หากเอ่ยถึงเครื่องประดับคริสตัลที่มีดีไซน์โดดเด่นหลายคนก็คงนึกถึง Swarovski เป็นแบรนด์แรก ด้วยรูปทรงที่แตกต่างและการแมตช์คริสตัลหลากสีสันทำให้คาเเร็กเตอร์ของแบรนด์เด่นชัดและเฉิดฉายยิ่งกว่าใคร ล่าสุดทีมบาซาร์ได้มีโอกาสพูดคุย Nathalie Colin ผู้เป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ถึงเบื้องหลังเส้นทางแห่งความสำเร็จของเธอในฐานะหัวเรือใหญ่ของกลุ่มสวารอฟสกี้มาตั้งแต่ปี 2006
Nathalie Colin: อันที่จริงตั้งแต่อายุ 11 ที่ฉันยังอยู่ที่ฝรั่งเศส คุณแม่ได้พาฉันไปร่วมการสัมมนาเกี่ยวกับการปรึกษาด้านอาชีพ ฉันได้พบกับผู้ชายท่านหนึ่งที่ถามคำถามเกี่ยวกับฉันเยอะมาก รวมถึงคำถามว่า “งานในฝันที่หนูอยากทำคืออะไรครับ?” ฉันจึงตอบไปว่า “ฉันอยากวาดภาพสเกตช์ ฝึกพูดภาษาอังกฤษ และอยากจะเดินทางนอกประเทศ” แต่เขากลับตอบว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้แต่เขากลับแนะนำให้ฉันมุ่งเรียนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์แทน มันทำให้ฉันผิดหวังมาก แต่ในวันนี้ฉันก็สามารถมายืนตรงนี้ได้แล้ว วันนี้หากให้ฉันย้อนมองกลับไปเมื่อครั้นยังวัยเด็ก ฉันก็มั่นใจเลยว่าอาชีพที่ฉันกำลังทำอยู่ตอนนี้คือสิ่งที่ฉันเมื่อวัย 11 ปีอยากจะทำ
NC: ในการออกแบบคอลเลกชั่น ฉันมักจะนึกถึงเรื่องราวและเเรงบันดาลใจที่ฉันอยากจะบอกเล่าเป็นอย่างแรก ซึ่งเรื่องราวที่แบรนด์นำเสนอมักจะเกี่ยวกับโลกของธรรมชาติเนื่องจากบริษัทก่อตั้งขึ้นในออสเตรีย แวดล้อมไปด้วยป่าอันสวยงาม คอลเลกชั่นนี้จึงเป็นการเล่าเรื่องราวเทพนิยายในป่าช่วงหน้าหนาวที่เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์อย่าง นกฮูก สุนัขจิ้งจอก แมงมุงและยังอุดมไปด้วยดอกไม้หน้าหนาวนานาพันธุ์ รวมไปถึงแสงและเงาในป่าซึ่งเป็นที่มาของเทคนิคการซ้อนคริสตัล สำหรับฉันความเป็นแบรนด์สวารอฟสกี้คือการที่ฉันได้คิดค้นเอาเทคนิคต่างๆ มาใช้ชุบชีวิตใหม่ให้แก่เหล่าคริสตัลอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์
HB: คุณคิดว่าเทรนด์จิวเวลรี่ที่ทำจากคริสตัลนั้นมีการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบันบ้างหรือไม่?
NC: แน่นอนว่ามันมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อก่อนคอสตูมจิวเวลรี่และอัญมณีชั้นสูงมีเส้นแบ่งอย่างชัดเจน แต่ในยุคนี้คุณอาจจะดูไม่แทบไม่ออกเลยว่าสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร เช่น คุณเห็นต่างหูหนึ่งคู่จากคอลเลกชั่นนี้ คุณก็อาจจะเดาไม่ได้ว่าคู่นี้คือคริสตัลหรือเพชร ซึ่งฉันคิดว่ามันคือข้อดีสำหรับผู้หญิงยุคนี้ เพราะแต่ละแบรนด์ต่างพยายามโชว์ความครีเอตมากขึ้นกว่าเดิม การแข่งขันสูงขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงทำให้พวกเธอสามารถเลือกสรรเครื่องประดับตามความชื่นชอบในราคาที่ต่างกัน ล่าสุดฉันได้ไปชมผลงานของเหล่านักออกแบบจิวเวลรี่ที่ประเทศเกาหลีใต้ มันทำให้ฉันยิ่งมั่นใจว่าเทรนด์ปัจจุบันและอนาคตของอุตสาหกรรมนี้จะมุ่งหน้าไปด้านการเน้นรูปทรงใหม่ๆ ที่สะดุดตาแน่นอน
อย่างคอลเลกชั่น Fall/Winter 2018 ฉันก็ได้เนรมิตซิลูเอตแปลกตา ต่างหูดีไซน์อสมมาตร แหวนที่สามารถสวมต่อกันได้หรือจะแยกกันก็ได้ หรือเครื่องประดับที่สามารถสวมใส่ได้หลากหลายแบบ
NC: สำหรับคอลเลกชั่นนี้อาจจะไม่ใช่ความยากด้านเทคนิคแต่เป็นการปรับความคิดให้ไปในทิศทางเดียวกันกับคนใหม่ในทีม อาจจะมีบางไอเดียที่เห็นตรงกันแต่ก็มีบ้างที่คิดต่างกัน อย่างการที่ฉันชอบใช้สีสันเยอะในแต่ละคอลเลกชั่น จึงต้องมีวิธีการโน้มน้าวใจให้พวกเขาเชื่อในตัวฉัน
HB: เทคนิคและงานฝีมือของสวารอฟสกี้มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไรบ้าง
NC: คุณภาพของคริสตัลเรานั่นผ่านการคัดเลือกและเจียระไนมาอย่างพิถีพิถัน คริสตัลแต่ละเม็ดนั้นถูกจัดวางโดยช่างมือทองผู้ใส่ใจในทุกรายละเอียดซึ่งทำให้องค์ประกอบโดยรวมของจิวเวลรี่แต่ละชิ้นดูโดดเด่นยิ่งกว่าใคร
NC: มีครั้งหนึ่งที่ฉันได้นำเสนอทีมการตลาดเกี่ยวกับการทำนาฬิกาคริสตัลเป็นสีสด แต่ไม่มีใครเห็นด้วยกับไอเดียนี้ ฉันจึงพยายามโน้มน้าวจนเขายอมผลิตออกมาเพียงไม่กี่ชิ้น แต่รู้ไหมว่าเมื่อทางหน้าร้านวางจำหน่าย มันก็ขายหมดทันทีทันไดเลย! ทำให้ฉันตระหนักได้ว่าการมีจุดยืนของตัวเองเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมี แต่การประนีประนอมสำหรับการทำงานเป็นทีมนั้นสำคัญยิ่งไม่แพ้กัน
HB: คุณชอบชิ้นไหนจากคอลเลกชั่นนี้บ้าง
NC: ฉันชอบคอลเลกชั่นที่เป็นสุนัขจิ้งจอกมาก ไฮไลต์อยู่ที่หางของมันที่สามารถขยับได้ ส่วนตุ้มหูก็ถูกออกแบบให้เป็นรูปทรงอสมมาตรข้าง สั้นข้าง ยาวข้าง เป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมตอนนี้เลยล่ะ
NC: ไม่เคยมีใครถามฉันแบบนี้มาก่อนเลย (หัวเราะ) นี้เป็นครั้งแรกใน 5 ปีเลยนะ! ฉันว่าฉันสามารถเปรียบตัวเองเป็นสร้อยคอสีสดๆ ที่ดูสะดุดตาและน่าค้นหา ก่อให้เกิดเป็นจุดเริ่มของบทสนทนาเวลาพบปะผู้คนใหม่ๆ
นี่คือภาพเครื่องประดับชิ้นงามจาก Swarovski คอลเลกชั่น Fall/Winter 2018
Nathalie Colin: อันที่จริงตั้งแต่อายุ 11 ที่ฉันยังอยู่ที่ฝรั่งเศส คุณแม่ได้พาฉันไปร่วมการสัมมนาเกี่ยวกับการปรึกษาด้านอาชีพ ฉันได้พบกับผู้ชายท่านหนึ่งที่ถามคำถามเกี่ยวกับฉันเยอะมาก รวมถึงคำถามว่า “งานในฝันที่หนูอยากทำคืออะไรครับ?” ฉันจึงตอบไปว่า “ฉันอยากวาดภาพสเกตช์ ฝึกพูดภาษาอังกฤษ และอยากจะเดินทางนอกประเทศ” แต่เขากลับตอบว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้แต่เขากลับแนะนำให้ฉันมุ่งเรียนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์แทน มันทำให้ฉันผิดหวังมาก แต่ในวันนี้ฉันก็สามารถมายืนตรงนี้ได้แล้ว วันนี้หากให้ฉันย้อนมองกลับไปเมื่อครั้นยังวัยเด็ก ฉันก็มั่นใจเลยว่าอาชีพที่ฉันกำลังทำอยู่ตอนนี้คือสิ่งที่ฉันเมื่อวัย 11 ปีอยากจะทำ
NC: ในการออกแบบคอลเลกชั่น ฉันมักจะนึกถึงเรื่องราวและเเรงบันดาลใจที่ฉันอยากจะบอกเล่าเป็นอย่างแรก ซึ่งเรื่องราวที่แบรนด์นำเสนอมักจะเกี่ยวกับโลกของธรรมชาติเนื่องจากบริษัทก่อตั้งขึ้นในออสเตรีย แวดล้อมไปด้วยป่าอันสวยงาม คอลเลกชั่นนี้จึงเป็นการเล่าเรื่องราวเทพนิยายในป่าช่วงหน้าหนาวที่เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์อย่าง นกฮูก สุนัขจิ้งจอก แมงมุงและยังอุดมไปด้วยดอกไม้หน้าหนาวนานาพันธุ์ รวมไปถึงแสงและเงาในป่าซึ่งเป็นที่มาของเทคนิคการซ้อนคริสตัล สำหรับฉันความเป็นแบรนด์สวารอฟสกี้คือการที่ฉันได้คิดค้นเอาเทคนิคต่างๆ มาใช้ชุบชีวิตใหม่ให้แก่เหล่าคริสตัลอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์
HB: คุณคิดว่าเทรนด์จิวเวลรี่ที่ทำจากคริสตัลนั้นมีการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบันบ้างหรือไม่?
NC: แน่นอนว่ามันมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อก่อนคอสตูมจิวเวลรี่และอัญมณีชั้นสูงมีเส้นแบ่งอย่างชัดเจน แต่ในยุคนี้คุณอาจจะดูไม่แทบไม่ออกเลยว่าสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร เช่น คุณเห็นต่างหูหนึ่งคู่จากคอลเลกชั่นนี้ คุณก็อาจจะเดาไม่ได้ว่าคู่นี้คือคริสตัลหรือเพชร ซึ่งฉันคิดว่ามันคือข้อดีสำหรับผู้หญิงยุคนี้ เพราะแต่ละแบรนด์ต่างพยายามโชว์ความครีเอตมากขึ้นกว่าเดิม การแข่งขันสูงขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงทำให้พวกเธอสามารถเลือกสรรเครื่องประดับตามความชื่นชอบในราคาที่ต่างกัน ล่าสุดฉันได้ไปชมผลงานของเหล่านักออกแบบจิวเวลรี่ที่ประเทศเกาหลีใต้ มันทำให้ฉันยิ่งมั่นใจว่าเทรนด์ปัจจุบันและอนาคตของอุตสาหกรรมนี้จะมุ่งหน้าไปด้านการเน้นรูปทรงใหม่ๆ ที่สะดุดตาแน่นอน
อย่างคอลเลกชั่น Fall/Winter 2018 ฉันก็ได้เนรมิตซิลูเอตแปลกตา ต่างหูดีไซน์อสมมาตร แหวนที่สามารถสวมต่อกันได้หรือจะแยกกันก็ได้ หรือเครื่องประดับที่สามารถสวมใส่ได้หลากหลายแบบ
NC: สำหรับคอลเลกชั่นนี้อาจจะไม่ใช่ความยากด้านเทคนิคแต่เป็นการปรับความคิดให้ไปในทิศทางเดียวกันกับคนใหม่ในทีม อาจจะมีบางไอเดียที่เห็นตรงกันแต่ก็มีบ้างที่คิดต่างกัน อย่างการที่ฉันชอบใช้สีสันเยอะในแต่ละคอลเลกชั่น จึงต้องมีวิธีการโน้มน้าวใจให้พวกเขาเชื่อในตัวฉัน
HB: เทคนิคและงานฝีมือของสวารอฟสกี้มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไรบ้าง
NC: คุณภาพของคริสตัลเรานั่นผ่านการคัดเลือกและเจียระไนมาอย่างพิถีพิถัน คริสตัลแต่ละเม็ดนั้นถูกจัดวางโดยช่างมือทองผู้ใส่ใจในทุกรายละเอียดซึ่งทำให้องค์ประกอบโดยรวมของจิวเวลรี่แต่ละชิ้นดูโดดเด่นยิ่งกว่าใคร
NC: มีครั้งหนึ่งที่ฉันได้นำเสนอทีมการตลาดเกี่ยวกับการทำนาฬิกาคริสตัลเป็นสีสด แต่ไม่มีใครเห็นด้วยกับไอเดียนี้ ฉันจึงพยายามโน้มน้าวจนเขายอมผลิตออกมาเพียงไม่กี่ชิ้น แต่รู้ไหมว่าเมื่อทางหน้าร้านวางจำหน่าย มันก็ขายหมดทันทีทันไดเลย! ทำให้ฉันตระหนักได้ว่าการมีจุดยืนของตัวเองเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมี แต่การประนีประนอมสำหรับการทำงานเป็นทีมนั้นสำคัญยิ่งไม่แพ้กัน
HB: คุณชอบชิ้นไหนจากคอลเลกชั่นนี้บ้าง
NC: ฉันชอบคอลเลกชั่นที่เป็นสุนัขจิ้งจอกมาก ไฮไลต์อยู่ที่หางของมันที่สามารถขยับได้ ส่วนตุ้มหูก็ถูกออกแบบให้เป็นรูปทรงอสมมาตรข้าง สั้นข้าง ยาวข้าง เป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมตอนนี้เลยล่ะ
NC: ไม่เคยมีใครถามฉันแบบนี้มาก่อนเลย (หัวเราะ) นี้เป็นครั้งแรกใน 5 ปีเลยนะ! ฉันว่าฉันสามารถเปรียบตัวเองเป็นสร้อยคอสีสดๆ ที่ดูสะดุดตาและน่าค้นหา ก่อให้เกิดเป็นจุดเริ่มของบทสนทนาเวลาพบปะผู้คนใหม่ๆ
นี่คือภาพเครื่องประดับชิ้นงามจาก Swarovski คอลเลกชั่น Fall/Winter 2018
