ทันทีที่ลิฟท์ชั้น 12 เปิดออก บรรยากาศแห่งความสงบและกลิ่นหอมชวนผ่อนคลายก็ลอยมาแตะปลายจมูก ในที่สุดเราก็มาถึง เวลเนส โอเอซิสเพื่อสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในเส้นรถไฟฟ้ากรุงเทพมหานคร

สำหรับหนุ่มสาวยุคใหม่ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ คลายความเหนื่อยเมื่อยล้าที่สะสมมาทั้งอาทิตย์ ที่ ปัญญ์ปุริ เวลเนส แห่งนี้ตอบโจทย์ของทุกคนแน่นอน
สะดวกสบายด้วยการเดินทางที่แสนง่าย ติดรถไฟฟ้าสถานีชิดลม หรือถ้าใครขับรถมาก็มีที่จอดรองรับเพียงพอ เมื่อก้าวเข้าสู่อาคารเกษรทาวเวอร์ แค่กดลิฟท์ขึ้นมาชั้น 12 ก็จะถึงพอดี ที่นี่เน้นบริการและผลิตภัณฑ์จากออร์แกนิค ไล่ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม ทรีทเม้นต์ น้ำแร่ ไปจนถึงผ้าปูเดียง เรียกได้ว่าใส่ใจทุกรายละเอียด มีกิจกรรมให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นการนวดออร์แกนิคทรีทเม้นต์ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพของคนเมือง การแช่น้ำแร่ออนเซ็นแบบต้นตำรับญี่ปุ่น ไปจนถึงคลาสออกกำลังกายต่างๆ นอกจากนั้นคุณยังสามารถขอคำปรึกษาและวิเคราะห์ปัญหาด้านสุขภาพได้อีกด้วย

สำหรับใครที่อยากจะมาแช่ออนเซ็น ที่นี่เราสามารถเลือกได้ว่าอยากจะแช่บ่อรวม หรือบ่อไพรเวท
สำหรับบ่อรวม จะแยกชายหญิง มีให้เลือกถึง 5 บ่อ ประกอบด้วย บ่อซิกเนเจอร์ที่นำน้ำแร่ออนเซ็นมาจากเมืองคุซัทสึ (Kusatsu) เมืองที่ตั้งอยู่ในหุบเขาในเขตจังหวัดกุนมะ ถือเป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น คุณประโยชน์หลักของน้ำแร่คุซัทสึช่วยในเรื่องลดการอักเสบของผิวหนัง และไขข้อ คลายความเมื่อยตึงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีบ่อตามฤดูกาล (Seasonal) ที่จะมีการสับเปลี่ยนนำน้ำแร่ที่ดีที่สุดจากเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่น มาให้ลูกค้าได้ใช้บริการตลอดทั้งปี พร้อมทั้ง บ่อโซดา บ่อน้ำเย็น และบ่อเจ็ท (Vitality Pool) ที่จะช่วยการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ซึ่งบรรยากาศภายในทั้งโปร่ง ดีไซน์งดงามน่าประทับใจ ระหว่างที่แช่น้ำเพลินๆ เราสามารถลุกขึ้นมานั่งพักในมุมโซฟาเบด หรือเดินไปเลือกสั่งอาหาร/เครื่องดื่มกินเล่นพลางๆ แล้วค่อยกลับไปแช่น้ำต่อ เพลิดเพลินจนลืมเวลาแน่นอน

หลังจากการแช่น้ำแร่ออนเซ็นชั้นเลิศจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังมีบริการขัดผิวแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม Akasuri เพื่อช่วยขจัดมลภาวะ ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และ เสริมระบบการไหลเวียนของเลือด พร้อมห้องสตีม และห้องซาว์น่าด้วยเกลือหิมาลัย ที่ช่วยเรื่องระบบหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ ไซนัส และถือเป็นการดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี
Onsen ราคา 750 บาท เป็นแบบ Day-Pass สามารถแช่ได้ทั้งวัน ส่วน Akasuri ราคา 900 บาท หากซื้อเป็นแพ็ค ราคาจะอยู่ที่ 1,500 บาท


ในส่วนของบ่อไพรเวท จะเป็นแพ็คเกจให้จองคู่กับการนวดน้ำมัน สามารถเลือกจองเป็นห้องเดี่ยวหรือห้องคู่ออนเซ็น สวีทได้ บรรยากาศโอบล้อมด้วยวิวใจกลางเมือง
ทรีตเมนท์มีให้เลือกทั้งสำหรับผิวหน้า ผิวตัว และโปรแกรม เพื่อสร้างความสมดุลของร่างกายและจิตใจ ทรีตเมนท์ที่เป็นซิกเนเจอร์ออกแบบโดย Dr. Aaron Bullington คือ PAÑPURI Signature Massage ซึ่งเป็นทรีตเมนท์ 90 นาที ที่ผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมของโลกตะวันออก เช่น การกดจุด การนวดแผนไทย เข้ากับการนวดแบบสวีดิช เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย การนวดนั้นใช้ท่วงท่าที่เป็นแนวยาวและต่อเนื่อง กดลึก รวมถึงใช้การยืดเหยียดเพื่อช่วยลดความเครียดและผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ทำให้หลับสบายและช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
แพ็กเกจ Panpuri Signature Mind&Body Massage Revitalizing Retreat ราคา 6,900 บาท (คู่ 12,000 บาท) 240 นาที
แพ็กเกจ Panpuri Signature Pure Relaxation Body Ritual ราคา 5,400 บาท (คู่ 9,200บาท) 180 นาที
การได้นวดน้ำมันหลังจากที่ได้แช่น้ำแร่ออนเซ็นให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย คือที่สุดของประสบการณ์ที่เราอยากให้คุณได้ลองสักครั้ง และเรามั่นใจว่าคุณต้องอยากกลับมาอีก

