จากมิลานสู่ปารีส! เมื่อแฟชั่นเฮ้าส์เก่าแก่จากแดนพาสต้าอย่าง Gucci ได้พลิกหน้าประวัติศาสตร์ของแบรนด์โดยการย้ายไปจัดแฟชั่นโชว์ครั้งแรกที่ปารีส ณ Théâtre Le Palace โรงละครในใจกลางกรุงปารีสที่เคยเป็นคลับในยุค ‘70s และ ‘80s ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนยุคใหม่ในวงการเพลงและแฟชั่น

กระเป๋ารูปทรงมิกกี้เม้าส์ แว่นกันแดดทรงโอเวอร์ไซส์ ฟริ้นจ์แมทัลลิกสีจัดจ้านสะท้อนกับแสงไฟ นกกระตั้วเป็นๆ ที่เกาะอยู่บนไหล่ของนางแบบ กระจับปักลายเปลือกหอยและเสื้อผ้าที่ไร้ขีดจำกัดของเพศ นี่คือความสนุกปนความดาร์กที่ Alessandro Michele อยากนำเสนอในคอลเลกชั่น Spring/Summer 2019


Jared Leto, Kai จากวง EXO, Jorja Smith, Salma Hayek และเหล่าเซเลบริตี้ส์ที่มาร่วมงานก็แต่งตัวมาประชันกันในโททัลลุคจาก Gucci
ครีเอทีฟไดเรกเตอร์มือทองยังได้เตรียมเซอร์ไพรส์มาให้คนดูด้วยการเชิญ Jane Birkin แฟชั่นไอคอนและนักร้องวัย 71 ปีแห่งยุค ‘60s มาแฝงตัวเป็นผู้ชมและลุกขึ้นมาร้องเพลงขั้นกลางโชว์ท่ามกลางคนดู! โดยเธอเลือกบทกลอนมาอ่านและร้องผสานท่วงทำนองเป็นบทเพลง “Baby Alone in Babylone” สำหรับโชว์นี้โดยเฉพาะ

ปิดท้ายด้วยโมเม้นต์น่ารักๆ ที่อเลซซานโดรเดินไปขอบคุณพร้อมสวมกอดเจนที่อย่างอบอุ่นในช่วงฟินาเล่ของโชว์

ชมทุกลุคจากรันเวย์ Gucci Spring/Summer 2019 ได้ที่นี่
เริ่มโชว์ด้วยภาพยนตร์สั้นที่ดูไปก็ขนลุกไป เพราะนางแบบและนายแบบในวิดีโอนั้นออกท่าทางที่ดูแล้วหลอนอย่างบอกไม่ถูก เมื่อหนังสั้นจบปุ๊ปนางแบบก็เดินออกมาทันทีด้วยลุคแรกที่ดูเป็นแนว ‘70s ที่เป็นเดรสปักเลื่อมสีแดงสด ประดับด้วยผ้าพันคอขนนกและหมวกปีกกว้าง โดยคอลเลกชั่นนี้ Alessandro Michele ต้องการจะถ่ายทอดเรื่องราว The Story of Leo and Perla: Leo De Berardinis และ Perla Peragallo ที่ฉีกกฎเกณฑ์ของการแสดงละครเวทีแบบเดิมๆ เพื่อลองอะไรใหม่ๆ กับบทละครของ Shakespeare ใช่วงกลางยุค 60’s ความ avant-garde ของพวกเขาแฝงไปด้วยเนื้อหาของความรุนแรงและปลุกปั่น ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ คือ La Faticosa messinscena dell’Amletto di Shakespeare, ‘The Difficult Staging of William Shakespeare’s Hamlet’ ผ่านคอลเลกชั่นนี้View this post on InstagramA post shared by Gucci (@gucci) on




