รวบโชว์เด่นประจำคอลเลกชั่น Spring/ Summer 2021จาก Milan Fashion Week
เมื่อโลกเปลี่ยน แฟชั่นก็เปลี่ยนตาม
แม้ว่าในปี 2020 ที่เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดมากมาย ซึ่งหนักที่สุดก็คงจะเป็นเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตไปโดยสิ้นเชิง และถ้าโลกได้เปลี่ยนไปเช่นนั้น แฟชั่นก็จำต้องผันเปลี่ยนตามเช่นกัน และสำหรับการประเดิมศักราชใหม่แห่งวงการแฟชั่น หรือที่รู้จักในนาม First Month of Fashion กับคอลเลกชั่น Spring/Summer 2021 ที่ครั้งนี้เหล่าดีไซเนอร์ได้ต่างพร้อมใจเสาะหาแง่มุมใหม่ที่จะการนำเสนอผลงาน หรือบอกเล่าแรงบันดาลใจให้ออกนอกกรอบจากสิ่งเดิมที่ทำมา และนอกจากนั้นยังเป็นการเผยรูปแบบแฟชั่นโชว์ที่น่าสนใจกว่าทุกครั้ง อย่างตอนนี้ที่กลายเป็นศัพท์ฮิตติดปากอย่าง Visual Fashion Show ซึ่งจะมีโชว์ไหนที่น่าสนใจกันบ้าง เราได้คัดสรรมาไว้ให้แล้ว
Max Mara
สำหรับคอลเลกชั่นนี้ Ian Griffiths ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แห่งแบรนด์ได้ปฏิวัตินิยามใหม่ของความคลาสสิค สืบเนื่องมาจากช่วงโควิด-19 ที่ทุกคนต่างหวนเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ถึงอย่างไรนั้นความสบายภายใต้ชายคาของ Max Mara ก็ไม่สามารถลบในเรื่องของคัตติ้งอันเลื่องชื่อของแบรนด์ แม้ว่าไม่มีลุคแทร็กสูท แต่ลุคที่ปรากฏให้เห็นบนรันเวย์กลับสร้างความสบายตากว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อย่างเบลเซอร์ที่ได้ตัดต่อช่วงแขนพร้อมเพิ่มสายอิลาสติกเพื่อให้สวมใส่สบายยิ่งขึ้น นอกจากนั้นซิลลูเอตที่เห็นล้วนหลวมโคร่ง แต่แฝงไปด้วยความฟอร์มัลที่สามารถใส่ไปประชุมครั้งสำคัญก็ยังได้
Versace
ภายใต้แนวคิด New World ที่สอดคล้องกับยุค New Normal ได้บอกเล่าเรื่องราวว่าทุกชีวิตบนโลกต้องจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งได้ถือกำเนิดใหม่ขึ้นมาอีกครั้งผ่านอารยธรรมแห่ง Versace ด้วยการเอาลายพิมพ์จากคอลเลกชั่นอันโด่งดังจากปี 1992 ที่ชื่อว่า ‘trésors de la mer’ ที่แปลว่าขุมทรัพย์แห่งท้องทะเล มาผสมผสานกับองค์ประกอบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทลเดรส สูทหลากสี และลวดลายแบบชนเผ่า เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าโลกใหม่นี้หนุ่มสาวแห่ง Versace นั้นจะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
Moschino
ไม่มีอะไรหยุดความคิดสร้างสรรค์ของพ่อมดแห่งแฟชั่น Jeremy Scott ได้ เพราะล่าสุดเขาได้เนรมิตรรันเวย์ขนาดย่อมเพื่อใช้นำเสนอคอลเลกชั่นในครั้งนี้ โดยใช้นางแบบเป็นหุ่นเชิดที่มีขนาดความสูงประมาณฟุตครึ่ง พร้อมเหล่าแขกฟร้อนท์โรว์ เพื่อสะท้อนให้ราวกับโชว์นี้มีชีวิตจริงๆ ในระยะเวลาความยาว 7.40 นาทีของโชว์ ที่สามารถดูได้อย่างเพลิดเพลินไม่มีเบื่อ นอกจากนั้นซิลลูเอตในครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 1950 ที่นับว่าเป็นยุคที่งดงามที่สุดของประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกาย มาลดทอนองค์ประกอบ (ซึ่งถ้าเทียบกับคอลเลกชั่นก่อนหน้าก็ถือว่าเจเรมี่ได้ลดแล้ว) ให้เข้ากับยุคสมัย สมกับเป็นการตั้งบรรทัดฐานใหม่แห่งวงการแฟชั่น เหมือนครั้งที่มิสเตอร์ ดิออร์ ได้รังสรรค์ New Look
Salvatore Ferragamo
Less But Better คือสิ่งที่ Paul Andrew ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ยึดมาเสมอ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ผลงานของเขาในคอลเลกชั่น Spring/Summer 2021 แฝงไปด้วยความนิ่ง แต่โดดเด่น เพราะว่าคีย์หลักในครั้งนี้อยู่ดีเทลที่บรรจงใส่ไปในแต่ละไอเท็ม อย่างเทคนิคการวางผ้า คัตติ้งคมกริบ เลเซอร์คัต งานถักทอมือ และการทรีตผืนหนังให้ออกมาบางสวยเหมือนผ้าทอ นอกจากนั้นอีกหนึ่งจุดเด่นก็คือการจับคู่สีสันให้ทั้งคอลเลกชั่นนี้มีความกลมกล่อมต้อนรับฤดูกาลซัมเมอร์