DIOR Spring 2022 ปลุกความเป็น 60s ด้วยเดรสตัวสั้นและสีสันสดใสที่เป็นคำตอบของฤดูร้อนหน้า

อาคารทรงกล่องสีขาวครีมขนาดมหึมาขนาด 50×50 เมตร พร้อมอักษร DIOR ประดับอยู่หน้าประตูทางเข้า ถูกสร้างอย่างเรียบง่าย(แต่ยิ่งใหญ่)ครอบลานน้ำพุ ณ Place de la Concorde บริเวณปลายสุดของสวน Tuileries กลางมหานครปารีส คือสถานที่จัดแสดงแฟชั่นโชว์ Dior Ready-to-Wear Spring-Summer 2022 โชว์สำคัญโชว์หนึ่งของสัปดาห์แฟชั่นแห่งกรุงปารีส https://www.youtube.com/embed/fuwTQ2BCNOo” title=”YouTube video player” frameborder=”0″ allow=”accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture” allowfullscreen> คลื่นนักข่าวและแฟนคลับจำนวนมหาศาลที่รอการปรากฏตัวของนักร้องสาว K-pop ชื่อดัง JiSoo ที่บินตรงจากโซลมาปารีสเพื่อร่วมชมโชว์ Dior Spring 2022 โดยเฉพาะในฐานะโกลบอลแอมบาสเดอร์ของแบรนด์อย่างเป็นทางการ เสียงกรี๊ดจากแฟนคลับและคลี่นนักข่าวที่วิ่งกรูไปลั่นชัตเตอร์เป็นสัญญาณว่า แขกฟรอนต์โรว์คนสำคัญของแบรนด์ได้มาถึงงานแล้ว JiSoo ปรากฏกายในชุดเดรสแขนกุดตัวสั้นสีขาวผ้าวูลผสมซิลค์ลวดลายแบบกรีก จากคอลเลคชั่น Dior Cruise 2022 พร้อมถือกระเป๋า mini Lady Dior (ที่คาดว่าน่าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่ายิ่งกว่าเดิมหลังจากนี้)

เพียงเมื่อเราก้าวเท้าเข้ามาสู่ด้านในของอาคารทรงกล่องสีขาว เราจะพบกับอีกโลกหนึ่ง ที่แสนจะแตกต่างจากรูปทรงอาคารอันเรียบเท่ภายนอก ด้วยสีสันที่สดใสและแสงไฟจากดิสโก้บอลที่สาดส่องไปทั่วบริเวณ ฤดูกาลนี้ Maria Grazia Chiuri ร่วมงานกับศิลปินรับเชิญชาวอิตาเลียนจากแคว้น Calabria ทางตอนใต้ของอิตาลี วัย 85 ปี Anna Paparatti ที่เรียกได้ว่าเป็นคนสำคัญใน Art scene ของกรุงโรมใรทศวรรษที่ 1960s ที่เธอเนรมิตการตกแต่งภายในโชว์สเปซให้เป็นบอร์ดเกมส์บันไดงูขนาดยักษ์(ที่ใช้เป็นรันเวย์) รวมไปถึงผนังที่ตกแต่งด้วยงานกราฟฟิกที่วาดมือขึ้นมาใหม่ทั้งหมด พร้อมไฟดิสโก้ และการแสดงดนตรีสดๆจากวง Il Quadro di Troisi

ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อพาเราย้อนกลับเข้าไปสู่บรรยากาศของไนท์คลับที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงโรมในยุค 60s Piper Club (เปรียบได้กับ Studio 54 ฝั่ง New York และ Le Palace ของ Paris) ซึ่งเป็นไนท์คลับที่คนที่เก๋ที่สุดของชาวโรมในยุคนั้นจะมารวมตัวกัน บรรดาเหล่าคนที่มีชื่อเสียง ดารานางแบบ ศิลปิน นักปรัชญาจะมาดื่มและเต้นรำหรือแม้แต่การพูดคุยถกเถียงกันในเรื่องปรัชญาที่ลึกซึ้ง Maria Grazia Chiuri ต้องการเล่าถึงสปิริตของความอิสระเสรี การผสมผสานเข้ากันได้อย่างดีระหว่าง art และ fashion รวมไปถึงแนวคิดที่ทุกคนไร้อคติและไม่ตัดสินกันเมื่อทุกคนมาสนุกอยู่ด้วยกันที่คลับ

แรงบันดาลใจของเซตติ้งในโชว์ครั้งนี้ สอดรับกันกับเสื้อผ้าที่มาจากแรงบันดาลใจจากยุคเดียวกันแบบ 60s Youthquake ในฝั่งปารีส Slim Look collection ที่ปรากฏโฉมครั้งแรกในปี 1961 ยุคที่ Marc Bohan เข้ามารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของ dior ที่หนังสือพิมพ์ในยุคนั้นเขียนถึงคอลเลคชั่นนี้ของเขาว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงแฟชั่นครั้งสำคัญของยุคเหมือนดังที่ Dior New Look เคยทำได้ในปี 1947 การเพิ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบบพร้อมขายเป็นครั้งแรกแบบไม่ต้องสั่งตัดแบบกูตูร์เท่านั้น และความคิดที่เด็กลงและอิสระขึ้น Maria Grazia Chiuri เห็นความเชื่อมโยงระหว่างตัวเธอและ Marc Bohan ที่นำเสนอสิ่งใหม่ๆให้กับห้องเสื้อระดับตำนานของปารีสแห่งนี้เหมือนกันในอีก 60 ปีต่อมา

เสื้อผ้าในฤดูกาลนี้มาในแอตติจูดที่ คลีนขึ้น เรียบขึ้น มีความมินิมอล กราฟฟิค คัลเลอร์บล็อค สีที่สดใสและตัดกัน ซิลูเอตที่สำคัญของซีซั่นนี้คือเสื้อผ้าในทรง A line แบบ 60s สีสดอย่างสีเหลือง เขียว แดง เนวี่ และส้ม เป็นสีหลักคู่กับสีหลักยืนพื้นอย่างดำและขาว

เดรสสั้น เสื้อแจ๊คเก็ตที่ตัดอย่างคมกริบสั้นพอดีตัวใส่กับกระโรงสั้นทรงเอสีเดียวกันทั้งตัว ดูสดใส เด็กลง เหมาะกับชุดเป็นวันทำงานที่ไม่เรียบร้อยและน่าเบื่อจนเกินไป

เสื้อโค้ทตัวสั้นในทรงคลาสสิคที่น่าจะใส่ได้บ่อยเหมาะเป็นโค้ทในวันที่ไม่หนาวมาก ดูเป็นชิ้นที่น่าลงทุนชิ้นนึงสำหรับฤดูกาลหน้า

หรือแม้แต่ลุคสำหรับไปพักผ่อนในรีสอร์ตแบบ กางเขงขาสั้นแบบทรงนักมวยใส่กับสปอร์ทบาร์คลุมด้วยเสื้อเชิร์ทตัวสั้นสีเดียวกันแบบเข้าชุด

สำหรับรองเท้าในซีซั่นหน้าสาวๆก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเมื่อยขาเพราะคอลเลคชั่นนี้ รองเท้าทุกคู่ในโชว์ล้วนเป็นรองเท้าแบบที่ส้นแบนที่เป็นมิตรต่อการเดินทั้งสิ้น

ส่วนกระเป๋า mini และ micro แบบต่างๆ ยังคงเก๋ครองรันเวย์อยู่และมาในสีสันจี๊ดจ๊าดแบบน่ารักสุดๆ และสิ่งที่เซอร์ไพรส์อีกชิ้นในซีซั่นนี้เราเห็นกระเป๋าสไตล์ bowling bag กลับมาที่ Dior อีกครั้งหลังจากที่เราไม่ได้เห็นเสียนานตั้งแต่ Dior by Galliano ช่วงต้นของยุค 2000s คอลเลกชั่นนี้เป็นอีกครั้งที่ Maria Grazia Chiuri ทำให้เราเห็นว่าเธอรู้จักเข้าใจความต้องการผู้หญิงจริงๆ