชั้นสูงผ่านนิทรรศการที่ถักทอไว้ด้วยเรื่องราวแห่งเวลา ธรรมชาติ และรัก
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว