ตั้งแต่ที่ iPhone XS และ XS Max เปิดตัวในฐานะโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของแอปเปิ้ลมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ด้วยความที่เป็นมือถือระดับพรีเมียม มีราคาสูงที่สุดในท้องตลาดเลยก็ว่าได้ ทำให้เป็นที่จับตามองอย่างมากว่าประสิทธิภาพจะสมราคาและสมคำร่ำลือแค่ไหน
หลังจากที่ใช้งานมาได้ราวๆ 3 เดือน ความรู้สึกโดยรวมก็คือ เราคิดว่าเป็นมือถือที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้ดีมากๆ เลยทีเดียว เพราะทุกวันนี้คนเราทำแทบจะทุกอย่างในมือถือ ตั้งแต่การพูดคุยสื่อสาร พิมพ์ตอบแชท ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ไปจนถึงการทำงานบนเหล่าแอปพลิเคชันต่างๆ ที่มาช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิต มาดูกันว่า 5 เหตุผลที่เรามองว่า iPhone XS Max เป็นมือถือที่คุ้มค่า เพราะอะไรบ้าง

1. ทำเครื่องตกไปหลายรอบโดยไม่มีเคส แต่ก็ยังอยู่รอด
ตัวเครื่องทำจากกระจกที่แข็งแรงสุดๆ แบบที่เราใช้งานโดยไม่ใส่เคสและทำตกไปหลายครั้งแล้วในรอบ 3 เดือน แต่ก็ยังอยู่รอดมาได้โดยแทบไม่มีรอยขีดข่วน ขอบด้านข้างเป็นสเตนเลสสตีลเกรดสูง เคลือบสีทองหรูหรา แม้ว่าขนาดตัวเครื่องจะใหญ่พอๆ กับไอโฟน 8 plus แต่รุ่นนี้ทำหน้าจอแบบไร้ขอบ โดยไม่มีปุ่มโฮม ทำให้หน้าขนาดจอมีพื้นที่มากถึง 6.5 นิ้ว ด้วยความละเอียดที่สูง แถมสีสันที่โชว์ก็มีความเป็นธรรมชาติ ดูหนัง เล่นเกม เพลิดเพลินมาก
2. ไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์อีกต่อไป
แบตเตอรี่ของ iPhone XS Max นั้นอึดขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดจากไอโฟนรุ่นก่อนๆ ใช้งานประจำวันอยู่ได้ประมาณ 11 ชั่วโมง เรียกว่าถ้าชาร์จเต็ม 100% มาจากบ้าน ก็อยู่ได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็น (แบบไม่ได้ใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือแอปฯต่างๆ หนักมากนัก) แต่ถ้าหากไปท่องเที่ยวเดินทาง ต้องเปิดแอปฯ กูเกิ้ลแมพดูแผนที่ ต้องโพสรูป โพสวิดีโอ และเปิดยูทูบฟังเพลงแก้เหงา อันนี้ก็ต้องพกพาวเวอร์แบงค์ไว้กันเหนียวหน่อยนะ

3. กล้องถ่ายรูปในภาวะแสงน้อยดีขึ้นมาก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าที่เคยคิดว่ากล้องบน iPhone X นั้นดีมากแล้ว แต่สำหรับ XS Max ก็ต้องบอกว่าเหนือชั้นขึ้นไปอีก เพราะมีการรับแสงได้ดีกว่า จึงถ่ายกลางคืนได้สว่างอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ในขณะที่โหมด Portrait ที่สามารถทำหน้าชัดหลังเบลอได้ จึงปรับระยะชัดตื้นชัดลึกได้ทั้งวัตถุและบุคคล ดูมีมิติราวกับถ่ายกล้องโปร แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะบางครั้งในที่แสงน้อย การตัดขอบระหว่างส่วนที่ชัดและส่วนที่เบลอก็ยังไม่เนียนเท่าไรนัก แต่เราสามารถมาปรับแต่งเพิ่มทีหลังได้ โดยเข้าไปในโหมดที่มีให้เลือกว่าจะเอาระดับความแตกต่างของความชัดเบลอมากน้อยแค่ไหน



