Dyson อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมราคาหลักหมื่นได้รับกระแสตอบรับจากชาวไทยมาเรื่อยๆ ไม่มีตก ซึ่งทีมวิศวรกร Dyson ได้เปิดห้องทดลองให้ดูพร้อมอธิบายวิทยาศาสตร์เบื้องหลังของการทดลองและพัฒนาอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมทั้ง 3 ได้แก่ Dyson Supersonic ไดร์เป่าผมโฉมใหม่ไม่เหมือนใคร Dyson Airwrap เครื่องม้วนผมลอนอัตโนมัติให้ผมลอนเด้งเหมือนไดร์จากซาลอน รวมถึงเครื่องหนีบผมล่าสุด Dyson Corrale มาด้วยนวัตกรรมแพลตยืดหยุ่นโอบกอดเส้นผมให้กระจายความร้อนสม่ำเสมอ ซึ่งใครกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี มาดูข้อมูลลึกๆ จากผู้เชี่ยวชาญดูก่อนได้เลย

เริ่มต้นด้วยคุณ Chris Osborn, Head of Category, Personal Care พาทัวร์ hair labs อย่างเอ็กซ์คลูซีฟ “ผมอยากให้ทุกคนได้เห็นว่าที่นี่วิศวกร Dyson ต้องทำอะไรบ้าง? เราต้องคิดทางแก้ไขปัญหาจุกจิกในการทำผม พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำผมให้ง่ายขึ้นโดยไม่ใช้ความร้อนมากเกินไป” ขณะนี้ Dyson Hair มีไดร์เป่าผม Supersonic,เครื่องม้วนผม AirWarp และเครื่องหนีบผม Corrale “สิ่งที่ได้จากครั้งนี้คือ 3 อย่างได้แก่ คุณจะเข้าใจความเชี่ยวชาญในวิทยาศาสตร์การทำผมแต่ละชนิด คุณจะเห็นว่าเรานำความรู้ด้านเส้นผมมาใช้ทดลอง และอุปกรณ์เหล่านี้จะควบคุมการทำผมได้อย่างไร” เขากล่าวต้อนรับก่อนพาดูอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ออกแบบเองเพื่อจำลองการทำผมในชีวิตจริง

คุณ Sandra Lup, Lead Design Engineer เธอทำงานกับ Dyson มาตั้งแต่เริ่มแรกเป็นเวลากว่า 7 ปี เธอเกริ่นว่า “เราต้องเข้าใจเส้นผมแต่ละชนิดเพื่อออกแบบอุปกรณ์ที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นความเร็วของลม อุณหภูมิที่เหมาะสมไม่ทำร้ายเส้นผม และปัจจัยอื่นๆ ที่ทำร้ายเส้นผม” การจะเข้าถึงข้อจำกัดเหล่านี้เราเลยสร้างแลปทดลอง เพื่อสร้างอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่สะดวกสบายมากขึ้น ทำให้เราเข้าใจประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับโดยตรง
“ก่อนเข้าถึงอุปกรณ์การทดลองขออธิบายโครงสร้างของผมคร่าวๆ เส้นผมมีชั้นปกป้องชั้นนอกที่เรียกว่า เกล็ดผม (cuticle) ทำให้ผมเงางาม ในเส้นผมจะมีเนื้อผมที่สร้างมาจากพันธะโปรตีนเรียกว่า Cortex โดยมี 2 พันธะได้แก่ พันธะไฮโดรเจน พันธะช่วยคราวในการจัดแต่งรูปร่างของเส้นผม และพันธะ disulphide ที่เป็นพันธะถาวรและเเข็งเเรงที่สุด หากพันธะนี้ถูกทำร้ายก็จะทำให้ผมเสียง่าย”
“การทดลองเเรกคือ การทดสอบความแข็งแรงของเส้นผม ถ้าชั้น Cortex อ่อนแอจะเสียความยืดหยุ่น ดูแข็งกระด้างและขาดง่าย โดยเครื่องนี้จะดึงเส้นผมออกจากกัน ถ้าผมสุขภาพดีเมื่อเข้าเครื่องนี้แล้วจะยืดตัวได้มากถึง 60% ของความยาวเดิม เมื่อทดลองแล้วเราสามารถวิเคราะห์เปรียบเทียบผมสุขภาพดีและผมเสียอ่อนแอ เพื่อพัฒนาทุกผลิตภัณฑ์ของเรา”
นอกจากการใช้เครื่องวัดความแข็งแรงของเส้นผมแล้ว การดูเส้นผมก็เป็นเรื่องจำเป็น เครื่อง ETM หรือ Electronic Microscope กล้องจุลทัศน์ที่ทำให้เเห็นเส้นผมอย่างใกล้ชิด ว่าเกล็ดผมเปิดหรือไม่ ซึ่งเราได้ใช้เส้นผมแต่ละประเภทกับการทดลองเปรียบเทียบกับเครื่องทำผมธรรมดาทั่วไป และเครื่องจาก Dyson

เครื่องทดลองชิ้นต่อไปคือการทดลองหวีผม เปรียบเทียบผมสุขภาพดีและผมที่ได้รับความเสียหาย 3 แบบ ได้แก่ ความเสียหายจากการทำเคมี ทำสีผม ความเสียหายจากความร้อน และความเสียหายจากรังสียูวี เครื่องนี้จึงจำลองการหวีผมของคนใช้จริงๆ ก่อให้เกิดความเสียหายทางกายภาพ “โดยเราดูถาดด้านล่างว่ามีปริมาณผมหลุดของผมตัวอย่าง 4 แบบ (รวมผมสุขภาพดี) ร่วงจากการหวีผมมากขนาดไหน” คุณ Sandra อธิบายและรวบตึงคุณสมบัติของอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมของ Dyson ว่า

“Dyson Supersonic มีเครื่อง V9 Digital Motor ที่มีความเร็วกว่ารถแข่งฟอร์มูล่าวัน ข้างในมีเทอร์โมมิเตอร์แก้วที่คอยวัดและควบคุมอุณหภูมิความร้อนให้ไม่เกิน 150 องศาเซลเซียส และมีหัวแม่เหล็กที่ยึดติดกับหัวไดร์ไ้ด้ง่ายดาย Dyson Airwrap มี V9 Digital Motor ควบคุมความเร็วลมที่อยู่ในด้ามจับเช่นเดียวกับ Supersonic และใช้กระแสการหมุนของลมแรงที่เรียกว่า conada effect ทำให้ดูดผมเข้ากับแกน และควบคุมความร้อน ให้ได้ผมสวยเหมือนไปซาลอนและมั่นใจว่าเครื่องนี้ไม่ทำลายเส้นผมแน่นอน”

ส่วนสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ล่าสุดอย่าง Dyson Corrale คุณ Daniel Evans, Senior Design Engineer ได้อธิบายถึงการทดลองและการเก็บข้อมูลต่างๆ “ในแล็ปของเราส่วนนี้เป็นการทดลองด้านเทคนิคมากขึ้น ตอนนี้เรากำลังพูดถึงดีไซน์ต่างๆ ในแต่ละโมเดลเพื่อให้ผลการทดลองที่ดีที่สุด และเราทดลองกับคนจริงๆ สลับกับการทดลองแล็ปวนไปวนมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าต้องทดลองด้วยการใช้ผมคนจริงๆ จากคนหลายทวีป และทุกชนิดเส้นผม ซึ่งเป็นอะไรที่จำเป็นมาก เพื่อทำให้เครื่องทำผมนี้เหมาะกับทุกคนอย่างแท้จริง”

และคุณ Daniel อธิบายถึงการทดลองว่า “เครื่องทดลองนี้คือเครื่องรุ่นที่ 4 ที่ปล่อยปอยผม และใช้ Dyson Corrale หนีบผม โดยมีเครื่องวัดแรงตึงผม และกล้องวัดอุณหภูมิ ที่ดูเรียบง่ายแต่สำคัญมาก เราต้องคอยวัดความชื้นของผมเพื่อดูพันธะไฮโดรเจน และไม่ทำลายพันธะ disulphide โดยนวัตกรรม Flexing plate ของเครื่องนี้จะโอบปอยผมไว้ด้วยกัน เพื่อให้จับปอยผมได้สม่ำเสมอไม่หลุดออกระหว่างใช้งาน

“เราทดลองด้วยการใช้ปอยผมเล็กๆ 10 ปอยไว้ด้วยกัน แล้วใช้เครื่องหนีบผมธรรมดารูดผม จะเห็นได้ว่า แรงดึงผมส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งด้ามจับ แสดงให้เห็นว่าผมอีกฝั่งหนึ่งไม่ได้รับความร้อนเท่ากัน และดีดตัวออกขณะหนีบผม เมื่อเทียบกับ Dyson Corrale จะเห็นแรงดังสม่ำเสมอทั้ง 10 ปอยผม ผมดูรวบเป็นกลุ่มตรงสลวยเท่ากันทั้งสองฝั่งที่ท้าทายมาก ทำให้เครื่องหนีบผมธรรมดามีอุณหภูมิการจัดแต่งทรงผมที่สูงเกินไป ซึ่งความท้าทยของการพัฒนาเครื่องหนีบผมนี้คือความสมดุลเท่ากันตลอดทุกเส้นผม”

“สุดท้ายแล้วที่ผมอยากโชว์คือตู้เหลือง ข้างในมีกล้องถ่ายรูปและมืดสนิท ผมจะวางปอยผมไว้ข้างในแล้วถ่ายรูปเส้นผม เพื่อดูรูปเปรียบเทียบของการสไตล์ผมแต่ละแบบ แล้วทำเซอร์เวย์สำรวจความชอบของกลุ่มบุคคล เพื่อจำแนกทรงผมที่สวย และไม่สวยออกจากกันอย่างชัดเจน และสร้างออกอริทึ่มให้เครื่องยนต์จำแนกทรงผมที่ดีไม่ดีออกจากกันได้ที่เราสำรวจมานานถึง 7 ปี” เมื่อจบการทัวร์ห้องทดลองของ Dyson คุณ Daniel ทิ้งท้ายว่า “และนี่คือตัวอย่างส่วนหนึ่งที่เราโชว์ให้คุณเห็นได้และนี่ก็ไม่ใช่แค่นี้ของการพัฒนาอุปกรณ์การจัดแต่งทรงผมของเรา”


“ก่อนเข้าถึงอุปกรณ์การทดลองขออธิบายโครงสร้างของผมคร่าวๆ เส้นผมมีชั้นปกป้องชั้นนอกที่เรียกว่า เกล็ดผม (cuticle) ทำให้ผมเงางาม ในเส้นผมจะมีเนื้อผมที่สร้างมาจากพันธะโปรตีนเรียกว่า Cortex โดยมี 2 พันธะได้แก่ พันธะไฮโดรเจน พันธะช่วยคราวในการจัดแต่งรูปร่างของเส้นผม และพันธะ disulphide ที่เป็นพันธะถาวรและเเข็งเเรงที่สุด หากพันธะนี้ถูกทำร้ายก็จะทำให้ผมเสียง่าย”
“การทดลองเเรกคือ การทดสอบความแข็งแรงของเส้นผม ถ้าชั้น Cortex อ่อนแอจะเสียความยืดหยุ่น ดูแข็งกระด้างและขาดง่าย โดยเครื่องนี้จะดึงเส้นผมออกจากกัน ถ้าผมสุขภาพดีเมื่อเข้าเครื่องนี้แล้วจะยืดตัวได้มากถึง 60% ของความยาวเดิม เมื่อทดลองแล้วเราสามารถวิเคราะห์เปรียบเทียบผมสุขภาพดีและผมเสียอ่อนแอ เพื่อพัฒนาทุกผลิตภัณฑ์ของเรา”






