Louis Vuitton Exclusive Store ร้านแห่งแรกในเอเชียใต้ ณ ห้างไอคอนสยาม

โดยเป็นส่วนขยายเพิ่มเติมพิเศษจากร้านเดิม เพื่อตอบโจทย์การดูแลลูกค้าแบบยกระดับเฉพาะบุคคล โดยจะเปิดบริการผ่านการนัดหมายพิเศษล่วงหน้าเท่านั้น
พบกับประสบการเหนือระดับรูปแบบใหม่ ด้วยการเปิดส่วนขยายเพิ่มเติมของร้าน Louis Vuitton ณ ห้างไอคอนสยาม ที่แรกในเอเชียใต้ เพื่อตอบโจทย์การดูแลลูกค้าแบบยกระดับเฉพาะบุคคล ซึ่งจะเปิดบริการผ่านการนัดหมายพิเศษล่วงหน้าเท่านั้น โดยคอนเซ็ปต์ในการออกแบบร้านครั้งนี้ เป็นการรังสรรค์ผลงานร่วมกันของ หลุยส์ วิตตอง กับศิลปินไทยที่เคยร่วมงานกับทางแบรนด์มาแล้ว อย่าง ‘คุณมุก – เพลินจันทร์ วิญญรัตน์’ โดยผสมผสานอัตลักษณ์ของ หลุยส์ วิตตอง เข้ากับการตีความงามแบบตะวันออกของไทยในสายตาชาวตะวันตกผ่านสุนทรียอันงดงาม
โดยภายในร้านประกอบไปด้วยบริเวณห้องโถงต้อนรับ และซาลอนส่วนตัว 3 ห้องที่ตกแต่งด้วยไฮไลท์ของงานดีไซน์และสิ่งทออันประณีตหลากสีสัน 
ห้องโถงรับรองคือจุดแรกที่เปรียบเสมือนคำทักทายต้อนรับแขกคนสำคัญด้วยงานแสดงศิลปะชิ้นเด่น ฉากกั้นสิ่งทอลายทางสีน้ำเงินสลับโทนสีได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้นแบบลายทางของหลุยส์ วิตตองที่ใช้เพนท์ลงบนหีบเดินทางเป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1880 ซึ่งกลายมาเป็นลวดลายอัตลักษณ์ของเมซงในเวลาต่อมา ส่วนด้านบนเหนือขึ้นไปบริเวณเพดานจะพบกับชิ้นงาน ‘WOW’ – หรือ ‘ว่าว’ ซึ่งเป็นแผงงานไม้ไผ่ถักสานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคนิคโครงสร้างในการประดิษฐ์ว่าวจุฬา โดยชื่อผลงานมาจากคำภาษาไทยคือ ว่าว และสื่อถึงคำพ้องเสียงในตัวสะกดภาษาอังกฤษที่หมายถึงความตื่นเต้น ประทับใจ
ไพรเวทซาลอนห้องแรก ความโดดเด่นอยู่ที่ประตูบานเลื่อนที่ใช้เทคนิคของการสานไม้ไผ่ออกมาเป็นลวดลายของใบตอง สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นไทยในอดีตที่ใช้ใบตองอย่างแพร่หลาย เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนออกมาจะพบกับราวเสื้อผ้า ready-to-wear อยู่เบื้องหลัง ที่เตรียมสร้างความพิเศษให้กับแขกคนสำคัญที่แวะเวียนเข้ามาชม เช่นเดียวกันกับผนังฉากหลังของประตูบานเลื่อนที่ตกแต่งด้วยลวดลายถักแบบ macramé ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากลักษณะของ ‘อุบะ’ การร้อยดอกไม้ไว้สำหรับคล้องตกแต่งประตูของบ้านไทยดั้งเดิมเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือน
ไพรเวทซาลอนห้องที่สอง เป็นการผสานความสดใสของสีสันจากหินลาวาสีส้มที่ตัดกับชั้นเก็บของแบบแอนทีค ส่วนบริเวณเพดานด้านบนตกแต่งด้วยงานถักไนลอนที่จำลองรูปแบบงานสานจากไม้ไผ่ที่พบเห็นได้บนแนวกำแพงของบ้านไทย ดูอ่อนช้อยแต่ยังคงไว้ซึ่งความทันสมัย
ห้องสุดท้ายเป็นการรังสรรค์ผลงานผ่านจินตนาการที่ผสมผสานเรื่องราวระหว่างมหานครปารีสและกรุงเทพฯ โดยตีความออกมาเป็นรูปแบบของแผนที่สองเมืองที่อยู่ติดกัน ด้วยศิลปะผ้าทอหลากสีสัน โดยตั้งชื่อผลงานว่า ‘CDGDMKBKKORY’ เป็นการรวบรวมเอาชื่อของสนามบินทั้ง 4 แห่งของปารีสและกรุงเทพฯมาเรียงร้อยไว้ด้วยกัน อันได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล (CDG), ท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK),    ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK), และ ท่าอากาศยานปารีส ออร์คลีย์ (ORY)

TAG

Related Stories

Personal Layered ธีมหลักของเสื้อผ้าและแฟชั่นไอเท็มในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2024
พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้มากมาย ที่มาร่วมงานเปิดไฟต้นคริสต์มาส ณ ลาน พาร์ค พารากอน
เมื่อ Balenciaga city bag ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกระเป๋าที่มีทุกบ้านกำลังจะกลับมา
Van Cleef & Arpels : Time, Nature, Love พาชมความงามของเครื่องประดับชั้นสูงผ่านนิทรรศการที่ถักทอไว้ด้วยเรื่องราวแห่งเวลา ธรรมชาติ และรัก
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง

Most Viewed

สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
จิตวิญญาณของดินแดนอินโดจีนผ่านผู้คน ชุมชน อาหาร และโบราณสถานอันงดงาม ผ่านการเชื่อมโยงของสองรีสอร์ทหรู Amantaka หลวงพระบาง และ Amansara ในเสียมเรียบ
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
จิตวิญญาณของดินแดนอินโดจีนผ่านผู้คน ชุมชน อาหาร และโบราณสถานอันงดงาม ผ่านการเชื่อมโยงของสองรีสอร์ทหรู Amantaka หลวงพระบาง และ Amansara ในเสียมเรียบ

MORE FROM

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว