ไอเท็มจาก Gucci คอลเลกชั่น Towards The Sun 2020 ที่ชาวบาซาร์ต้องมี!

แม้ช่วงนี้บรรยากาศอาจจะอึมครึมไปหน่อย แต่ทางแบรนด์อิตาลีอย่าง Gucci ก็ได้ส่งคอลเลกชั่นใหม่ที่จะมาเพิ่มความสดใสให้กับทุกคนภายใต้ชื่อ Towards The Sun 2020 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง แสงและความอบอุ่น ถ่ายทอดผ่านเฉดสีพาสเทลต่างๆ เพื่อสะท้อนถึงความสุขและการมองโลกในแง่ดี

View this post on Instagram

Part of the new #TowardsTheSun #GucciPreFall20 collection, a pastel-hued lineup of mini #GGMarmont handbags featuring the Double G hardware. Discover more through link in bio. @alessandro_michele #AlessandroMichele

A post shared by Gucci (@gucci) on May 26, 2020 at 3:00am PDT

คอลเลกชั่นนี้ประกอบด้วยไอเท็มหลากหลาย เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ และเครื่องหนังขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความโดดเด่นเฉพาะตัว อีกทั้งยังเหมาะกับการใช้งานผ่านการออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับวาระโอกาสต่าง ๆ เพิ่มความหรูหรา สง่างามและโมเดิร์น เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์จากสัญลักษณ์ต่างๆ ของแบรนด์และฮาร์ดแวร์ที่นำมาใช้ตกแต่ง

เริ่มต้นที่กระเป๋าใบเด่น 3 รุ่นอย่าง GG Marmont 2.0, Gucci Zumi และ Gucci 1955 Horsebit ที่ได้รับการตกแต่งด้วยโลโก้ Double G สีเงินวาวมาใช้กับกระเป๋ารุ่น GG Marmont 2.0 ที่มีไซส์ให้เลือกถึง 3 ขนาด และยังถือว่าเป็นครั้งแรกที่ Gucci ใช้ฮาร์ดแวร์สีเงินประดับบนกระเป๋า เขากับสีสันเฉดพาสเทลสดใส รับรองว่าถูกใจสาวหวานแน่ๆ

อีกรุ่น GG Marmont 2.0 เหมาะกับสาวเรียบโก้ที่ชื่นชอบทะเลสีคราม ด้วยโทนสีครีมตัดขอบด้วยหนังสีฟ้า สุดคลาสสิค ตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์ GG สีทองที่บิดเป็นเกลียว (twisted torchon Double G buckle) เช่นเดียวกับกระเป๋าอื่นๆ อย่างกระเป๋าสะพายรุ่นมินิ กระเป่าสะพายแบบบัคเก็ตใบเล็ก และกระเป๋าสตางค์แบบมีสายสะพาย กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใส่บัตรต่างๆ ก็มีมาให้เลือกในโทนสีขาวขลิบฟ้านี้ด้วยเช่นกัน

มาต่อกันที่กระเป๋ารุ่นที่ 2 ซึ่งก็คือ Gucci Zumi โดยการรวมเอาสัญลักษณ์สองอย่างคือ Interlocking G และ Horsebit มาตกแต่งบนกระเป๋า โดยมีให้เลือกในโทนสีพาสเทล 2 เฉดสี คือสีเขียวอ่อนและสีฟ้าอ่อน นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ทำจากหนังนกกระจอกเทศด้วย

รุ่นที่ 3 Gucci 1955 Horsebit ที่เป็นดั่งไอคอนของ Gucci ด้วยสัญลักษณ์เหล็กปากม้าสีทอง โดยมีให้เลือกทั้งทรง tote ขนาดใหญ่และขนาดกลางในโทนสีขาวคลาสสิค พร้อมสายโซ่สีทองและหูจับด้านบนทำจากหนัง กระเป๋าผ้าแคนวาสลาย GG แบบดั้งเดิม และกระเป๋ารุ่น top-handle dome ในขนาดกลางกับเล็ก และกระเป๋าสะพายแบบฝาปิดขนาดเล็กก็ยังมีตัวเลือกเป็นสีเขียวอ่อนเช่นกัน ส่วนใครที่ชื่นชอบกระเป๋าทรง bucket ต้องถูกใจกระเป๋ารุ่น Horsebit ทรงนี้แน่นอน นอกจากนี้ยังเป็นผ้าแคนวาสลวดลาย GG แบบดั้งเดิมและกุ๊นขอบด้วยหนังสีน้ำตาล หรือสีขาว พร้อมสายสะพายที่สามารถปรับได้

