รวมประวัติและผลงานอันน่าทึ่งของ ‘เด็กแสบแห่งวงการแฟชั่น’ Jean Paul Gaultier

รู้จักกับผู้พลิกโฉมวงการแฟชั่น
นับตั้งแต่แฟชั่นนิสต้ารุ่นแม่มาจนถึงรุ่นลูก คงไม่มีใครไม่รู้จักดีไซเนอร์ในตำนานอย่าง Jean Paul Gaultier ผู้ซึ่งถูกขนานนามให้เป็น ‘Enfant Terrible’ เด็กแสบแห่งวงการแฟชั่น และในโชว์ Haute Couture Spring/Summer 2020 ครั้งนี้เขาได้ประกาศว่าจะเกษียณหลังจากการโลดแล่นอยู่ในวงการมานานนับ 50 ปี ซึ่งตลอดเวลานั้นเขาได้สร้างสรรค์ผลงานอันน่าอัศจรรย์มากมาย อย่าง เสื้อผ้าที่ให้กลิ่นอายของ เธียเตอร์คอสตูม อย่าง Cone Bra สุดไอคอนิกของ Madonna หรือจะเป็นการใช้รูปแบบของแฟชั่นโชว์ที่ผสมผสานความดรามาติกในลีลาการเดินของเหล่านางแบบ บาซาร์จึงขอพาย้อนเวลากลับเล่าถึงประวัติและผลงานอันน่าจดจำของดีไซเนอร์มือทองผู้นี้
Jean Paul Gaultier (ฌอง ปอล โกลติเยร์) เกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 1952 โดยเติบโตที่ชุมชน Arcueil ทางตอนใต้ของกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในวัยเด็กของดีไซเนอร์ผู้นี้นั้นได้หลงใหลการแสดงคาบาเรต์ อย่าง Folies Bergère และ Moulin Rouge (โรงละครชื่อดังของประเทศฝรั่งเศส) หลังจากที่ได้รับชมโชว์เหล่านั้น เขาก็ได้เริ่มตัดเย็บชุดให้ตุ๊กตา NaNa ที่เป็นนางแบบคนแรกของเขา เมื่อวัยเพียงแค่ 9 ขวบ
ซึ่งนั้นเป็นการจุดประกายให้ดีไซเนอร์ผู้นี้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งแฟชั่น โดยในปี 1970 Jean Paul Gaultier ได้เข้าฝึกงานที่แฟชั่นเฮ้าส์ชื่อดังอย่าง Pierre Cardin แต่ในปีถัดมาก็ย้ายไปเป็นตำแหน่งผู้ช่วยดีไซเนอร์ที่แบรนด์ Jean Patou และก็ได้กลับมาประจำที่ Pierre Cardin อีกครั้งในฐานะดีไซเนอร์ประจำสาขาฟิลิปปินส์
จนในปี 1976 Jean Paul Gaultier ได้ริเริ่มแบรนด์ของตัวเองที่ปารีสซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งโลกแฟชั่น โดยในช่วงแรกเขาได้ถูกขนานนามว่าเป็น “เด็กแสบแห่งวงการแฟชั่น” เพราะเนื่องจากเขาก็ผู้ริเริ่มไอเดียแหวกแนวมากมาย เช่น การผสมผสานของแนวพังค์ร็อคเข้าสู่เสื้อผ้า หรือการใช้ชุดชั้นในเป็นเป็นไอเท็มหลักของคอลเลกชั่น หรือแม้กระทั่งให้นายแบบใส่กระโปรง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความแปลกใหม่ที่โลกแฟชั่นยังไม่เคยพบเจอ
นอกจากนั้นดีไซเนอร์ผู้นี้ยังได้เพิ่มความโด่งดังของตัวเองด้วยการออกแบบ Cone Bra สุดไอคอนิคให้กับ Madonna ที่กลายเป็น talk of the town ครั้งใหญ่ของนักร้องดีว่าผู้นี้ นอกจากนั้นออกแบบคอสตูมให้กับภาพยนตร์ไซไฟเรื่อง The Fifth Element  ของผู้กำกับชาวฝรั่งเศสอย่าง Luc Besson ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กลายเป็นหนังสัญชาติฝรั่งเศสที่ทำเงินสูงเป็นอันดับต้นๆ
จนมาถึงในปัจจุบันดีไซเนอร์ผู้นี้ได้วางรากฐานอันแข็งแรงให้กับวงการแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นโชว์สุดอลังการ การขบถต่อกฎเกณฑ์ของแฟชั่น ที่ทั้งหมดนั้นได้กลางเป็นแรงบันดาลใจให้กับดีไซเนอร์ยุคใหม่อยากมากมาย อาทิ Jeremy Scott และ Riccardo Tisci ที่ได้รับอิทธิพลมาจากตำนานผู้นี้อย่างเต็มเปี่ยม
แต่ดูท่าว่าดีไซเนอร์ผู้พลิกโฉมวงการแฟชั่นคนนี้จะยังไม่หายไปไหนง่ายๆ เพราะเขาได้เผยว่ากำลังจะมี โปรเจ็กต์สุดเซอร์ไพรส์มาให้แฟนๆ ได้ร้องว้าวกัน แต่จะเป็นอะไรนั้น ไว้ทีมบาซาร์จะมาอัพเดตให้รู้กัน

TAG

Related Stories

Van Cleef & Arpels : Time, Nature, Love พาชมความงามของเครื่องประดับชั้นสูงผ่านนิทรรศการที่ถักทอไว้ด้วยเรื่องราวแห่งเวลา ธรรมชาติ และรัก
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
ปีใหม่นี้เตรียมฟังอัลบั้มเต็มชุดใหม่จากผู้ชายคนนี้ได้เลย
กระเป๋าจากวัสดุเดนิม ที่ผสมผสานความคลาสสิคเข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
เดินทางสำรวจการสร้างสรรค์ผลงานของ Hermès กับงานฝีมือสุดประณีตที่ได้ถ่ายทอดผ่านเรื่องราวอันยาวนาน
สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งของ LUXURY DESTINATION
และถ้าถามว่าซอฟต์เพาเวอร์ของไทยคืออะไร คำตอบว่า Lisa ก็คงไม่ผิดเช่นกัน

Most Viewed

สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการทรงคุณค่า ประวัติศาสตร์ขององค์กรหกแผ่นดินยึดมั่นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อประชาสังคม
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการทรงคุณค่า ประวัติศาสตร์ขององค์กรหกแผ่นดินยึดมั่นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อประชาสังคม

MORE FROM

Van Cleef & Arpels : Time, Nature, Love พาชมความงามของเครื่องประดับชั้นสูงผ่านนิทรรศการที่ถักทอไว้ด้วยเรื่องราวแห่งเวลา ธรรมชาติ และรัก
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว