ดื่มด่ำไปกับการเต้นรำบนดวงจันทร์ของ Marion Cotillard ผ่านกลิ่นน้ำหอม Chanel N°5

CHANEL เขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ให้กับนํ้าหอม N°5 (นัมเบอร์ไฟว์) ซึ่งเป็นนํ้าหอมระดับตํานานของแบรนด์ ภายใต้การดูแลของโตมาส์ ดู เพร เดอ แซ็งต์ โมร์ (Thomas du Pré Saint Maur) ผู้ดํารงตําแหน่ง Head of Global Creative Resources Fragrance and Beauty นํ้าหอมกลิ่นนี้สะท้อนภาพของผู้หญิงที่โดดเด่นในยุคของเธอ ผู้เต็มไปด้วยพลังของ ความเปล่งประกายที่สอดคล้องไปกับพลังดึงดูดของดวงจันทร์ โตมาส์ ดู เพร เดอ แซ็งต์ โมร์ เลือกนักแสดงชื่อดังอย่าง มาริยง โคทิยาร์ (Marion Cotillard) มาเป็นตัวแทนของผู้หญิงคนนี้ และมอบหมายให้ผู้กํากับภาพยนตร์ โยฮัน เรงก์ (Johan Renck) รับหน้าที่เล่าเรื่องนี้

มาริยงได้เดินตามรอยของสตรีผู้ยิ่งใหญ่อีกหลายคนที่เคยเป็นตัวแทนของนํ้าหอม Chanel N°5 ที่ปฏิวัติวงการนี้ในอดีต

“เราเลือกมาริยงแบบไม่ต้องคิดเลยครับ” โตมาส์ ดู เพร เดอ แซ็งต์ โมร์ อธิบาย “การกลับไปหานักแสดงฝรั่งเศสหมายถึงการ กลับไปหาภาพของความเฟมินีนแบบฝรั่งเศสซึ่งฝังอยู่ในจิตใต้สํานึก ซึ่งเป็นภาพที่ผูกพันอยู่กับจิตวิญญาณของแบรนด์” นี่ก็นับเป็นครั้งแรกที่มีนักแสดงหญิงดีกรีรางวัลออสการ์ฺมารับหน้าที่เป๋นตัวแทนของนํ้าหอม “ฉันรู้สึกเชื่อมโยงกับนํ้าหอม N°5 ทันที นี่เป็นมากกว่านํ้าหอม แต่เป็นเหมือนงานศิลปะ เป็นสิ่งที่ฉันฝันมาตลอดเลยค่ะ” มาริยงกล่าว มาริยงได้เดินตามรอยของสตรีผู้ยิ่งใหญ่อีกหลายคนที่เคยเป็นตัวแทนของนํ้าหอมที่ปฏิวัติวงการนี้ในอดีต อย่างเช่น Marilyn Monroe ที่ได้กล้าออกมาพูดเกี่ยวกับความเปลือยเปล่าที่ประดับด้วยกลิ่นหอมของนํ้าหอม N°5 ในปี 1954 ตามมาด้วย Catherine Deneuve, Carole Bouquet และ Nicole Kidman 

การตัดสินใจพานํ้าหอม N°5 เดินทางสู่ดวงจันทร์

ผู้กํากับผู้กล้าบ้าบิ่นอย่างโยฮัน เรงก์ (Johan Renck) ได้พาน้ำหอมไปยังดวงจันทร์ที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับฉากเท่านั้น แต่ยังถือเป็นอีกหนึ่งคาแร็กเตอร์ในบทใหม่ของนํ้าหอม N°5 นี้ ดวงจันทร์จาก ฟากฟ้าที่เชื่อมโยงกับความเป็นเฟมินีนถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ ช่วงเทศกาลฮอลิเดย์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสําหรับ แคมเปญนี้เชิญชวนให้ทุกคนวาดฝัน เป็นจินตนาการที่สอดคล้องกับสารหลักที่นํ้าหอม N°5 ตั้งใจจะสื่อ 

หญิงลึกลับคนหนึ่งที่ปรากฏกายในเสื้อคลุมสีดํา เธอเดินไปบนสะพานแห่งหนึ่งในปารีสที่ปกคลุมด้วยหิมะในคืนพระจันทร์เต็มดวง อะไรก็เกิดขึ้นได้ แล้วอยู่ดีๆ ใบหน้าของเธอก็สว่างไสวด้วยภาพสะท้อนที่สะกดสายตาของร่างขนาดมหึมาที่มาจากฟากฟ้า เธอจ้องร่างนั้นอย่างไม่วางตา แล้วอยู่ดีๆ เธอก็อยู่บนดวงจันทร์ในชุดเดรสแสนสวย เผชิญหน้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่รอเธออยู่

คู่รักเริ่มออกเต้นอย่างเบิกบานและดูซุกซนอยู่ในที ทั้งคู่ยั่วยวนกันและกัน และปล่อยใจให้เตลิด จนกระทั่งถึงช่วงฟินาเล่ที่ทั้งคู่ออกโบยบินไปพร้อมกัน แล้วเธอก็กลับมายังสะพานเดิมอีกครั้ง เมื่อเธอหันหลังกลับ เธอก็พบว่าผู้ชายคนเดิมยังอยู่ข้างๆ ทั้งคู่มองตากันและยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ ความฝันได้กลายมาเป็นความจริงแล้ว

การปฏิวัติด้านกลิ่นหอมของ Chanel N°5

ตั้งแต่ถือกำเนิดมาเกือบ 100 ปี นำ้หอม N°5 คือตำนานที่สืบทอดจนถึงทุกวันนี้ น้ำหอมสีทองที่สื่อถึงความหรูหราสง่างามที่สะท้อนความเป็นตัวตนของ กาเบรียล ชาเนล อันเป็นอีกแกนสำคัญของแบรนด์ กลิ่นดอกไม้ที่สร้างสรรค์โดย ออเนสต์ โบซ์ (Ernest Beaux) ได้ปฏิวัติวงการน้ำหอมในปี 1921 ที่แหวกกฏของการปรุงน้ำหอมด้วยดอกไม้ชินดเดียวกลายเป็นผลงานที่รวบรวมส่วนผสมกว่า 80 ชนิด โดยมีกลิ่นหลักของเมย์โรส, จัสมิน, อีลาง-อีลาง, แซนดัลวู้ดร้อยเรียงกันอย่างสวยงาม ผ่านเลขนำโชคของมาดมัวเซลอย่างเลข 5 นั่นเอง

แรงบันดาลใจของแคมเปญใหม่นี้คือผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความรัก และความเย้ายวนของเธอก็ค่อยๆ คลี่คลายออกมาเป็นความสุข เพลง Team โดย Lorde ที่ช่วยเติมจังหวะให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้อัดโดยฟลาเวียง แบร์เฌร์ (Flavien Bergeer) และขับร้อง โดย มาริยง โคทิยาร์ โดยเป็นเพลงที่อุทิศให้กับความรักในยุคใหม่ที่คนรักทั้งคู่เท่าเทียมกัน “เราเลือกเพลงนี้เพราะเนื้อเพลงที่ว่า ‘เราเป็นทีมของกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สําคัญมาก’ และมันก็สะท้อนถึงยุคสมัยได้เป็นอย่างดีครับ” โตมาส์ ดู เพร เดอ แซ็งต์ โมร์

Get the Look

ผิว
LES BEIGES EAU DE TEINT – MEDIUM AND MEDIUM LIGHT PALETTE ESSENTIELLE – N° 160 BEIGE MEDIUM
LES BEIGES POUDRE BELLE MINE NATURELLE – N°50

ดวงตา
LES 4 OMBRES – N° 308 CLAIR-OBSCUR
BAUME ESSENTIEL – TRANSPARENT
STYLO YEUX WATERPROOF – N°20 ESPRESSO
LE VOLUM E REVOLUTION DE CHANEL – N° 10 NOIR

ริมฝีปาก
LE CRAYON LEVRES – N° 152 CLEAR
ROUGE ALLURE VE ET – N° 38 LA FASCINANTE

เล็บ
LE VERNIS – N° 18 ROUGE NOIR