ส่วนใครที่อยากเพิ่มสีสันให้กับชีวิต ต้องถูกใจกระเป๋าและแอ็กเซสเซอรี่ที่เป็นการนำลาย Baiadera จาก Archive มาแปลงโฉมอย่าง โดยลายสีแดง เหลือง เขียว ฟ้าเข้ม นี้ถูกนำมาถ่ายทอดลงบนกระเป๋าผ้าลินิน ตกแต่งด้วยป้ายหนังสีแดงรูปวงปั๊มโลโก้ Gucci สีทองด้านนอก นอกจากนี้ยังมี กระเป๋าทรง messenger กระเป๋าเข็มขัดทรงเหลี่ยม กระเป๋าสะพายบ่าทรงครึ่งวงกลม กระเป๋าโท้ต ไปถึงกระเป๋าเป้สะพายหลัง 2 แบบ สำหรับผู้ชาย นอกจากนี้ลายพิมพ์ Baiadera ยังได้ต่อยอดไปสู่รองเท้าสุภาพบุรุษและรองเท้าเอสพาดริลล์ที่เหมาะกับหน้าร้อนเป็นที่สุด

ในส่วนของรองเท้าสุภาพสตรีก็มีให้เลือกสรรทั้งทรงแซนดัล เอสพาดริลล์และรองเท้าแตะในโทนสีพาสเทลประดับด้วยโลโก้ GG Marmont เพื่อสอดคล้องกับกระเป๋า

คอลเลคชั่นเสื้อผ้าสำหรับเสื้อผ้าสุภาพสตรีนั้นมีชิ้นเด่นเป็นเดรสและชุดคาฟตันในโทนสีอ่อนที่ทำจากผ้าลินิน เพิ่มความโดดเด่นด้วยผ้าการตกแต่งลูกไม้สีส้มสด ทางด้านนิตแวร์นั้นทำขึ้นจากการถักโครเชต์ ตกแต่งด้วยโลโก้ GG ถักด้วยมือที่ด้านหลัง แมตช์คู่กับกางเกงยีนส์เอวสูงที่มีป้ายผ้าปักคำว่า “Gucci quelle qu’en soit la saison” นอกจากนั้นยังมีเสื้อทรงครอปอีกหลายแบบ รวมถึงชุดมินิเดรสแขนกุดคอวี เพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับคอลเลกชั่นมากขึ้น

ทางหนุ่มๆ ก็มีเสื้อเชิ้ตโปโลผ้าฝ้ายและไอเท็มนิตแวร์ เสื้อแทร็กสูททำจากผ้าฝ้ายพิมพ์ลายประจำคอลเลกชั่นและลายทางซึ่งเป็นหนึ่งในลายซิกเนเจอร์ของแฟชั่นเฮ้าส์แห้งนี้

สำหรับใครที่ชอบเครื่องหนังขนาดเล็ก ก็มีให้เลือกตั้งแต่ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใส่เหรียญ และกระเป๋าขนาดมินิรุ่นมีสาย รวมถึงไอเท็มที่ทำจากผ้าไหมอีก 3 แบบที่มาพร้อมกับลายพิมพ์ Baiadera ประกอบด้วยผ้าพันคอทรงสี่เหลี่ยม 2 แบบ ผ้าพันคอผืนใหญ่และหมวกผ้าลินินพิมพ์ลาย หมวกที่ทำจากฟาง และหมวกประเภทอื่น ๆ

หากใครเป็นสาวก Gucci ตัวจริงต้องรีบไปจับจองไอเท็มเหล่านี้มาอัพเกรดให้ลุคซัมเมอร์ของคุณเจิดจรัสยิ่งกว่าใคร