เดินทางมาถึงกรุงเทพแล้ว! ร้านสุดชิคจากปารีสอย่าง Maison Kitsuné อันเป็น hot spot ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าต้องไปเช็คอินกำลังจะเปิดสาขาใหม่ ณ กรุงเทพมหานคร บาซาร์จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของสองหนุ่มสองเชื้อชาติ Gildas Loaëc (จิลดาส์ โลแอ็ค) จากประเทศฝรั่งเศส และ Masaya Kuroki (มาซายะ คุโรกิ) จากประเทศญี่ปุ่น ที่รู้จักกันในร้านขายแผ่นเสียงเมื่อช่วงปี 1995 ซึ่ง จิลดาส์ ได้เป็นเจ้าของร้าน ส่วน มาซายะ คือลูกค้าประจำของร้าน พวกเขาคือผู้สร้างสรรค์ Maison Kitsuné แบรนด์ที่รวบรวมความเป็นไลฟ์สไตล์ระหว่างเสียงดนตรีกับแฟชั่นเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นไอเดียของแบรนด์ Kitsuné ขึ้นมา

Harper’s BAZAAR: ทำไมจึงเลือกมาเปิดสาขาที่กรุงเทพประเทศไทย?
Maison Kitsuné: พวกผมหลงรักกรุงเทพมากโดยเฉพาะพลังและความมีชีวิตชีวาที่ไม่มีวันหลับใหลของเมืองนี้ พวกเราเคยมาเยี่ยมเยียนประเทศไทยสำหรับ ‘Parisien Tour’ เมื่อปี 2015 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในกับคอลเลกชั่น Parisien กับพันธมิตรของเราที่ Siwilai ซึ่งตอนร้บพวกเราอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองมากครับ

HB: Maison Kitsuné Bangkok จะมีความพิเศษที่แตกต่างจากสาขาอื่นอย่างไรบ้าง?
MK: ขอเก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์นะครับ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสพร้อมๆ กันในวันเปิดตัวที่ 1 กันยายนนี้! โดยรวมแล้วด้านในของร้านจะเป็นการผสมผสานองค์ประกอบแบบไทยเข้ากับสไตล์ฝรั่งเศส-ญี่ปุ่นของเรา พวกเราใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อที่จะเนรมิตให้บูติคแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างกันออกไปในขณะที่ยังคงคอนเซ็ปต์ “ศิลปะแห่งการใช้ชีวิต” ของแบรนด์อยู่
HB: มีกลยุทธ์ใหม่ทางการตลาดเพื่อรองรับวีถีชีวิตแบบ ‘new normal’ อย่างไรบ้าง
MK: โชคดีที่พวกเรายังคงทำงานได้อย่างราบรื่นในช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้ ทางทีมงานได้มีการวางแผนที่จะเปิดตัวคอลเลกชั่นและแคปซูลคอลเลกชั่นซึ่งเราได้มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้านการสื่อสารกับลูกค้า พวกเราจะยังคงเดินหน้าต่ออย่างรอบคอบและทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์และลูกค้า HB: คุณมีมุมมองอย่าไรต่อวงการเพลง ไลฟ์สไตล์และคาเฟ่ในประเทศไทย
MK: พวกเราชื่นชอบในเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ และวัฒนธรรมไทยก็มีทั้งความจัดจ้าน ล้ำเลิศ และเฟื่องฟูในด้านวัฒนธรรมกาแฟ ซึ่งนั่นทำให้เราอยากรู้จักกับมันมากยิ่งขึ้นไปอีก ทางทีมเองก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ยก Café Kitsuné มาที่นี่เพื่อจะได้แชร์แพสชั่นและความหลงใหลในกาแฟให้กับชาวกรุงเทพ
HB: คุณมีแพลนที่จะร่วมงานกับศิลปินไทยบ้างไหม?
MK: ต้องมีแน่นอนครับ! พวกเรามักจะเฟ้นหาศิลปินที่น่าสนใจจากแต่ละประเทศที่เราเปิดบูติกและประเทศไทยก็มีศิลปินที่ผลงานโดดเด่นอยู่เยอะเลยครับ ต้องติดตามชมว่าจะเป็นใคร สำหรับแฟนตัวยงของ Maison Kitsuné เตรียมตัวไปเช็คอินกันได้แล้วในวันที่ 1 กันยายนนี้ ณ EmQuatier ชั้น G

Maison Kitsuné: พวกผมหลงรักกรุงเทพมากโดยเฉพาะพลังและความมีชีวิตชีวาที่ไม่มีวันหลับใหลของเมืองนี้ พวกเราเคยมาเยี่ยมเยียนประเทศไทยสำหรับ ‘Parisien Tour’ เมื่อปี 2015 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในกับคอลเลกชั่น Parisien กับพันธมิตรของเราที่ Siwilai ซึ่งตอนร้บพวกเราอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองมากครับ

MK: ขอเก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์นะครับ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสพร้อมๆ กันในวันเปิดตัวที่ 1 กันยายนนี้! โดยรวมแล้วด้านในของร้านจะเป็นการผสมผสานองค์ประกอบแบบไทยเข้ากับสไตล์ฝรั่งเศส-ญี่ปุ่นของเรา พวกเราใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อที่จะเนรมิตให้บูติคแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างกันออกไปในขณะที่ยังคงคอนเซ็ปต์ “ศิลปะแห่งการใช้ชีวิต” ของแบรนด์อยู่

MK: โชคดีที่พวกเรายังคงทำงานได้อย่างราบรื่นในช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้ ทางทีมงานได้มีการวางแผนที่จะเปิดตัวคอลเลกชั่นและแคปซูลคอลเลกชั่นซึ่งเราได้มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้านการสื่อสารกับลูกค้า พวกเราจะยังคงเดินหน้าต่ออย่างรอบคอบและทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์และลูกค้า HB: คุณมีมุมมองอย่าไรต่อวงการเพลง ไลฟ์สไตล์และคาเฟ่ในประเทศไทย
MK: พวกเราชื่นชอบในเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ และวัฒนธรรมไทยก็มีทั้งความจัดจ้าน ล้ำเลิศ และเฟื่องฟูในด้านวัฒนธรรมกาแฟ ซึ่งนั่นทำให้เราอยากรู้จักกับมันมากยิ่งขึ้นไปอีก ทางทีมเองก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ยก Café Kitsuné มาที่นี่เพื่อจะได้แชร์แพสชั่นและความหลงใหลในกาแฟให้กับชาวกรุงเทพ

MK: ต้องมีแน่นอนครับ! พวกเรามักจะเฟ้นหาศิลปินที่น่าสนใจจากแต่ละประเทศที่เราเปิดบูติกและประเทศไทยก็มีศิลปินที่ผลงานโดดเด่นอยู่เยอะเลยครับ ต้องติดตามชมว่าจะเป็นใคร สำหรับแฟนตัวยงของ Maison Kitsuné เตรียมตัวไปเช็คอินกันได้แล้วในวันที่ 1 กันยายนนี้ ณ EmQuatier ชั้น G