“ซินดี้ สิรินยา” Friend of Breitling ตัวแทนของผู้หญิงมั่นใจที่มีไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่ง

บนเส้นทางความสำเร็จที่ติดปีกโบยบินผ่านกาลเวลามานานกว่าศตวรรษของแบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสอย่าง Breitling (ไบร์ทลิ่ง) คงไม่ไช่เรื่องเกินจริงหากจะกล่าวว่า Breitling ได้สร้างชื่อเสียงระดับโลกในฐานะเรือนเวลาอันเที่ยงตรงแม่นยำสูง กับบทบาทการบุกเบิกของแบรนด์ในการพัฒนานาฬิกาข้อมือโครโนกราฟและความทุ่มเทในการออกแบบอันล้ำเลิศ ภายใต้เรื่องราวความเชื่อมโยงของแบรนด์กับโลกแห่งการบิน

และล่าสุดกับผลงานสร้างสรรค์เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรีโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Chronomat 36, Chronomat 32 และ Navitimer Automatic 35 รวมถึงการเปิดตัว Friend of Breitling “ซินดี้-สิรินยา บิชอพ” ในแคมเปญ Chosen, Not Given เพื่อร่วมตอกย้ำสิทธิของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความมั่นใจและกล้าที่จะเลือกในสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง

“ซินดี้-สิรินยา บิชอพ” กับบทบาทใหม่ในฐานะ Friend of Breitling และมุมมองของการใช้ชีวิตที่เธอเป็น ‘ผู้เลือก’ เอง

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหน้ากับ “ซินดี้-สิรินยา บิชอพ” ในฐานะผู้หญิงสวยและเก่งที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 25 ปี ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์โมเดลที่มีผลงานด้านการถ่ายแบบ ละคร และพิธีกรระดับคุณภาพที่เราเห็นมาตลอด อีกด้านหนึ่งเธอยังเป็นนักขับเคลื่อนสิทธิสตรี กระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) เมื่อปี 2020

ล่าสุดกับการได้รับเลือกให้เป็น Friend of the Breitling ภายใต้แคมเปญ Chosen, Not Given เพื่อตอกย้ำสิทธิของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความมั่นใจและสามารถเลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองได้โดยไม่ต้องรอใครมาหยิบยื่น ซึ่งซินดี้ได้ถ่ายทอดแนวคิดนี้ไว้อย่างชัดเจนผ่านคาแรกเตอร์ของผู้หญิงทำงานที่มีความสวยสง่าและอ่อนหวาน มาพร้อมความสามารถ ประสบการณ์บวกความมั่นใจ กล้าตัดสินใจในการเลือกกำหนดชีวิตของตัวเองและเป็นพลังขับเคลื่อนให้สังคม

ในโลกยุคใหม่ การแบ่งแยกคุณสมบัติของเพศด้วยมายาคติเดิมๆ กำลังถูกเบลอเส้นแบ่งมากขึ้น คำว่ามาสคิวลีนและเฟมินีนเริ่มผสมผสานกันอย่างกลมกลืน “Breitling ก็เป็นนาฬิกาแบรนด์หนึ่งที่คนมักติดภาพว่าเป็นนาฬิกาแบบแมนๆ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของสไตล์มากกว่า ความเท่ ความคูล ความสตรอง คือแมสเสจของแบรนด์ที่เป็นมากกว่าแฟชั่น เซเลบริตี้ที่มีความสัมพันธ์กับแบรนด์ก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นสายสปอร์ตหรือการแสดง แต่ละคนจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจของคนๆ นั้น” ซินดี้กล่าว

“สำหรับ Breitling ซินดี้ชอบที่มีความมัสคูลีนเฟมินีนผสมกันอยู่อย่างน่าสนใจ ดูคลาสสิกและคูลในเวลาเดียวกัน เหมาะกับบุคลิกและสไตล์ที่เราเป็น ส่วนตัวชอบนาฬิกาที่ทะมัดทะแมงหน่อยค่ะ ซึ่งเราใส่แบบนี้มานานแล้วนะ เพราะว่าเป็นคนค่อนข้างไว มีแอ็กทีฟไลฟ์สไตล์ ทำนู่นทำนี่ตลอด นาฬิกาก็เลยต้องดูคล่องตัวและเน้นที่การใช้งาน” เธอเล่าถึงนาฬิกาคอลเลกชั่น Chronomat ที่เหมาะกับหลากหลายโอกาสและโดดเด่นด้วยดีไซน์โมเดิร์นผสานเข้ากับสไตล์เรโทรของสายสตีลอันมีเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว ส่วนอีกคอลเลกชั่นคือ Navitimer ซึ่งมากับลุคเท่คลาสสิกด้วยหน้าปัดสี copper จับคู่กับสายสตีลหรือสายหนังจระเข้สีน้ำตาล

Breitling Chronomat 36 และ Chronomat 32 ตัวแทนแห่งเรือนเวลาสำหรับสตรีผู้ยึดมั่นในเป้าหมาย กล้าที่จะลงมือทำ และเปี่ยมด้วยความมีสไตล์

อาจกล่าวได้ว่า Chronomat (โครโนแมท) คือหนึ่งในคอลเลกชั่นที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Breitling เลยก็ว่าได้ นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 1984 ซึ่งถือเป็นยุคที่นาฬิกาควอทซ์เรือนบางเฉียบกำลังเป็นที่นิยม หากแต่ด้วยความมุ่งมั่นบวกกับวิสัยทัศน์ทันสมัยของ Breitling ทำให้นาฬิกาจักรกลอันยอดเยี่ยมอย่าง Chronomat ได้รับการพิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้ชนะและกลายเป็นเรือนเวลาแห่งยุค จวบจนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 40 ปี นาฬิกา Chronomat ก็ได้รับการออกแบบใหม่อีกครั้ง รวมถึงรุ่น Chronomat 36 และ Chronomat 32 ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์และพัฒนาขึ้นเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ เสมือนเป็นตัวแทนแห่งเรือนเวลาที่สะท้อนไหวพริบ ความมั่นใจ และไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ที่ไม่หยุดนิ่ง   

ความหรูหราที่สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยดีไซน์ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว

แม้รูปลักษณ์ภายนอกของคอลเลกชั่น Chronomat ที่ถูกดีไซน์มาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะนี้ จะยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความหรูหราสง่างาม แต่ในขณะเดียวกันก็มีความสปอร์ตและความทันสมัยแฝงอยู่ในรายละเอียดต่างๆ อย่างเหมาะเจาะลงตัว เริ่มต้นที่นาฬิการุ่น Chronomat Automatic 36 ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก Breitling Caliber 10 สำรองพลังงานได้ประมาณ 42 ชั่วโมง และมีให้เลือกทั้งหมด 10 แบบ ทั้งหน้าปัดแล็กเกอร์สีขาว เขียวอ่อน มิดไนท์บลู และคอปเปอร์

ส่วนนาฬิการุ่น Chronomat 32 ขับเคลื่อนด้วยกลไก Breitling Caliber 70 และแบตเตอรี่ที่อยู่ได้ยาวนานถึง 3-4 ปี ส่วนหน้าปัดก็มีให้เลือกทั้งหน้าปัดสีขาวและมิดไนท์บลู      

นอกจากตัวเลือกในเรื่องขนาดตัวเรือนแล้ว คอลเลกชั่น Chronomat สำหรับสุภาพสตรี ยังมาพร้อมความหลากหลายของวัสดุตัวเรือนให้เลือก ทั้งสเตนเลสสตีลสุดเท่ ตัวเรือนสองสีที่แมตช์ได้กับทุกลุค และ Red Gold 18K สุดหรู หรือหากใครที่ชอบประกายระยิบระยับของอัญมณีก็ยังมีรุ่นประดับเพชรที่ขอบตัวเรือนและอินเด็กซ์ พร้อมสายรัดข้อมือ Rouleaux อันเป็นเอกลักษณ์ของ Breitling และตัวล็อกแบบบานพับปีกผีเสื้อ ซึ่งทั้งแข็งแกร่งและสง่างาม

และเช่นเดียวกับนาฬิกา Breitling ทุกเรือน คอลเลกชั่น Chronomat ยังได้รับการรับรองมาตรฐานความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์จากสถาบันซีโอเอสซี (COSC) ด้วยมาตรฐานการผลิตจากสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงคุณสมบัติกันน้ำลึกถึง 100 เมตร

Breitling Navitimer Automatic 35 ที่สุดแห่งความสง่างามของเรือนเวลาสำหรับสตรีผู้มีความเป็นสากล

หากคุณเป็นผู้หญิงที่กำลังมองหาเรือนเวลาที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานและสามารถทำหน้าที่เสมือนเครื่องประดับที่สมบูรณ์แบบในทุกโอกาส เรามั่นใจว่า Navitimer Automatic 35 (เนวี่ไทเมอร์ ออโตเมติก 35) จะเป็นคำตอบที่ตรงใจคุณมากที่สุด ด้วยเอกลักษณ์ความสง่างามและความร่วมสมัยแห่งงานดีไซน์ที่ผสานกลไกจักรกลอันทรงประสิทธิภาพ จนทำให้ Navitimer Automatic 35 กลายเป็นนิยามใหม่ของสุภาพสตรีผู้มีสไตล์และมีความเป็นสากล อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของการสืบทอดธรรมเนียมการผลิตนาฬิกาอันยิ่งใหญ่ของ Breitling อีกด้วย

ความโดดเด่นของนาฬิกา Navitimer Automatic 35 เริ่มตั้งแต่แรงบันดาลใจในการออกแบบขอบหน้าปัดที่ดีไซน์เหมือนลูกปัดซ้อนเรียงกันที่มาจากนาฬิกา Navitimer Ref.806 ส่วนหน้าปัดบอกเวลาแบบ 3 เข็มที่ดูสะอาดตามาจากนาฬิกา Ref.66 ที่เปิดตัวในช่วง 1950s และขอบหมุน Slide Rule ที่เป็นซิกเนเจอร์สไตล์ที่อยู่ในใจของแฟนๆ นาฬิกา Breitling ทั่วโลก รวมถึงดีไซน์ของปลายเข็มวินาทีสีแดงที่ช่วยให้การดูเวลาของนาฬิกาง่ายขึ้น

มาพร้อมความหลากหลายของรูปแบบอย่างมีสไตล์ เพื่อตอบโจทย์ให้กับทุกรสนิยม

Navitimer Automatic 35 มาพร้อม 4 รูปแบบที่แตกต่างที่เหมาะกับทุกรสนิยม และในทุกรูปแบบขับเคลื่อนด้วยกลไก Breitling Caliber 17 ที่สำรองพลังงานได้ประมาณ 38 ชั่วโมง และผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์จากสถาบันซีโอเอสซี (COSC) เหมือนกับนาฬิกา Breitling ทุกเรือน

เริ่มต้นด้วยรุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 35 มม. ที่สามารถเลือกสีหน้าปัดสีน้ำเงินกับสายหนังจระเข้สีน้ำเงิน, หน้าปัดสี copper กับสายหนังจระเข้สีน้ำตาล และหน้าปัดสีเงินกับสายหนังจระเข้สีเบอร์กันดี โดยสายหนังจระเข้จะมีตัวยึดสายให้เลือกแบบหัวเข็มขัดหรือแบบบานพับ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีสายสเตนเลสสตีลรูปแบบเฉพาะของ Navitimer พร้อมบานพับ

ต่อด้วยรุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 35 มม. หน้าปัดมุกสีขาวกับหลักชั่วโมงฝังเพชร มาพร้อมสายหนังจระเข้สีเบอร์กันดีที่มีตัวยึดสายให้เลือกแบบหัวเข็มขัดหรือแบบบานพับ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีสายสเตนเลสสตีลรูปแบบเฉพาะของ Navitimer พร้อมบานพับ 

มาถึงรุ่น 2 Tones ตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 35 มม. และขอบหน้าปัดหมุนได้ 2 ทิศทาง วัสดุ Red Gold 18K และหน้าปัดมุกสีขาวกับหลักชั่วโมงฝังเพชรที่เพิ่มความหรูหราระยิบระยับ พร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำตาลที่มีตัวยึดสายแบบหัวเข็มขัดหรือแบบบานพับ หรือแบบสาย 2 Tones สเตนเลสสตีลกับ Red Gold 18K รูปแบบเฉพาะของ Navitimer พร้อมบานพับ 

และสุดท้ายกับรุ่น Red Gold 18K หน้าปัดมุกสีขาวกับหลักชั่วโมงฝังเพชรที่มาพร้อมสายหนังจระเข้สีน้ำตาลที่มีตัวยึดสายแบบหัวเข็มขัดหรือแบบบานพับ Red Gold 18K หรือแบบสาย Red Gold 18K รูปแบบเฉพาะของ Navitimer พร้อมบานพับแบบปีกผีเสื้อ โดยมีสายหนังจระเข้สีพิเศษ คือ สีเขียวและสีน้ำตาล ให้เลือกซื้อเพิ่มเติมอีกด้วย

พบกับนาฬิกา Breitling คอลเลกชั่น Chronomat และ Navitimer สำหรับสุภาพสตรี ได้ที่บูติก Breitling ชั้น 2 สยามพารากอน โทร. 02-481-9260-1