แบรนด์น้ำหอมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ เรื่องราว แฝงไปด้วยความเย้ายวนแบบมีระดับที่ยูนีกไม่เหมือนใคร อย่าง Frederic Malle อาจจะยังไม่คุ้นหูคนหลายคนกับขวดเรียบง่ายคาดสติกเกอร์ดำเท่าไหร่ บาซาร์จึงอยากพาไปรู้จักกับแบรนด์โดยได้มีโอกาสพูดคุยกับ Mr. Maxime Daulouede ผู้เป็น Editions de Parfums แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Frederic Malle เมื่อครั้งที่เขามาเปิดเคาน์เตอร์ที่บูทีก Atelier De Prestige ณ ชั้น G ดิ เอ็มควอเทียร์เมื่อไม่นานมานี้


แบรนด์ Frederic Malle ก่อกำเนิดในปี 2000 โดย Frederic Malle ผู้เกิดและเติบโตในฝรั่งเศสรายล้อมไปด้วยสมาชิกครอบครัวที่เป็นศิลปิน และเพอร์ฟูมเมอร์ ซึ่งคุณตาของเขา Serge Heftler-Louiche เป็นผู้ก่อตั้ง Parfums Christian Dior เมื่อพูดถึงตลาดน้ำหอมในช่วงปี ’90s-2000s เป็นยุคที่น้ำหอมต้องอาศัยการโฆษณา ทำการตลาด มีแนวทางที่ชัดเจนเพื่อเอาใจผู้บริโภคและทำยอดขายสูงๆ ซึ่งกลายเป็นการตีกรอบเพอร์ฟูมเมอร์และจำกัดอิสระทางความคิดสร้างสรรค์ไปโดยปริยาย

“Frederic Malle เปรียบได้ว่าเป็นพับลิชเชอร์แห่งวงการน้ำหอมก็ว่าได้ เขาให้โอกาสกับโนสที่ดีที่สุดในวงการในครีเอทน้ำหอมในฝัน น้ำหอมที่ตัวเองปรารถนาที่สุด ซึ่งโนสเหล่านี้เคยครีเอทน้ำหอมสุดไอคอนนิกและขายดีในวงการน้ำหอมมาแล้ว เขาจึงตัดสินใจเข้าหานักปรุงน้ำหอมโดยปราศจากกรอบความคิดใดๆ เปิดโอกาสให้แสดงศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่ ด้วยการให้อิสระแบบไร้ข้อจำกัดเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นในด้านของกระบวนการกลั่น การคัดวัตถุดิบ เงิน และเวลา ไม่มีไกด์ไลน์ใดๆ ทั้งนั้น” คุณ Maxime เล่าถึงประวัติความเป็นมาของแบรนด์อย่างคร่าวๆ

นับเป็นเรื่องใหญ่ เสี่ยง และไม่มีที่ไหนเขาทุ่มทุนในเรื่องความไร้ข้อจำกัดในเวลา โดยน้ำหอมที่ใช้เวลาปรุงและทดลองนานที่สุดใช้เวลานานถึง 3 ปีครึ่ง “น้ำหอม Canal Flower ทดลองกลิ่นถึง 690 ครั้ง เป็นกระบวนการที่นานมาก ขวดหนึ่งใช้ทูเบอร์โรส 800 ดอก ที่เก็บด้วยมือในแหล่งชั้นยอดของดอกทูเบอร์โรสชั้นดีที่อินเดีย” คุณ Maxime เล่าถึงหนึ่งในสองกลิ่นน้ำหอมไอคอนิกของแบรนด์
แล้วจะรู้ได้เมื่อไหร่ว่าน้ำหอมพร้อมออกขายแล้ว? “พอดมแล้วมันจะรู้สึก ว้าว! ใช่เลย! ซึ่ง 3 คำถามที่คุณ Frederic มักถามตัวเองคือ 1. กลิ่นนี้ยั่วยวนพอจนปลุกอารมณ์หรือไม่ 2. ความสบายในการสวมใส่น้ำหอม 3. มองไปอีก 50 ปีน้ำหอมนี้ยังคงคลาสสิกเหนือกาลเวลาอยู่ไหม”
น้ำหอมศิลปะล้ำค่าที่ครีเอทจากสุดยอดโนสทั่วโลก ดังนั้น Frederic Malle จึงยกย่องผู้ครีเอทผลงานมาสเตอร์พีซทุกคนด้วยการใส่ชื่อผู้ปรุงน้ำหอมไว้ที่ขวด และยังใส่รูปตามช็อปทุกที่ “พวกเขาสมควรได้รับการยกย่องและได้รับความสำเร็จที่ควรได้ เช่นเดียวกับจิตกร นักแต่งเพลง” เป้าหมายของเขาคือการเปิดคลังห้องสมุดน้ำหอมที่ไม่ได้วางบนชั้นในร้านขายน้ำหอมทั่วไป และไม่เชื่อถึงการเลเยอร์กลิ่นทับซ้อนกัน “แพ็กเกจจิ้งในขวดแก้วเรียบง่ายที่เขาอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับน้ำที่อยู่ข้างในมากกว่าเปลือกนอก แต่ถึงอย่างไรขวดก็มีน้ำหนักให้ความหรูหราจนถึงเสียงคลิกเมื่อปิดฝา”






แล้วจะรู้ได้เมื่อไหร่ว่าน้ำหอมพร้อมออกขายแล้ว? “พอดมแล้วมันจะรู้สึก ว้าว! ใช่เลย! ซึ่ง 3 คำถามที่คุณ Frederic มักถามตัวเองคือ 1. กลิ่นนี้ยั่วยวนพอจนปลุกอารมณ์หรือไม่ 2. ความสบายในการสวมใส่น้ำหอม 3. มองไปอีก 50 ปีน้ำหอมนี้ยังคงคลาสสิกเหนือกาลเวลาอยู่ไหม”


