ในวันสุดท้าย(อันชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝนตลอดทั้งวัน)ของปารีสแฟชั่นวีคที่อัดแน่นไปด้วยโชว์สำคัญๆ เริ่มตั้ง CHANEL ในช่วงเช้าจนถึง Louis Vuitton ในช่วงค่ำ ท้องฟ้ากรุงปารีสเปิดอีกครั้ง ไร้เมฆฝนในช่วงสั้นๆยามบ่ายเหมือนปารีสจะรู้เห็นเป็นใจว่าโชว์ MIU MIU นั้นต้องการความสดใสแบบ girl at heart (ตามสโลแกนของแบรนด์) ก่อนที่โชว์จะเริ่มต้นขึ้น ณ Palais d’Iena สถานที่จัดแสดงแฟชั่นโชว์ประจำของแบรนด์หลังจากที่ต้องห่างหายไปนานกว่า 18 เดือน

สิ่งของที่เราพบเห็นอยู่แล้วในชีวิตประจำวันคือสิ่งที่ Miuccia Prada ครีเอทีฟไดเรคเตอร์แห่งแบรนด์ MIU MIU ใช้เป็นแรงบันดาลใจหลักในคอลเลคชั่นล่าสุด ฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2022
“ฉันต้องการเพิ่มพลังและคุณค่าให้แก่ของที่โดยทั่วไปแล้วเรามักจะมองข้าม นี่คือเวลาที่เราจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว แทนที่จะพยายามประดิษฐ์อะไรใหม่ๆอีกครั้ง เราอยากที่จะเฉลิมฉลองและยกระดับเหล่าเสื้อผ้าต้นแบบที่แสนจะธรรมดา”
จากคำกล่าวข้างต้นของ Miuccia Prada เราคงพอจะเห็นภาพว่าทำไมคอลเลกชั่นนี้จึงมีชื่อเรียกว่า BASIC INSTINCTS นี่คือการกลับมามองโลกแห่งความเป็นจริง สภาพเศรษฐกิจ ส่งผลมาเป็นวิธีการคิดงานในคอลเลกชั่น เราจึงได้เห็นความพยายามมองหามุมมองใหม่ๆจากเสื้อผ้าที่เรามีและคุ้นเคยอยู่แล้ว ทรงเสื้อผ้าในแบบที่ทุกคนต่างรู้จัก และมาดูว่าเราจะทำอะไรกับมันได้บ้าง ใจความหลักคือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นจากสิ่งเดิม นี่เป็นแนวคิดที่น่าสนใจและชาญฉลาด ที่มักจะคิดทวนไอเดียกระแสหลักแบบที่ดูเป็นสาวรัฐศาสตร์อย่าง Miuccia Prada มากที่สุด และนี่เองคือสิ่งที่ทำให้เธอและผลงานของเธอแตกต่างจากคู่แข่งและยืนโดดเด่นในโลกของแฟชั่นมาได้โดยตลอด

โครงสร้างของเสื้อผ้าทั้งหมดในคอลเลกชั่นล้วนมาจากเสื้อผ้าที่คลาสสิค เช่นกางเกงกระบอกตรง เสื้อสเวตเตอร์ เสื้อเชิร์ต เบลเซอร์ เสื้อสูท เดรสแขนกุด และมาในสีที่เบสิคเช่นสีเบจ เทา กากี กรมท่า ฟ้า แต่ทุกอย่างถูกหั่นออกทั้งหมดจนสั้นกุดอย่างไม่ลังเล คงเหลือให้เราเพียงมองออกว่าชิ้นนั้นเคยเป็นอะไรมาก่อน แต่ไม่ใช่สิ่งเดิมแบบที่มันเคยเป็นอีกต่อไปแล้ว

โดยจังหวะการตัดล้วนสัมพันธ์กับการวางโครงสร้างสัดส่วนใหม่บนรูปร่างของนางแบบ ทำให้เราเห็นกางเกงทรงจีบหน้าสองจีบกลายเป็นกะโปรงสั้นแบบที่ไม่ใช่มินิสเกิร์ต แต่ต้องเรียกว่าไมโครสเกิร์ตถึงจะถูกต้อง เพราะสั้นแบบชนิดที่สุด และขอรับรองว่าท่านไม่ได้เห็นกระโปรงแบบนี้ที่ไหนแน่นอน นอกจากบนโชว์ที่ผ่านการคิดมาอย่างซับซ้อนของ MIU MIU

ชุดเสื้อเสวตเตอร์สีเขียวที่ผ่าหลัง เผยให้เห็นรูปร่าง ใส่เข้ากับกระโปรงผ้านิตเนื้อเดียวกันที่ก็แหวกสูงขึ้นมา เป็นการปรับมุมมองที่เราเคยเห็นว่าสเวตเตอร์ต้องปกปิดและห่อหุ้มร่างกายให้มิดชิดเพียงอย่างเดียว นับเป็นอีกชิ้นงานที่โดดเด่นของคอลเลกชั่นนี้

ขอบผ้าแทบทุกชิ้นงานถูกปล่อยไว้ให้เห็นรอยตัดแบบจงใจ ไม่ใช่ให้จงใจเห็นว่าไม่เสร็จ แต่จงใจให้เห็นความตั้งใจของการเปลี่ยนผ่านจากสิ่งหนึ่งสู่สิ่งหนึ่งแบบที่คิดมาอย่างดีแล้ว และไม่เคอะเขินที่จะทำอย่างกล้าๆกลัวๆ ผู้สวมใส่เองก็จะรู้สึกมั่นใจได้ว่าแม้จะสวมเสื้อที่ไม่เย็บชายผ้า แม้อาจจะถูกมองอย่างแปลกๆ(บ้าง) หรือเกิดบทสนทนาซักถามเชิงสงสัยจากผู้ที่พบเห็น(อย่างแน่นอน) แต่ความรู้สึกภายในของคนสวมใส่และคำตอบที่เราจะให้กับคนเหล่านั้นก็จะเต็มไปด้วยความมั่นใจและมุมมองที่ดูแยบคายต่อแนวคิดที่เป็นเหตุผลเบื้องหลังของการสร้างสรรค์เสื้อผ้าชิ้นดังกล่าว(พูดแล้วก็อยากจะซื้อมาสวมใส่ไปให้เพื่อนๆตั้งคำถาม และสงสัยกับชายเสื้อใหม่ของเรา ตอนที่เราใส่ไปกินบรั๊นช์ที่โรงแรมตอนสุดสัปดาห์ช่วงสปริงหน้าแล้วและพร้อมตอบไปเบาๆว่า it’s MIU MIU darling)

ชิ้นงานปักแบบสาวหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ก็ไม่ได้หายไปไหนในซีซั่นนี้ นอกจากการดัดแปลงชุดกลางวันสุดเบสิคแล้ว ชุดกลางคืนก็ถูกคิดต่อเช่นเดียวกัน งานนี้ชุดเดรสกลางคืนปักลายดอกไม้ที่ละเอียดออ่อนในทรงคลาสสิค เช่นชุดสายเดี่ยวผ้าไหมสีเขียวเป็นตัวอย่างที่ดีมากของแนวคิดในพาร์ทชุดกลางคืน ที่ถูกนำมาหาความหมายที่แท้จริงของชุดกลางคืนว่าเราต้องการใช้งานมันจริงๆเพื่อวัตถุประสงค์ใด ความหรูหราและความหวานเป็นสิ่งที่ชุดราตรียังคงต้องมี แต่ความคล่องตัวก็ต้องมีเช่นเดียวกัน เราจึงเห็นการตัดริมเดรสให้อยู่ในสัดส่วนที่เดินได้อย่างสบาย แต่ก็ยังสุภาพสำหรับงานที่เป็นทางการที่ต้องใส่ชุดยาว


การปรับเปลี่ยนพลิกแพลงไม่ได้อยู่แค่ในแบรนด์เพียงเท่านั้น อีกเซอร์ไพรท์ที่เราเห็นจากโชว์คือ การร่วมคอแลบกับแบรนด์รองเท้า New Balance ที่มีรองเท้ารุ่นคลาสสิค the 574 sneaker ที่งานนี้มิวเซียหยิบคู่นี้มาดัดแปลงใหม่ให้เป็นแบบไม่เย็บขอบ ตามคอนเซ็ปท์ที่ชัดเจนของคอลเลคชั่น มาในสี ขาว กากี สีบลูยีนส์ ซึ่งแค่เห็นในโชว์เราก็รู้แล้วว่านี่จะเป็นไอเท็มติดตู้คู่ใหม่ ของสาวเก๋ทั่วทุกมุมโลกในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน

คอลเลกชั่นนี้ของ MIU MIU คือสิ่งที่สะท้อนความฉลาดและเป็นการเป็นนักออกแบบที่เก่งกาจที่สุดคนนึงในยุคปัจจุบันของ Miuccia Prada ที่เราจะยังได้เห็นความเป็นตัวตนของเธออยู่อย่างเด่นชัด(ในแบบ PRADA ยุคก่อน Raf Simons)ได้ในงานที่เธอออกแบบให้กับ MIU MIU เรียกได้ว่าตั้งแต่ลุคแรกยันลุคสุดท้ายเราดูโชว์ไปพร้อมกับความอิ่มเอมใจ และชื่นใจในจิตวิญญาณแบบ Miuccia Prada ที่ชัดเจน ท้าทาย ขบถ และสวยงาม ไม่ว่าจะมาในลุคนักเรียนประจำที่ประท้วงครูปกครองจนตัดชุดเสียสั้นกุด หรือชุดแจ็คเก็ตผ้าไหมปักเลื่อมแบบคุณนายภริยาทูต เรากล้าพูดว่านี่คือหนึ่งในคอลเลกชั่นที่ดีที่สุดของ Miuccia Prada ที่ MIU MIU

“ฉันต้องการเพิ่มพลังและคุณค่าให้แก่ของที่โดยทั่วไปแล้วเรามักจะมองข้าม นี่คือเวลาที่เราจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว แทนที่จะพยายามประดิษฐ์อะไรใหม่ๆอีกครั้ง เราอยากที่จะเฉลิมฉลองและยกระดับเหล่าเสื้อผ้าต้นแบบที่แสนจะธรรมดา”