สะดวกสบายด้วยการเดินทางที่แสนง่าย ติดรถไฟฟ้าสถานีชิดลม หรือถ้าใครขับรถมาก็มีที่จอดรองรับเพียงพอ เมื่อก้าวเข้าสู่อาคารเกษรทาวเวอร์ แค่กดลิฟท์ขึ้นมาชั้น 12 ก็จะถึงพอดี ที่นี่เน้นบริการและผลิตภัณฑ์จากออร์แกนิค ไล่ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม ทรีทเม้นต์ น้ำแร่ ไปจนถึงผ้าปูเดียง เรียกได้ว่าใส่ใจทุกรายละเอียด มีกิจกรรมให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นการนวดออร์แกนิคทรีทเม้นต์ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพของคนเมือง การแช่น้ำแร่ออนเซ็นแบบต้นตำรับญี่ปุ่น ไปจนถึงคลาสออกกำลังกายต่างๆ นอกจากนั้นคุณยังสามารถขอคำปรึกษาและวิเคราะห์ปัญหาด้านสุขภาพได้อีกด้วย

สำหรับบ่อรวม จะแยกชายหญิง มีให้เลือกถึง 5 บ่อ ประกอบด้วย บ่อซิกเนเจอร์ที่นำน้ำแร่ออนเซ็นมาจากเมืองคุซัทสึ (Kusatsu) เมืองที่ตั้งอยู่ในหุบเขาในเขตจังหวัดกุนมะ ถือเป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น คุณประโยชน์หลักของน้ำแร่คุซัทสึช่วยในเรื่องลดการอักเสบของผิวหนัง และไขข้อ คลายความเมื่อยตึงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีบ่อตามฤดูกาล (Seasonal) ที่จะมีการสับเปลี่ยนนำน้ำแร่ที่ดีที่สุดจากเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่น มาให้ลูกค้าได้ใช้บริการตลอดทั้งปี พร้อมทั้ง บ่อโซดา บ่อน้ำเย็น และบ่อเจ็ท (Vitality Pool) ที่จะช่วยการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ซึ่งบรรยากาศภายในทั้งโปร่ง ดีไซน์งดงามน่าประทับใจ ระหว่างที่แช่น้ำเพลินๆ เราสามารถลุกขึ้นมานั่งพักในมุมโซฟาเบด หรือเดินไปเลือกสั่งอาหาร/เครื่องดื่มกินเล่นพลางๆ แล้วค่อยกลับไปแช่น้ำต่อ เพลิดเพลินจนลืมเวลาแน่นอน


Onsen ราคา 750 บาท เป็นแบบ Day-Pass สามารถแช่ได้ทั้งวัน ส่วน Akasuri ราคา 900 บาท หากซื้อเป็นแพ็ค ราคาจะอยู่ที่ 1,500 บาท



ทรีตเมนท์มีให้เลือกทั้งสำหรับผิวหน้า ผิวตัว และโปรแกรม เพื่อสร้างความสมดุลของร่างกายและจิตใจ ทรีตเมนท์ที่เป็นซิกเนเจอร์ออกแบบโดย Dr. Aaron Bullington คือ PAÑPURI Signature Massage ซึ่งเป็นทรีตเมนท์ 90 นาที ที่ผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมของโลกตะวันออก เช่น การกดจุด การนวดแผนไทย เข้ากับการนวดแบบสวีดิช เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย การนวดนั้นใช้ท่วงท่าที่เป็นแนวยาวและต่อเนื่อง กดลึก รวมถึงใช้การยืดเหยียดเพื่อช่วยลดความเครียดและผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ทำให้หลับสบายและช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
แพ็กเกจ Panpuri Signature Mind&Body Massage Revitalizing Retreat ราคา 6,900 บาท (คู่ 12,000 บาท) 240 นาที
แพ็กเกจ Panpuri Signature Pure Relaxation Body Ritual ราคา 5,400 บาท (คู่ 9,200บาท) 180 นาที
การได้นวดน้ำมันหลังจากที่ได้แช่น้ำแร่ออนเซ็นให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย คือที่สุดของประสบการณ์ที่เราอยากให้คุณได้ลองสักครั้ง และเรามั่นใจว่าคุณต้องอยากกลับมาอีก