ยอมรับว่าตกใจเมื่อเราได้รับการ์ดเชิญที่มาพร้อมกล่องใส่แหวนสีดำจาก Sportmax แต่สิ่งที่อยู่ด้านในกลับไม่ใช่แหวน มันคือเม็ดยาแคปซูลสีฟ้า-ขาว คล้ายๆ ยากระตุ้นประสาทบางอย่าง นี่มันจะต้องมีอะไรเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นที่ Sportmax SS2023 อย่างแน่นอน
และก็ไม่เกินจริงกว่าที่คิด ซีซั่นนี้ Sportmax กำลังพาสาวๆ ก้าวข้ามกรอบไอเดียชีวิตแบบเดิมๆ ไปสู่โลกจินตนาการเหนือจริงแบบสุดแต่ใจและสมองจะหลอนตามไปได้! ทั้งนี้ แบรนด์ได้หยิบเอางานทดลองครั้งเก่าปี 1929 โดยนักจิตวิทยาชาวเยอรมัน Wolfgang Köhler ซึ่งการทดลองครั้งแรกนั้นได้เกิดขึ้นบนเกาะเตเนริเฟ โดยผู้เข้าร่วมถูกขอให้ระบุรูปทรงนามธรรมที่เรียกว่า “takete” และรูปแบบใดที่เรียกว่า “baluba” โดยผลออกมาว่าคำหลังมักเกี่ยวข้องกับขอบที่โค้งมน ส่วนอีกอันดูจะเกี่ยวข้องกับความหยัก จากการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างรูปร่างและประสาทสัมผัส เช่น รสชาติ ตลอดจนวิธีรับรู้รูปร่างหน้าตาของมนุษย์ บนพื้นฐานของการสังเคราะห์ การตอบสนองตามสัญชาตญาณ และอิสระต่อสิ่งเร้าทางประสาทสัมผัส ผ่านรูปร่าง สี พื้นผิว การเคลื่อนไหว และเสียง คอลเลกชั่นนี้ของ Sportmax จึงเปรียบได้กับการสร้างการทดลองของตัวเองในรูปแบบของการจัดวางองค์ประกอบใหม่และการคิดค้นความสมดุลของตัวเอง โดยอยู่เหนือขอบเขตและกฎเกณฑ์คำอธิบายเชิงตรรกะใดๆ
คอลเลกชั่นนี้ยังใช้สัญชาตญาณ เงา สี พื้นผิว การเคลื่อนไหว และเสียงในชีวิตประจำวัน ซึ่งถูกตีความผ่านมุมมองของผู้ใหญ่ แต่ในขณะเดียวกัน การออกแบบก็ถูกกรองผ่านความไร้เดียงสาและความสนุกสนานในความมหัศจรรย์จากจินตนาการของเด็ก รวมถึงปรากฏการณ์บูบา/กิกี (Bouba/Kiki) ที่เป็นการจับคู่ระหว่างเสียงพูดกับรูปร่างของวัตถุแบบไม่ตั้งใจ เหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างสิ่งที่เหนือธรรมชาติเข้ากับสิ่งที่เราคุ้นเคยกันดี และเป็นการเฉลิมฉลองการขับเคลื่อนความคิดทางแฟชั่นและความคิดสร้างสรรค์ที่เฉียบแหลมและแนวคิดของ CAMP
ด้วยสไตล์ที่สวยงามและความรู้สึกที่อ้างอิงจากการประชดประชันและการต่อต้านของบรรทัดฐานทางสังคม รูปทรงเรขาคณิตผสมผสานกับรูปทรงธรรมชาติสไตล์ง่ายๆ สบาย ๆ ตัดกับความเกินจริงและความอู้ฟู่ ซึ่งความแตกต่างของทั้งสองสิ่งนี้ทำให้เกิดลุคมินิมัลขึ้น และกลายเป็นเหมือนผิวหนังชั้นที่ 2 ลวดลายที่ปิดบังร่างกายด้วยพลังแห่งการสะกดจิตและสีเรืองแสง สลับกับกระโปรงเทคโนสไตล์กูตูร์ที่ดีไซน์ให้ดูพองขึ้นซึ่งเข้ากันได้ดีกับเสื้อครอปแบบสั้น หรือจะเป็นการตีความใหม่ในแบบกบฎภายใต้หน้ากากของชุดราตรี ด้วยแขนเสื้อและชายเสื้อที่ยาวเป็นพิเศษ เลียนแบบพรมแดงแห่งศตวรรษที่ 21 ด้วยโทนสีสดใสสลับกับสีพาสเทล สีเข้ม และแทรกด้วยสีขาวออปติคัลและสีดำล้วน
ส่วนลายพิมพ์ในซีซั่นนี้สะท้อนถึงธีมหลอนประสาทผ่านลวดลายที่ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและพื้นผิวเอฟเฟกต์พิเศษต่างๆ แอ็กเซสเซอรีประกอบด้วยรองเท้าส้นสูง รองเท้าบู๊ตหนัง ภายใต้รูปทรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคต่างๆ และถูกประกอบกลับเข้าไปใหม่ โดยทำให้การแต่งกายในอดีตเป็นแบบโพลาไรซ์ทั้งทรงเอไลน์, ไหล่แคบ, เอวต่ำ และซิลูเอตขนาดใหญ่จากทศวรรษ 1950 ตัดกับสไตล์ยุคอวกาศแห่งอนาคตของยุค 60 และสไตล์ที่ต่อต้านวัฒนธรรมของยุค 90 ซึ่งประกอบด้วยคำแนะนำทั้งแนวไซเบอร์พังค์ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและความลี้ลับ คอลเลกชั่นนี้จึงแปรเปลี่ยนเป็นการทดลองที่ไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งเป็นการทดลองที่แกว่งไปมาระหว่างจักรวาลของ Sugarpunk, Psycho-chic และ Techno-couture โดยอิทธิพลเหล่านี้ผสมผสานกันเกิดเป็นความขัดแย้งที่เข้ากันได้ดีอย่างน่าทึ่ง
เพราะ Sportmax ไม่เคยหยุดที่จะแสวงหาความสุดโต่งอย่างต่อเนื่อง


และก็ไม่เกินจริงกว่าที่คิด ซีซั่นนี้ Sportmax กำลังพาสาวๆ ก้าวข้ามกรอบไอเดียชีวิตแบบเดิมๆ ไปสู่โลกจินตนาการเหนือจริงแบบสุดแต่ใจและสมองจะหลอนตามไปได้! ทั้งนี้ แบรนด์ได้หยิบเอางานทดลองครั้งเก่าปี 1929 โดยนักจิตวิทยาชาวเยอรมัน Wolfgang Köhler ซึ่งการทดลองครั้งแรกนั้นได้เกิดขึ้นบนเกาะเตเนริเฟ โดยผู้เข้าร่วมถูกขอให้ระบุรูปทรงนามธรรมที่เรียกว่า “takete” และรูปแบบใดที่เรียกว่า “baluba” โดยผลออกมาว่าคำหลังมักเกี่ยวข้องกับขอบที่โค้งมน ส่วนอีกอันดูจะเกี่ยวข้องกับความหยัก จากการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างรูปร่างและประสาทสัมผัส เช่น รสชาติ ตลอดจนวิธีรับรู้รูปร่างหน้าตาของมนุษย์ บนพื้นฐานของการสังเคราะห์ การตอบสนองตามสัญชาตญาณ และอิสระต่อสิ่งเร้าทางประสาทสัมผัส ผ่านรูปร่าง สี พื้นผิว การเคลื่อนไหว และเสียง คอลเลกชั่นนี้ของ Sportmax จึงเปรียบได้กับการสร้างการทดลองของตัวเองในรูปแบบของการจัดวางองค์ประกอบใหม่และการคิดค้นความสมดุลของตัวเอง โดยอยู่เหนือขอบเขตและกฎเกณฑ์คำอธิบายเชิงตรรกะใดๆ
คอลเลกชั่นนี้ยังใช้สัญชาตญาณ เงา สี พื้นผิว การเคลื่อนไหว และเสียงในชีวิตประจำวัน ซึ่งถูกตีความผ่านมุมมองของผู้ใหญ่ แต่ในขณะเดียวกัน การออกแบบก็ถูกกรองผ่านความไร้เดียงสาและความสนุกสนานในความมหัศจรรย์จากจินตนาการของเด็ก รวมถึงปรากฏการณ์บูบา/กิกี (Bouba/Kiki) ที่เป็นการจับคู่ระหว่างเสียงพูดกับรูปร่างของวัตถุแบบไม่ตั้งใจ เหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างสิ่งที่เหนือธรรมชาติเข้ากับสิ่งที่เราคุ้นเคยกันดี และเป็นการเฉลิมฉลองการขับเคลื่อนความคิดทางแฟชั่นและความคิดสร้างสรรค์ที่เฉียบแหลมและแนวคิดของ CAMP
ด้วยสไตล์ที่สวยงามและความรู้สึกที่อ้างอิงจากการประชดประชันและการต่อต้านของบรรทัดฐานทางสังคม รูปทรงเรขาคณิตผสมผสานกับรูปทรงธรรมชาติสไตล์ง่ายๆ สบาย ๆ ตัดกับความเกินจริงและความอู้ฟู่ ซึ่งความแตกต่างของทั้งสองสิ่งนี้ทำให้เกิดลุคมินิมัลขึ้น และกลายเป็นเหมือนผิวหนังชั้นที่ 2 ลวดลายที่ปิดบังร่างกายด้วยพลังแห่งการสะกดจิตและสีเรืองแสง สลับกับกระโปรงเทคโนสไตล์กูตูร์ที่ดีไซน์ให้ดูพองขึ้นซึ่งเข้ากันได้ดีกับเสื้อครอปแบบสั้น หรือจะเป็นการตีความใหม่ในแบบกบฎภายใต้หน้ากากของชุดราตรี ด้วยแขนเสื้อและชายเสื้อที่ยาวเป็นพิเศษ เลียนแบบพรมแดงแห่งศตวรรษที่ 21 ด้วยโทนสีสดใสสลับกับสีพาสเทล สีเข้ม และแทรกด้วยสีขาวออปติคัลและสีดำล้วน
ส่วนลายพิมพ์ในซีซั่นนี้สะท้อนถึงธีมหลอนประสาทผ่านลวดลายที่ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและพื้นผิวเอฟเฟกต์พิเศษต่างๆ แอ็กเซสเซอรีประกอบด้วยรองเท้าส้นสูง รองเท้าบู๊ตหนัง ภายใต้รูปทรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคต่างๆ และถูกประกอบกลับเข้าไปใหม่ โดยทำให้การแต่งกายในอดีตเป็นแบบโพลาไรซ์ทั้งทรงเอไลน์, ไหล่แคบ, เอวต่ำ และซิลูเอตขนาดใหญ่จากทศวรรษ 1950 ตัดกับสไตล์ยุคอวกาศแห่งอนาคตของยุค 60 และสไตล์ที่ต่อต้านวัฒนธรรมของยุค 90 ซึ่งประกอบด้วยคำแนะนำทั้งแนวไซเบอร์พังค์ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและความลี้ลับ คอลเลกชั่นนี้จึงแปรเปลี่ยนเป็นการทดลองที่ไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งเป็นการทดลองที่แกว่งไปมาระหว่างจักรวาลของ Sugarpunk, Psycho-chic และ Techno-couture โดยอิทธิพลเหล่านี้ผสมผสานกันเกิดเป็นความขัดแย้งที่เข้ากันได้ดีอย่างน่าทึ่ง
เพราะ Sportmax ไม่เคยหยุดที่จะแสวงหาความสุดโต่งอย่างต่อเนื่อง


