ในฐานะที่เพิ่งผ่านวันน้ำหอมสากล (21 มีนาคม) เราได้ถาม 8 ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอมถึงเทรนด์กลิ่นใหม่ๆ ที่ฉีดแล้วชิค แถมยังหรูหรา ซึ่งเป็นส่วนผสมที่คุณจะได้เห็นบ่อยๆ ในน้ำหอมออกใหม่ๆช่วงนี้

1.Juicy and Fruity
What to wear now: “ตอนนี้หลายแบรนด์เริ่มใช้กลิ่นจากธรรมชาติของผลไม้อย่างเสารส แบล็กเคอร์เร้นต์ และรูบับ เมื่อได้กลิ่นแล้วเหมือนได้หนีเข้าไปในป่าสวย สะอาด สดชื่น และน้ำหอมแบบนี้ยังปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อคงความเป็นธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยม” –Nathalie Benareau, Symrise
Our Pick: Hermès Eau De Rhubarbe Ecarlate
2. Coffee Essence
What to wear now: “เทรนด์ของส่วนผสมส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นได้ 2 แบบ บางครั้งกำหนดโดยผู้บริโภค (รวมถึงนักปรุงน้ำหอมอย่างฉัน) ที่เริ่มหันมาสนใจกลิ่นหอมของอาหาร หรืออาจจะมาจากส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพและจิตใจ เลยทำให้นักปรุงน้ำหอมหยิบส่วนตรงนี้ขึ้นมา เมื่อไม่กี่ปีก่อนทับทิบเป็นส่วนผสมที่ใช้บ่อยมาก ส่วนตอนนี้ทุกคนหันไปเล่นกับกลิ่นกัญชา แต่ส่วนตัวแล้วฉันชอบสารสกัดจากการแฟป่าแบบคั่วบด 100% ซึ่งให้กลิ่นไม้แบบเข้มข้น คุกรุ่น บางครั้งก็ให้อารมณ์เหมือนของกินหรือควันไม้ที่ใช้กับเพศไหนก็ได้” – Patricia Choux, MANE
Our pick: Yves Saint Laurent Black Opium Eau de Parfum
3.Sustainable Scents
What to wear now: “คนเริ่มให้ความสนใจกับความชัดเจนและความโปร่งใสในการปรุงน้ำหอมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่มาที่ไปของวัตถุดิบที่ทำให้น้ำหอมโดดเด่นไม่เหมือนใคร บวกกับขณะนี้สังคมเริ่มใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องบอกเรื่องราวของการได้วัตถุดิบ และคุณประโยชน์ที่เราให้กลับคืนต่อชุมชนให้แหล่งปลูกนั้นๆ” – Donna Ramanauskas, Robertet
Our Pick: Sana Jardin Discovery Set
4.Warm Skin Scents
What to wear now: มักส์และอำพันอบอุ่นที่ละมุนเบาบาง “บางคนมอบหาความอบอุ่นท่ามกลางโลกดิจิทัลแสนเย็นชา และส่วนผสมที่มีกลิ่นเหมือน ‘ผิว’ (อาจช่วยเติมเต็มตรงส่วนนั้นได้) กลิ่นเอิร์ธตี้ของอำพันช่วยให้ความอบอุ่นที่ทำให้เราสบายใจขึ้นได้” -Adriana Medina, Givaudan
Our Pick: Clean Reserve Amber Saffron
5.Greenery
What to wear now: “กลิ่นพรรณไม้ คนเริ่มสนใจความเป็นธรรมชาติในทุกๆ ด้าน และผลลัพธ์คือความต้องการน้ำหอมที่สะท้อนถึงคุณสมบัติเหล่านี้” – Frank Voelkl, Firmenich
Our Pick: AERIN Beauty Éclat de Vert Parfum
6.Raw Fragrance
What to wear now: น้ำหอมดิบ “เราเห็นว่าผักและพืชมีอิทธิพลต่อวงการน้ำหอมมาก ส่วนผสมที่ติดดินอย่างบีทรูท และแครอท ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับไลฟ์สไตล์ของคนสายสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผัก น้ำดีท็อกซ์ หรือเครื่องเดื่มที่มีส่วนผสมของเห็ด เหมือนกันกับน้ำหอมที่เราเเทบกวาดของในช่องใส่ผักมาทำ” -Sabine de Tscharner, Firmenich
Our pick: Demeter Beetroot
7. Patchouli
What to wear now: “ฉันมองว่าแพตชูลีเป็นกลิ่นเดียวที่โดดเด่น” -Jean-Marc Chaillan, IFF
Our Pick: Le Labo Patchouli 24
8.Leather
What to wear now: น้ำหอมแนวมาสคิวลีน “แมกไม้, อู้ด และเครื่องหนัง คือส่วนผสมของน้ำหอมยอดนิยมตลอดกาลอย่างLe Labo Santal 33, Tom Ford Tuscan Leather และ Dolce & Gabbana Velvet Oud เป็นกลิ่นช่วยให้ผู้คนคุ้นเคยกับกลิ่นที่ไม่ได้จัดกลุ่มโฟกัส [เพื่อให้พวกเขา] ซึ่งไม่ฟรุ๊ตตี้หรือหวานเกินไป.” -Celine Barel, IFF
Our Pick: Tom Ford Tuscan Leather

What to wear now: “ตอนนี้หลายแบรนด์เริ่มใช้กลิ่นจากธรรมชาติของผลไม้อย่างเสารส แบล็กเคอร์เร้นต์ และรูบับ เมื่อได้กลิ่นแล้วเหมือนได้หนีเข้าไปในป่าสวย สะอาด สดชื่น และน้ำหอมแบบนี้ยังปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อคงความเป็นธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยม” –Nathalie Benareau, Symrise
Our Pick: Hermès Eau De Rhubarbe Ecarlate

What to wear now: “เทรนด์ของส่วนผสมส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นได้ 2 แบบ บางครั้งกำหนดโดยผู้บริโภค (รวมถึงนักปรุงน้ำหอมอย่างฉัน) ที่เริ่มหันมาสนใจกลิ่นหอมของอาหาร หรืออาจจะมาจากส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพและจิตใจ เลยทำให้นักปรุงน้ำหอมหยิบส่วนตรงนี้ขึ้นมา เมื่อไม่กี่ปีก่อนทับทิบเป็นส่วนผสมที่ใช้บ่อยมาก ส่วนตอนนี้ทุกคนหันไปเล่นกับกลิ่นกัญชา แต่ส่วนตัวแล้วฉันชอบสารสกัดจากการแฟป่าแบบคั่วบด 100% ซึ่งให้กลิ่นไม้แบบเข้มข้น คุกรุ่น บางครั้งก็ให้อารมณ์เหมือนของกินหรือควันไม้ที่ใช้กับเพศไหนก็ได้” – Patricia Choux, MANE
Our pick: Yves Saint Laurent Black Opium Eau de Parfum

What to wear now: “คนเริ่มให้ความสนใจกับความชัดเจนและความโปร่งใสในการปรุงน้ำหอมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่มาที่ไปของวัตถุดิบที่ทำให้น้ำหอมโดดเด่นไม่เหมือนใคร บวกกับขณะนี้สังคมเริ่มใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องบอกเรื่องราวของการได้วัตถุดิบ และคุณประโยชน์ที่เราให้กลับคืนต่อชุมชนให้แหล่งปลูกนั้นๆ” – Donna Ramanauskas, Robertet
Our Pick: Sana Jardin Discovery Set

What to wear now: มักส์และอำพันอบอุ่นที่ละมุนเบาบาง “บางคนมอบหาความอบอุ่นท่ามกลางโลกดิจิทัลแสนเย็นชา และส่วนผสมที่มีกลิ่นเหมือน ‘ผิว’ (อาจช่วยเติมเต็มตรงส่วนนั้นได้) กลิ่นเอิร์ธตี้ของอำพันช่วยให้ความอบอุ่นที่ทำให้เราสบายใจขึ้นได้” -Adriana Medina, Givaudan
Our Pick: Clean Reserve Amber Saffron

What to wear now: “กลิ่นพรรณไม้ คนเริ่มสนใจความเป็นธรรมชาติในทุกๆ ด้าน และผลลัพธ์คือความต้องการน้ำหอมที่สะท้อนถึงคุณสมบัติเหล่านี้” – Frank Voelkl, Firmenich
Our Pick: AERIN Beauty Éclat de Vert Parfum

What to wear now: น้ำหอมดิบ “เราเห็นว่าผักและพืชมีอิทธิพลต่อวงการน้ำหอมมาก ส่วนผสมที่ติดดินอย่างบีทรูท และแครอท ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับไลฟ์สไตล์ของคนสายสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผัก น้ำดีท็อกซ์ หรือเครื่องเดื่มที่มีส่วนผสมของเห็ด เหมือนกันกับน้ำหอมที่เราเเทบกวาดของในช่องใส่ผักมาทำ” -Sabine de Tscharner, Firmenich
Our pick: Demeter Beetroot

What to wear now: “ฉันมองว่าแพตชูลีเป็นกลิ่นเดียวที่โดดเด่น” -Jean-Marc Chaillan, IFF
Our Pick: Le Labo Patchouli 24

What to wear now: น้ำหอมแนวมาสคิวลีน “แมกไม้, อู้ด และเครื่องหนัง คือส่วนผสมของน้ำหอมยอดนิยมตลอดกาลอย่างLe Labo Santal 33, Tom Ford Tuscan Leather และ Dolce & Gabbana Velvet Oud เป็นกลิ่นช่วยให้ผู้คนคุ้นเคยกับกลิ่นที่ไม่ได้จัดกลุ่มโฟกัส [เพื่อให้พวกเขา] ซึ่งไม่ฟรุ๊ตตี้หรือหวานเกินไป.” -Celine Barel, IFF
Our Pick: Tom Ford Tuscan Leather