โครงหน้าสวยคมชัดดูเป็นธรรมชาติสร้างได้ ด้วย VOLUX ฟิลเลอร์ตัวใหม่ที่กำลังอินเทรนด์ มาพูดคุยกับคุณหมอมือหนึ่งในการปรับโครงหน้านายแพทย์วรพจน์ ศิรามังคลานนท์ ที่จะไขทุกคำถาม

มันทำอะไรได้บ้าง อย่างไร บาซาร์ขออาสาพาคุณรีวิว
เมื่อเทรนด์โครงหน้าสวยเป๊ะของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์สาวสวยบนแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียที่ไม่ว่าจะ ig หรือ TikTok ทำให้คุณป้าวัย 50 อย่างดิชั้นต้องร้องอื้อหืออ… อะไร?ทำไม? พวกเธอถึงมีใบหน้าที่เพอร์เฟ็คท์แบบนี้ได้ นี่รวมถึงดารานักร้องเซเลบในวัยใกล้ๆกันทำไมพวกเธอถึงยังดูอ่อนเยาว์เหมือนหยุดเวลาเอาไว้ เรื่องนี้คงไม่ใช่แค่การทานวิตามินซีและทำจิตใจให้สบายเพียงอย่างเดียวแน่ๆ คนที่จะให้คำตอบในเรื่องนี้ได้ก็คือคุณหมออาร์ม นายแพทย์วรพจน์ ศิรามังคลานนท์ Medical Director และผู้ก่อตั้งเฮอร์ทิจูด คลินิก กับคำตอบสั้นๆแต่น่าสนใจและกำลังมาแรงในตอนนี้ นั่นก็คือฟิลเลอร์ตัวใหม่ที่ชื่อ “Juvederm Volux”

ความต้องการและจุดเริ่มต้น

“จริงๆแล้วตัวฟิลเลอร์ Juvederm เรามีใช้กันมาหลายสิบปีแล้ว และก็มีการพัฒนารุ่นใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแพทย์ผู้ฉีด ซึ่งตัวใหม่ล่าสุดที่ออกมาก็คือ Juvederm Volux เป็นฟิลเลอร์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อครีเอทเรื่องของคอนทัวร์ใบหน้าโดยเฉพาะ นั่นก็คือการทำคาง การครีเอทแนวกราม ขากรรไกร ให้มันคมชัดและยกกระชับมากที่สุด โดยที่เจ้า Volux มีความสามารถในการยกกระชับผิวที่สูงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่า เป็นเพราะความแน่นของโมเลกุลทำให้มันดูสวยกว่า โดยเฉพาะเมื่อเอามาฉีดบริเวณที่เป็นแนวกระดูก มันจะคมและชัด ทั้งอุ้มน้ำน้อยกว่าจึงไม่ดูบวม
ด้วยเทรนด์ของโซเชี่ยลมีเดียในตอนนี้มีผลต่อชีวิตคนมากขึ้น ไม่วาจะเป็น ig ภาพนิ่งหรือ TikTok ที่เป็นวิดีโอ คนจะต้องการความเพอร์เฟ็คท์ของรูปลักษณ์ โดยการครีเอทความสวยคมที่โดดเด่นชัดเจน แต่ก่อนจะมีแต่คนอายุ 40-50 มาเติมฟิลเลอร์กันเพราะต้องการจะแก้ไขบริเวณที่ฟ้องว่าตัวเองมีอายุขึ้น แต่ปัจจุบันเด็กๆจะหันเข้ามาปรับรูปหน้าโดยการไม่ผ่าตัดกันมากขึ้น เพื่อให้ดูสวยในทุกมุมมอง โดยเฉพาะในต่างประเทศที่เริ่มมีการใช้ Volux กันมานานก่อนหน้าเราอีก

เทรนด์ที่เปลี่ยนไป

เดี๋ยวนี้เวลาฉีดฟิลเลอร์นี่ เราไม่ได้นึกถึงแค่การครีเอทโครงสร้างใบหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงการเคลื่อนไหว คือต้องสวยทุกมุมรวมถึงการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวด้วย ไม่ใช่สวยแค่หน้านิ่งๆเท่านั้น คนไข้ต้องขยับหน้าขยับตาก็ต้องสวยทุกการแสดงอารมณ์ รวมทั้งมันยังช่วยเรื่องของลิฟท์ติ้งใบหน้า ได้ทั้งเรื่องของการปรับหน้าให้ยกขึ้น ปรับหน้าให้เรียว และปรับโครงหน้าให้คมขึ้น โดยเน้นที่ใบหน้าส่วนกลางและล่าง หลักๆจุดที่ฉีดก็จะเป็นที่โหนกแก้ม คาง และขากรรไกร สำหรับการใช้ในคนอายุเยอะเราจะฉีดเพื่อการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย แต่ในคนอายุไม่เยอะนี่ เทคนิคการฉีดจะเน้นเรื่องของเสริมความงามคือทำสิ่งที่มันดีอยู่แล้วให้สวยมากยิ่งขึ้น โดยใช้ฟิลเลอร์แค่ 2-3 cc แต่ในผู้ใหญ่เนื่องจากมีความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้น เราก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณมากกว่า คนที่ไม่เคยทำมาก่อนถ้าอยากได้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้าอาจต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณ 12-16 cc  ฟังดูเหมือนจะเยอะนะครับ แต่จริงๆปริมาณฟิลเลอร์ 15 cc เนี่ยจะได้ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ และสำหรับการเสริมความงามในเด็กที่จะใช้ไม่เกิน 5 cc ก็ประมาณ 1 ช้อนกาแฟเท่านั้นเอง
สำหรับการฉีดกรอบหน้าทั่วไปจะใช้อยู่ 3-4 cc นี่คือปริมาณที่น้อยที่สุด ซึ่งก็คือ  2 cc อยู่ที่บริเวณคาง และ 1 cc อยู่แนวขากรรไกรกรอบหน้า เวลาคนไข้นึกถึงกรอบหน้ามักจะคิดถึงแค่ขากรรไกร จริงๆก็ต้องรวมที่คางด้วย เพราะใบหน้าของคนเรานี่มันเชื่อมต่อกันไปทั่ว จะให้สวยก็ต้องมีที่โหนกแก้มอีก 1 cc คือต้องไปทั้งกรอบหน้า นี่ก็เป็นสาเหตุนึงที่คนไข้เมื่อเดินเข้ามาบอกว่าอยากกรอบหน้าชัด แต่จะฉีดแค่กรอบหน้าอย่างเดียว แล้วก็จะผิดหวังกับผลว่าทำไมกรอบหน้าชั้นไม่ชัด เพราะเมื่อแก้มยังหย่อน แล้วเราไม่ดึงขึ้นไป แนวกรามเราจะชัดไปได้อย่างไร เราต้องดูแลต่อเนื่องไปทั้งหมด

รูปหน้าที่มาแรงในตอนนี้

ถ้าพูดถึงโครงหน้าที่ผมถูกขอให้ทำมากที่สุดช่วงนี้จะเป็นรูปหน้าที่อินเตอร์มากขึ้น นั่นคือมีชีคโบนและมีคอนทัวร์ที่ชัดเจน แต่ก็จะไม่สตรองมากเท่าฝรั่ง เพราะด้วยโครงหน้าของเราซึ่งมีโครงกระดูกที่กลมกว่า ถ้าไปทำสตรองเท่าเค้าเลยเนี่ยมันจะทำให้ดูมีอายุ ซึ่งคนเอเชียไม่ชอบ แต่ก็ต้องบอกว่าเทรนด์เปลี่ยนไปเยอะเลย จากเดิมที่ต้องหน้ารูปไข่เท่านั้น ช่วงนี้เวลาเด็กๆเอารูปมาให้ดู ก็จะเอารูปลิซ่า แบลคพิ้งค์มาให้ดู ซึ่งน้องเค้าจะมีรูปหน้าที่กลม เพราะเป็นรูปหน้าแบบเอเชีย แต่ก็มีโหนกแก้ม มีแนวขากรรไกร ปากที่อวบอิ่มมาก และตาโต ผมมองว่าข้อดีข้อนึงคือ ดูเข้ากับคนไทยดี เป็นหน้าแบบนึงที่คนชอบ 
ส่วนอีกแนวจะมีแต่รูปหน้าแบบเอเชียกับเกาหลี นางเอกที่เล่นเรื่อง never the less ที่เป็นเพื่อนนางเอก น่าจะชื่อ ลี โฮ จุง คนนี้เป็นคนมาขอเยอะมาโดยมากจะเป็นโครงหน้ากับปาก เป็นลุคที่สาวไทยสายหมวยขอกัน ส่วนสาวไทยหน้าคมก็จะเป็นน้องลิซ่า ส่วนสายฝอก็จะเป็นไคลี่ เจนเนอร์ตระกูลคาเดเชี่ยน

Volux ทำอะไรได้อีก

Volux ยังช่วยปรับโครงหน้าได้โดยเฉพาะ คนที่หน้ากลมๆป่องๆ ช่วยให้หน้าดูคมขึ้น หนึ่งมันช่วยลิฟท์ สองมันช่วยสร้างโครงทำให้หน้าเค้าดูเรียวยาวมากขึ้นเวลาที่เราฉีดสามารถทำได้ทั้งเพิ่มความเหลี่ยม คม ยก หรือทำให้ดูสมูธได้ ซอฟท์ก็ได้ คือมันช่วยเปลี่ยนรูปหน้าได้จริงและดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพักฟื้น  

ในคลินิกผมอีกจุดนอกจากปรับโครงหน้าแล้วคนมาทำเยอะก็คือใช้เสริมจมูกครับ มันให้ผลลัพธ์ที่สวยมาก ถ้าเป็นตัว Voluma ซึ่งฉีดไปแล้วผ่านไปเดือนสองเดือนมันจะดูตุ่ยๆให้ผลดูไม่ค่อยคม แต่ Volux เนี่ยมันจะดูคมและขึ้นสันสวย คนไข้ที่ฉีดไปมักจะบอกเลยว่ามันสวยเหมือนไปผ่าตัดเสริมแบบโอเพ่นแนวเกาหลีมาเลย ซึ่งก็มีคนมาทำในเคสนี้เยอะมาก  ซึ่งในบ้านเรามีคุณหมอที่ฉีดจมูกได้ยังไม่มาก ก็ต้องระวัง อาศัยความเชี่ยวชาญของหมอ

ข้อควรรู้ก่อนทำ

ความแตกต่างของ Volux กับฟิลเลอร์อื่นๆ เนื่องจากมันมีความแข็งค่อนข้างมาก หลังฉีดคนไข้มักจะบ่นว่ามีอาการปวดมากกว่า แต่อาการปวดเหล่านี้ก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก สามารถทานยาแก้ปวดธรรมดาช่วยได้ แต่ตอนฉีดจะไม่รู้สึกเพราะมันมีส่วนผสมของยาชาอยู่ และให้ผลลัพธ์อยู่ได้ตามผลการวิจัยก็ประมาณ 2 ปี แต่ทั้งนี้ขึ้นกับคนไข้แต่ละคนด้วยนะครับ บางคนอาจอยู่ได้ไม่ถึงก็มีเพราะ genetic ที่ต่างกัน บางคนมีอัตราการสลายฟิลเลอร์เร็วมาก ในขณะที่บางคนอาจอยู่ได้นานกว่านั้น ซึ่งมันมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกอย่างการใช้ชีวิต บางคนทั้งดื่มเหล้าสูบบุหรี่ นอนพักผ่อนน้อย ดื่มน้ำน้อย โดนแสงแดดมาก ก็จะทำให้ผิวหย่อนคล้อยได้เร็วมากยิ่งขึ้น ก็จะรู้สึกว่าฟิลเลอร์มันหายไปเร็ว

อีกอย่างตัว juvederm volux เนื่องจากมันมีเนื้อที่ค่อนข้างแข็งหลังฉีดคนไข้อาจจะคลำได้ว่าเหมือนเป็นก้อนเล็กน้อย ซึ่งก้อนเหล่านี้มักจะหายไปเองภายใน 2-4 สัปดาห์ ช่วงแรกๆอาจจะรู้สึกเป็นก้อนนิดนึงก็อย่าไปสนไปอย่าไปนวดไปกดอะไร แล้วมันจะค่อยดีขึ้นเอง แล้วที่ถามว่าถ้าฉีดไปแล้วไปนวดหน้ามันจะเลื่อนไหม มีผลการศึกษาบอกว่าหลังฉีดทันทีนี่สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้แต่เมื่อผ่านไป 24 ช.มอัตราการเคลื่อนที่ของเจลจะลดลงเหลือแค่ 50% แต่หลัง 48 ช.มจะนวดไม่ได้เลยคือถ้าฉีดไปแล้วไม่เพอร์เฟ็คท์ก็จะแก้ยากละคือมันเซ็ตตัวแล้วฉะนั้นคนไข้มันใจได้ว่าถ้าฉีดไปแล้วหลัง 48 ช.มไม่เลื่อนแน่นอน สบายใจได้

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

“ใครที่คิดจะทำ ผมมีคำแนะนำให้สองข้อ คือหนึ่ง sense of beauty ของหมอกับคนไข้ต้องตรงกัน ถึงจะได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ สอง ต้องดูที่ความเชี่ยวชาญด้วย เพราะนี่คือใบหน้าของเรา เราไม่สามารถจะถอดทิ้งได้เหมือนเสื้อผ้า จึงควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดให้กับตัวเอง คุยกับหมอให้เข้าใจเสียก่อนที่จะลงมือทำเพื่อลุคสวยอย่างที่ต้องการครับ” หมออาร์มให้คำแนะนำทิ้งท้าย

Bazaar’s Review

เมื่อลองคุยเฉยๆอาจไม่เห็นภาพ หมออาร์มเลยถามดิฉันว่าอยากลองไหม แน่นอนคำตอบคืออยาก เพราะด้วยความต้องการรู้ว่ามันจะสามารถช่วยเปลี่ยนรูปหน้าได้จริงหรือ? คำถามของหมออาร์มต่อมาคือ อยากได้ลุคแบบไหน? ดิฉันตอบทันทีแบบไม่รอช้า… แบบ J.Lo ค่ะ ฮ่าๆ (หวังสูง) หมออาร์มสตั๊นท์ไปนิดนึง แล้วให้ข้อมูลว่า ด้วยลุคหน้าเอเชียนแบบดิฉันถ้าจะไปให้สุดแบบโครงชัดๆ (กรามเหลี่ยม มีโหนกแก้มชัด) ผลลัพธ์อาจเป็นมิเชล โหย่วได้ แถมทำให้ดูหน้ามีอายุขึ้นด้วย แต่หมอจะเอามาปรับให้ก็แล้วกัน “ขอเจอกันตรงกลางนะครับ” หมออาร์มกล่าว
หลังจากแปะยาชา 40 นาที ก็ถึงเวลาฉีด ความรู้สึกตอนเดินยาคือไม่เจ็บเลย แต่จะรู้สึกนิดนึงตอนจิ้มเข็มและมีความรู้สึกกึกๆเล็กน้อย คงเพราะด้วยยาชาทั้งที่ทาและในตัวฟิลเลอร์เอง พอฉีดเสร็จหมอก็จะมาปั้นๆปรับๆให้เข้ารูป โดยหมอฉีดที่บริเวณปลายขากรรไกรด้านข้างทั้งสองข้าง คาง โหนกแก้มเล็กน้อย และฐานจมูกข้างหน้านิดหน่อย
ไม่ถึงยี่สิบนาที ผลลัพธ์คือเห็นได้ชัดเลยว่าหน้าได้รูปอย่างที่อยากได้ ทั้งดูลิฟท์ขึ้น แค่การเติมโหนกแก้มนิดนึงก็ช่วยให้หน้าช่วงล่างดูลิฟท์ขึ้นแล้ว แล้วหมอก็มาฉีดที่ขากรรไกรเพื่อสร้างกรอบหน้าให้ชัดขึ้นมีเหลี่ยมแบบเจโลเบาๆ ซึ่งในวันที่ทำมีคุณหมอน้องๆมาดูงาน น้องๆหมอก็ทักเลยว่า อุ๊ยหน้าดูเปรี้ยวขึ้น ดูเป็นลูซี่ ลิว อ้ะ.. โอเคถึงไม่ใช่เจโล แต่เป็นลูซี่ ลิว ดิฉันก็แฮปปี้นะ ซึ่งพอดูกระจกก็รู้สึกชอบใจมากเพราะโครงหน้าดูชัดขึ้นจริง 
หน้าดูแคบลง มีความยาวสมส่วนขึ้น แล้วหมออาร์มก็ยังมาเติมให้ข้างจมูกนิดนึงเพื่อแก้รอยร่องแก้ม ซึ่งมันยังช่วยให้ปีกจมูกดูแคบลง แล้วก็มาเติมฐานหน้าจมูกทำให้จมูกดูยกขึ้นนิดนึง นี่ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ ต้องยกให้ความเชี่ยวชาญของคุณหมอจริงๆ โดยรวมผลลัพธ์คือดิฉันพอใจมากโดยเฉพาะเมื่อดูหน้าด้านข้างเห็นได้ว่าช่วงกรามดูมีโครงขึ้น โดยที่ปริมาณยาที่ใช้คือ Volux 3 cc. และ Voluma 1 cc.
หลังจากฉีดเสร็จจะรู้สึกแค่ตึงๆนึดนึง หมอให้ยาแก้ปวดกับยาทาเผื่อช้ำ แต่เท่าที่ดูคือไม่มีรอยอะไรเลยอาการปวดที่มีตอนยาชาหายก็ทนได้ ไม่ได้รู้สึกทรมานอะไร แต่ในวันที่สอง ก็รู้สึกแค่ระบมๆ โดยส่วนตัวคือไม่ได้ทานยาแก้ปวดเลย แล้วก็อาจมีความบวมนิดบริเวณที่ฉีด ซึ่งมันก็จะยุบลงไปเป็นปกติในสองสัปดาห์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ปรากฏคือโครงหน้าดูคมขึ้น ดูยกกระชับขึ้น 
เอาล่ะถึงเป้าหมายโครงหน้าแบบเจโลดิฉันยังไปไม่ถึง แต่แค่นี้ก็แฮปปี้รู้สึกมั่นใจในการถ่ายรูปมากขึ้น และแน่นอนว่าท่าที่ถ่ายบ่อยที่สุดตอนนี้ก็คือท่าถ่ายมุมด้านข้างอวดขากรรไกรใหม่ให้โลกรู้ (แต่คนไม่รู้ เพราะเนียนมากเป็นธรรมชาติสุดๆ) 
Juvederm Volux ราคาเริ่มต้นที่ 19,900 บาท /cc

ใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและปรึกษาคุณหมออาร์มได้ที่ Hertitude Clinic

TAG

Related Stories

บาซาร์พาคุณท่องโลก Make up - Skincare etc. ตัวเด็ดจากหลายแบรนด์ดัง
เชิดชูความงามอันน่าหลงใหลและตื่นเต้นพร้อมบทสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟของผู้สร้างสรรค์น้ำหอมและเมคอัพ
บาซาร์พาคุณท่องโลก Make up - Skincare etc. ตัวเด็ดจากหลายแบรนด์ดัง
มาพร้อมไฮไลท์อย่างน้ำหอมชนิดครีม และดีไซน์ขวดน้ำหอมรูปไข่อันน่าสะดุดตา
เพื่อสำรวจความงดงามของสถานที่ 5 แห่งอันไกลโพ้นน่าสนใจในบ้านของคุณเอง
เทรนด์การแต่งหน้าที่โดดเด่นด้วยสีชมพูและความแวววาว
จุดประกายความทรงจำที่มีค่าไปกับกลิ่นหอมที่มีเรื่องราวของตัวคุณ
เบื้องหลังความลับของการปรนนิบัติผิวสวยขั้นสุดในยามค่ำคืน

Most Viewed

สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการทรงคุณค่า ประวัติศาสตร์ขององค์กรหกแผ่นดินยึดมั่นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อประชาสังคม
สร้อยทองคำขาวประดับอัญมณีรวม 964 เม็ด รังสรรค์ผ่านระยะเวลากว่า 450 ชั่วโมง
พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการทรงคุณค่า ประวัติศาสตร์ขององค์กรหกแผ่นดินยึดมั่นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อประชาสังคม

MORE FROM

บาซาร์พาคุณท่องโลก Make up - Skincare etc. ตัวเด็ดจากหลายแบรนด์ดัง
เชิดชูความงามอันน่าหลงใหลและตื่นเต้นพร้อมบทสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟของผู้สร้างสรรค์น้ำหอมและเมคอัพ
บาซาร์พาคุณท่องโลก Make up - Skincare etc. ตัวเด็ดจากหลายแบรนด์ดัง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว