คุยสบายๆกับ ‘Eddie Redmayne’

โดยณิชกุล กิตยานุพงษ์ Editorial แห่ง BAZAAR MEN
เมื่อผืนน้ำมาบรรจบผืนดิน ก่อกำเนิดงานดีไซน์คลาสสิกที่ดูอ่อนช้อยแต่แข็งแกร่งของ OMEGA Seamaster Aqua Terra เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ และค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองก็ได้เริ่มต้นขึ้น จะเป็นที่ใดไปไม่ได้นอกจากนครแห่งสายน้ำ “เวนิส” ณ Palazzo Pisani Moretta อันยิ่งใหญ่ เฟรนด์ ออฟ โอเมก้า “เอดดี้ เรดเมน” นักแสดงคิวทองที่มีประสบการณ์ยาวนานกับโอเมก้าได้พาไปสัมผัสเรือนเวลาใหม่ล่าสุดที่ทุกคนปรารถนา แต่ก่อนหน้าที่ค่ำคืนสุดพิเศษนี้จะเริ่มขึ้น เอดดี้ได้ให้เกียรติ Harper’s BAZAAR MEN Thailand เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์อันยาวนานที่มีต่อโอเมก้าและวันสุดพิเศษของเขาในเมืองเวนิสแห่งนี้
HB: เล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกกับโอเมก้าให้ฟังหน่อยสิครับ

ER: โอเมก้าเรือนแรกที่ผมมีคือรุ่น De Ville ครับ เป็นของพ่อผมที่เก็บมานานหลายปีแล้ว ตอนนั้นพ่อเคยให้ผมยืมใส่ พอหลังจากนั้นไม่กี่ปีผมก็ได้เป็นเฟซของรุ่น Globemaster มีดีไซน์เรียบหรูที่ผมชอบมาก และปีที่แล้วนี้เองมีรุ่น Aqua Terra ใหม่ออกมา เป็นรุ่นที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบด้วยการผสมผสานน้ำทะเลและแผ่นดินเข้าด้วยกัน แล้วผมก็คิดนี่ผมแล่นเรือไม่ได้เรื่องเลยนิ แต่ผมชอบไอเดียนี้นะครับและก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมชอบโอเมก้าด้วย พวกเขามีประวัติศาสตร์ที่ผมแปลกใจเลยล่ะ คือเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ British Air Corp เลือกใช้ แล้วยังมีนักบินอวกาศใส่ไปดวงจันทร์อีก ผมชอบมาก
HB: ตอนที่เรือแล่นมาถึงที่เวนิสเราเห็นรูปคุณบนป้ายบิลบอร์ดเบ้อเริ่มเลย…

ER: ใช่ครับ โทษทีนะครับ 555

HB: …เป็นเซอร์ไพรส์ที่ชวนมองเลยครับ 55 แล้วตอนถ่ายทำโฆษณาตัวนี้มีเรื่องอะไรสนุกๆ เกิดขึ้นบ้างครับ

ER: ทางโอเมก้าโทรศัพท์มาบอกว่าเราจะไปถ่ายแคมเปญ Aqua Terra กันบนเรือในอิบิซ่า แล้วภรรยาผมก็บอกว่า “อิตาบ้า ฉันอยากทำงานแบบคุณมั่ง” สนุกมากครับ เราได้ล่องเรือหรูออกไปรอบๆ อิบิซ่า ซึ่งตอนนั้นเป็นปลายฤดูร้อน ก่อนหน้านั้นผมทำงานมาหนักสุดๆ ผมเลยบอกภรรยาว่าก็เหมือนได้มาพักผ่อนวันนึงเท่านั้นเอง คือรวบวันหยุดหน้าร้อนมาไว้ในวันเดียว วันแรกผมก็มีกระขึ้นที่หน้าเลย แต่ไม่เยอะหรอกครับ ถึงจะทาครีมกันแดดเยอะแค่ไหน กระก็ยังขึ้นเยอะอยู่ดี แต่เป็นวันที่พิเศษมาก ช่วง 15 นาทีก่อนหมดวัน แสงเหลือน้อยแล้ว ตอนนั้นแหละสวยมาก พอถ่ายเสร็จผมก็ดื่มว็อดก้าผสมจินบนเรือ พอได้ดื่มหลังทำงานมาหนักทั้งวันมันสุดยอดมากเลยครับ
Q: คุณได้รางวัลออสการ์ตั้งแต่ยังวัยหนุ่ม แล้วคุณมีเป้าหมายอื่นๆ ที่อยากพิชิตในอนาคตอีกไหมครับ

ER: มันอาจจะฟังดูน่าเบื่อนะครับ แต่เหตุผลที่ผมมาเป็นนักแสดงเพราะผมรักอาชีพนี้มาตั้งแต่เด็ก ตอนอยู่โรงเรียนผมก็ชอบเล่นละครเวที ผมมีคุณสุขกับโลกนั้นมาก และผมก็ไม่รู้อะไรเรื่องภาพยนตร์เลย ดังนั้นสิ่งที่แปลกคือในชีวิตผมไม่เคยฝันว่าอยากจะชนะออสการ์เลย สิ่งที่วิเศษคือการได้มาทำงาน ได้แสดงหนังไปเรื่อยๆ ตอนได้ออสการ์มันเหมือนความฝันเลย ซึ่งผมไม่เคยคิดว่ามันคือเป้าหมายตั้งแต่แรก ผมไม่เคยตั้งเป้าอะไรแบบนี้หรอกครับ เป้าหมายของผมคือแค่ได้เล่นเป็นตัวละครที่น่าสนใจ และตัวละครที่ซับซ้อน  ถ้านักแสดงคนไหนโชคดีได้เล่นบทดีๆ เขาคงไม่อยากเลิกหรอกครับ
Q: คุณแบ่งเวลาชีวิตที่บ้านกับชีวิตที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เพราะทำงานได้อย่างไรครับ เวลาสำคัญอย่างไรสำหรับคุณ

ER: ส่วนหนึ่งของเป้าหมายผมคือพยายามจะทำให้สองอย่างนี้มันเวิร์ค เวลานี่เป็นสิ่งที่แปลกมากนะครับ ผมเป็นคนที่ต้องการระบบ แล้วพอคุณทำงานหนัง หรือแสดงละคร เป็นงานที่เราต้องมีความรับผิดชอบ อีกอย่างคือถ้าคุณโชคดีพอที่จะได้ทำในสิ่งที่รัก คุณก็คงอยากทำมันไปเรื่อยๆ ถ้าทำได้ สำหรับงานแสดง ผมอยากทำงานนี้มาหลายปีแล้ว แล้วพอได้งาน ผมก็ทำไปเรื่อยๆ ตอนที่ถ่ายทำเรื่อง The Danish Girl ผมกำลังโปรโมตเรื่อง The Theory of Everything  แล้วพอผมถ่ายเรื่อง Fantastic Beast เราก็โปรโมตเรื่อง The Danish Girl ปีที่แล้วผมเลยหยุดพักเกือบทั้งปีเลย ซึ่งพอดีกับช่วงที่ลูกผมเกิด เป็นปีที่สุดยอดมากครับและเป็นเวลาที่ได้กลับมาเริ่มต้นใหม่ แต่ตอนนี้ตารางผมกลับมาแน่นอีกแล้ว หนึ่งวันในเวนิสจึงเป็นเหมือนวันหยุดหน้าร้อนสำหรับผม
Q: มีหนังสือ นักแสดง หรือภาพยนตร์ที่คุณชื่นชอบเป็นพิเศษไหมครับ

ER: อืม มีหลายอย่างเลยครับที่ผมคิดว่าน่าสนใจ มีหนังสือของ Rebecca Solnit เรื่อง A Field Guide to Getting Lost เป็นเล่มที่ดีมาก ผมว่ามันน่าทึ่งสุดๆ ถ้าเป็นนักแสดง ก็มีนักแสดงในยุคผมที่ผมชอบคือ Ben Whishaw ผมมักจะไปดูหนังที่เขาเล่นเสมอ หรือไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ในทีวี และละครเวทีครับ
Q: วันนี้คุณมีเวลา 24 ชม. ในเวนิส ถ้าคุณไม่ได้มาให้สัมภาษณ์นี้ คุณจะทำอะไรอยู่ แล้วคุณฝันว่าหนึ่งวันในเวนิสจะเป็นอย่างไรครับ

ER: ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ผมเรียนประวัติศาสตร์และศิลปะ มีอาจารย์หญิงท่านหนึ่งชื่อ Deborah Howard เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องสถาปัตยกรรมของเวนิสอาจารย์เขียนหนังสือเรียนชื่อ The History of Venetian Architecture ตอนเรียนผมได้มาที่นี่กับอาจารย์บ่อยๆ ครับ ซึ่งทำให้ผมมีความทรงจำดีๆ กับที่นี่เยอะเลย แต่น่าเสียดายผมเป็นพวกสมองขี้เลื่อย พอกลับมาที่เวนิสอีก มันก็มีทั้งความรู้สึกที่ตื่นเต้น และโมโหตัวเองที่ทำไมจำอะไรไม่ได้เลย แต่ที่หนึ่งที่ผมชอบคือ Peggy Guggenheim Museum เพราะผมชอบงานที่นั่น และผมก็ชอบประวัติศาสตร์ของตึก ถ้านั่งเรือผ่านทาง Grand Canal ให้ความรู้สึกเหมือนฮอลลีวู้ดเลย เหมือนเป็นตึกยุค 1930 ผมเองยังนึกเลยว่ามันสร้างในศตวรรษที่ 18 ถ้าผมไม่ได้มาสัมภาษณ์กับคุณ ผมคงไปที่ Doges Palace
Q: ช่วงเดินทาง คุณคิดถึงอะไรที่บ้านมากที่สุด

ER: เปียโนของผมครับ ตอนถ่ายเรื่อง Les Miserables ผมซื้อเปียโนมาตัวนึง เป็นของ Yamaha สีดำตัวใหญ่ ผมตื่นเต้นมาก ผมเอาเงินเก็บมาซื้อหมดเลย พอซื้อมา คนขายก็จะมาเช็คว่าใช้ได้หรือเปล่า แล้วเขาก็มาที่อพาร์ทเมนต์ผม แล้วบอกว่ามันใช้ได้ หลังจากนั้นห้าเดือน มีผู้ชาย 5 คน พยายามจะยกเปียโนขึ้นมาทางบันได เขาบอกว่าทำไม่ได้แน่ๆ ผมก็.. หา?? แต่มันก็ถูกขนเข้ามาทางหน้าต่างได้ในที่สุด คือผมว่าผมคงจะไม่ย้ายออกจากแฟลตนี้ถ้ายังไม่รู้วิธีที่จะย้ายเปียโนออกนะครับ (หัวเราะ)
ตอนคุณเล่นเปียโนหรือวาดภาพ…มีบางอย่างในชีวิตที่คุณต้องให้ความสนใจกับมันจริงๆ คือคุณต้องไม่คิดเรื่องอื่นเลยนะครับ ผมคิดถึงช่วงเวลานั้นมาก
Q: คุณใช้สไตลิสต์ไหมครับ

ER: ปกติไม่นะครับ แต่ตอนถ่ายแคมเปญโอเมก้าผมได้ทำงานกับผู้ชายคนหนึ่งชื่อ Dan May ตอนถ่ายทำ คุณต้องทำงานกับสไตลิสต์ แต่ถ้าไปอีเวนต์ผมจะไม่ใช้สไตลิสต์ หรือถ้าไปที่ไหนที่ต้องเป็นตัวเอง เพราะไม่งั้นคุณจะรู้สึกเหมือนเป็นไอ้งั่งที่ใส่เสื้อผ้าคนอื่น ซึ่งสิ่งที่ดีคือมีแบรนด์ดีๆ ที่เวลาเราไปซื้อ เราก็ขอเขาลองได้ แล้วเขาก็มีช่างที่ปรับไซส์ให้พอดี แต่ปกติแล้วผมไม่ใช้สไตลิสต์ครับ
Q: ปกติคุณจะแพ็คอะไรไปตอนเดินทางนอกจากนาฬิกา