4. ถ่ายวิดีโอได้แบบมีกันสั่นในตัว
นอกจากความชัดระดับ 4K ที่ 60 fps แล้ว iPhone XS Max ยังมีระบบกันสั่นให้เราสามารถถ่ายวิดีโอโดยไม่ต้องพึ่ง stabilizer เลย อาจจะไม่ได้นิ่งขนาดโกโปร แต่ว่าถ้าเราประคองมือให้นิ่งในระดับหนึ่งแล้ว รุ่นนี้ก็สามารถถ่ายให้ดูเป็นมืออาชีพได้เลยทีเดียว ที่สำคัญมีไมโครโฟนแบบสเตอริโอ จับเสียงขณะที่เราอัดได้ตามทิศทางของแหล่งกำเนิดเสียง เวลาไปเปิดฟังที่ลำโพงจะแยกออกเลยว่าเสียงนั้นจากลำโพงซ้าย เสียงนี้จากลำโพงขวา เราเองก็ใช้ไอโฟนถ่ายวิดีโอเวลาไปเที่ยวแล้วก็ใช้แอปฯตัดต่อทุกอย่างจบในเครื่อง โพสลงบล็อกและเฟสบุ๊กไปหลายตอนแล้วเหมือนกัน
5. ไถหน้าจอได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด
ต้องยกความดีความชอบให้ iOS 12 ชิพ A12 Bionic และแรมมากถึง 4 GB ที่ทำให้การไถจอไอโฟนรุ่นนี้ลื่นไหล ไม่ว่าจะปิดเปิดแอปฯอะไรสามารถทำได้ทันใจ ที่สำคัญการเชื่อมต่อกับ apple device อื่นๆ ก็ทำได้ง่าย ไม่มีปัญหาเลย โดยเฉพาะ Apple Watch Series 4 ที่มาพร้อมจอแสดงผลใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โดยที่ตัวเรือนมีให้เลือกถึง 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. ลำโพงดังขึ้น ทำให้การใช้งาน Siri และวอล์กกี้ทอล์กกี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แน่นอนว่าเราสามารถรับสายโทรเข้าออกได้จากนาฬิกาแอปเปิ้ลวอตช์ เพราะเป็นระบบเซลลูลาร์ และอีกอย่างมันก็เป็นเหมือนคู่หูที่ช่วยดูแลสุขภาพของเราอย่างใกล้ชิด ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้นอีก 6 ชั่วโมง เหมาะแก่การออกกำลังกายกลางแจ้ง มีฟีเจอร์การนับก้าว การวิ่ง มีเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า และการตรวจจับการล้ม ซึ่งถ้าหาก Apple Wach ตรวจพบว่าหลังจากการล้มของผู้ใช้แล้วไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เป็นเวลา 60 วินาที จะมีการโทรหาบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติและส่งข้อความพร้อมระบุตำแหน่งไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินที่เราตั้งค่าไว้



สำหรับสายแฟ สายไลฟ์สไตล์ บอกได้เลยว่าทั้ง iPhone XS Max และ Apple Watch Series 4 รุ่นล่าสุดนี้ เหนือชั้นทั้งดีไซน์ภายนอก และฟีเจอร์ภายใน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันได้ทุกย่างก้าว คงจะดีเหมือนกันถ้าต่อไปนี้เราพกแค่มือถือกับนาฬิกาข้อมือ ก็สามารถติดต่อสื่อสารและจัดการงานทุกอย่างได้เพียงปลายนิ้ว

ตัวเครื่องทำจากกระจกที่แข็งแรงสุดๆ แบบที่เราใช้งานโดยไม่ใส่เคสและทำตกไปหลายครั้งแล้วในรอบ 3 เดือน แต่ก็ยังอยู่รอดมาได้โดยแทบไม่มีรอยขีดข่วน ขอบด้านข้างเป็นสเตนเลสสตีลเกรดสูง เคลือบสีทองหรูหรา แม้ว่าขนาดตัวเครื่องจะใหญ่พอๆ กับไอโฟน 8 plus แต่รุ่นนี้ทำหน้าจอแบบไร้ขอบ โดยไม่มีปุ่มโฮม ทำให้หน้าขนาดจอมีพื้นที่มากถึง 6.5 นิ้ว ด้วยความละเอียดที่สูง แถมสีสันที่โชว์ก็มีความเป็นธรรมชาติ ดูหนัง เล่นเกม เพลิดเพลินมาก

แบตเตอรี่ของ iPhone XS Max นั้นอึดขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดจากไอโฟนรุ่นก่อนๆ ใช้งานประจำวันอยู่ได้ประมาณ 11 ชั่วโมง เรียกว่าถ้าชาร์จเต็ม 100% มาจากบ้าน ก็อยู่ได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็น (แบบไม่ได้ใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือแอปฯต่างๆ หนักมากนัก) แต่ถ้าหากไปท่องเที่ยวเดินทาง ต้องเปิดแอปฯ กูเกิ้ลแมพดูแผนที่ ต้องโพสรูป โพสวิดีโอ และเปิดยูทูบฟังเพลงแก้เหงา อันนี้ก็ต้องพกพาวเวอร์แบงค์ไว้กันเหนียวหน่อยนะ


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าที่เคยคิดว่ากล้องบน iPhone X นั้นดีมากแล้ว แต่สำหรับ XS Max ก็ต้องบอกว่าเหนือชั้นขึ้นไปอีก เพราะมีการรับแสงได้ดีกว่า จึงถ่ายกลางคืนได้สว่างอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ในขณะที่โหมด Portrait ที่สามารถทำหน้าชัดหลังเบลอได้ จึงปรับระยะชัดตื้นชัดลึกได้ทั้งวัตถุและบุคคล ดูมีมิติราวกับถ่ายกล้องโปร แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะบางครั้งในที่แสงน้อย การตัดขอบระหว่างส่วนที่ชัดและส่วนที่เบลอก็ยังไม่เนียนเท่าไรนัก แต่เราสามารถมาปรับแต่งเพิ่มทีหลังได้ โดยเข้าไปในโหมดที่มีให้เลือกว่าจะเอาระดับความแตกต่างของความชัดเบลอมากน้อยแค่ไหน




นอกจากความชัดระดับ 4K ที่ 60 fps แล้ว iPhone XS Max ยังมีระบบกันสั่นให้เราสามารถถ่ายวิดีโอโดยไม่ต้องพึ่ง stabilizer เลย อาจจะไม่ได้นิ่งขนาดโกโปร แต่ว่าถ้าเราประคองมือให้นิ่งในระดับหนึ่งแล้ว รุ่นนี้ก็สามารถถ่ายให้ดูเป็นมืออาชีพได้เลยทีเดียว ที่สำคัญมีไมโครโฟนแบบสเตอริโอ จับเสียงขณะที่เราอัดได้ตามทิศทางของแหล่งกำเนิดเสียง เวลาไปเปิดฟังที่ลำโพงจะแยกออกเลยว่าเสียงนั้นจากลำโพงซ้าย เสียงนี้จากลำโพงขวา เราเองก็ใช้ไอโฟนถ่ายวิดีโอเวลาไปเที่ยวแล้วก็ใช้แอปฯตัดต่อทุกอย่างจบในเครื่อง โพสลงบล็อกและเฟสบุ๊กไปหลายตอนแล้วเหมือนกัน

ต้องยกความดีความชอบให้ iOS 12 ชิพ A12 Bionic และแรมมากถึง 4 GB ที่ทำให้การไถจอไอโฟนรุ่นนี้ลื่นไหล ไม่ว่าจะปิดเปิดแอปฯอะไรสามารถทำได้ทันใจ ที่สำคัญการเชื่อมต่อกับ apple device อื่นๆ ก็ทำได้ง่าย ไม่มีปัญหาเลย โดยเฉพาะ Apple Watch Series 4 ที่มาพร้อมจอแสดงผลใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โดยที่ตัวเรือนมีให้เลือกถึง 2 ขนาด ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. ลำโพงดังขึ้น ทำให้การใช้งาน Siri และวอล์กกี้ทอล์กกี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น