ER: ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบทหนัง เอาไว้ท่องบนเครื่องบิน ถึงตอนนี้บนเครื่องบินจะมีอินเตอร์เน็ทก็เถอะ แต่ผมชอบนะเวลาอยู่บนเครื่องบินจะมีแต่หนังห่วยๆ เราเลยเหมือนถูกบังคับให้อ่าน แต่ตอนนี้วิธีนี้ก็ยากเต็มทีแล้วครับ เพราะส่วนใหญ่เขาจะอัพโหลดบนลงระบบในคอมพิวเตอร์เพื่อไม่ใช่ใครเข้ามาลอกอินอ่านได้ แต่ผมชอบสคริปต์แบบกระดาษเพื่อจะได้ใช้ดินสอเขียนโน้ตลงไปได้
Q: สำหรับคุณ นาฬิกาโอเมก้าแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างไร

ER: ผมเริ่มรู้จักโอเมก้าเพราะพ่อผมมีรุ่น De Ville ที่สวยและดูเรียบหรู พ่อผมใส่อยู่หลายปีเลยล่ะครับ ซึ่งทำให้ผมรู้เลยว่านาฬิกาที่ดีควรเป็นยังไง พอผมโตขึ้นและได้รู้เรื่องนาฬิกามากขึ้น ผมก็ชอบเรื่องราวของโอเมก้ามากๆ ผมโชคดีที่ได้รู้เรื่องในประวัติศาสตร์ว่าใครได้ทำอะไรบ้าง อย่าง British Flying Corp นาซ่าและโอลิมปิกส์ ผมว่ามันน่าทึ่งมาก มีทั้งด้านประวัติศาสตร์และด้านการออกแบบที่เรียบหรู

“ผมเป็นพวกที่หลงใหลประวัติศาสตร์ความเป็นมา และผมตกหลุมรักความรุ่มรวยมรดกทางเรือนเวลาที่โอเมก้ามีครับ” เอดดี้กล่าวทิ้งท้าย ก่อนที่เราจะแยกจากเพื่อพบกันอีกครั้งในงานดินเนอร์เปิดตัวคอลเลกชั่น Aqua Terra ของ OMEGA ณ Palazzo Pisani Moretta ในค่ำคืนนี้

TAG

Related Stories

พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้มากมาย ที่มาร่วมงานเปิดไฟต้นคริสต์มาส ณ ลาน พาร์ค พารากอน
เมื่อ Balenciaga city bag ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกระเป๋าที่มีทุกบ้านกำลังจะกลับมา
Van Cleef & Arpels : Time, Nature, Love พาชมความงามของเครื่องประดับชั้นสูงผ่านนิทรรศการที่ถักทอไว้ด้วยเรื่องราวแห่งเวลา ธรรมชาติ และรัก
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
ปีใหม่นี้เตรียมฟังอัลบั้มเต็มชุดใหม่จากผู้ชายคนนี้ได้เลย
กระเป๋าจากวัสดุเดนิม ที่ผสมผสานความคลาสสิคเข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
เดินทางสำรวจการสร้างสรรค์ผลงานของ Hermès กับงานฝีมือสุดประณีตที่ได้ถ่ายทอดผ่านเรื่องราวอันยาวนาน

Most Viewed

สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
รีสอร์ทหรูแห่งใหม่ที่พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนระดับอัลตร้าลักชูรีท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
รีสอร์ทหรูแห่งใหม่ที่พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนระดับอัลตร้าลักชูรีท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
เหมือนกับเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่านี่คือยุคของ BLACKPINK อย่างแท้จริง

MORE FROM

พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้มากมาย ที่มาร่วมงานเปิดไฟต้นคริสต์มาส ณ ลาน พาร์ค พารากอน
เมื่อ Balenciaga city bag ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกระเป๋าที่มีทุกบ้านกำลังจะกลับมา
Van Cleef & Arpels : Time, Nature, Love พาชมความงามของเครื่องประดับชั้นสูงผ่านนิทรรศการที่ถักทอไว้ด้วยเรื่องราวแห่งเวลา ธรรมชาติ และรัก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว