Othertopias Eaux de Parfum คือคอลเลกชั่นน้ำหอมใหม่จาก Aesop ที่นำพาเราไปสู่สถานที่ซึ่งท้าทายการรับรู้และปลดล็อกเราสู่ความเพ้อฝันและจิตนาการ ด้วย 3 กลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครซึ่งพาเราไปสถานที่อันเป็นแรงบันดาลใจไม่ว่าจะเป็นการเดินเรือทะเล ชายหาด และดินแดนทิ้งร้าง ด้วยการรังสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมชาวฝรั่งเศสที่ร่วมงานกับแบรนด์มานานนับปี Barnabe Fillion ซึ่งบาซาร์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษถึงการสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และความน่าสนใจของ 3 กลิ่นหอมอันได้แก่ Miraceti, Karst และ Eremia ที่จะทำให้คุณเห็นภาพถึงดินแดนแห่งความหอมในจินตนาการครั้งนี้

Bazaar สิ่งแรกที่คุณคิดตอนถูกทาบทามให้รังสรรค์น้ำหอมในคอลเลกชั่น Othertopias คุณเริ่มไอเดียนี้จากที่ไหน?
Barnabe Fillion คอลเลกชั่นนี้เป็นการศึกษาเรื่องของช่องว่างเล็กๆที่เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเรื่อง เฮเทอโรโทเปีย (การปฏิเสธภาวะทางสังคม (ที่ไม่พึงพอใจ) ซึ่งนำไปสู่ภายในโลกสะท้อนที่เป็นการซ้อนทับของมิติอันเป็นโลกที่ถวิลหาและต่างออกไป) โดยแนวคิดนี้เป็นแกนหลักในการพัฒนาน้ำหอมและแสดงความเคารพต่อผลงานของ Gaston Bachelard และนักปรัชญาอื่นๆ รวมถึงนักคิดที่ทำงานเกี่ยวกับไอเดียนี้ที่มีความเกี่ยวข้องกับความเป็นจริง ไม่ใช่แนวคิดแบบยูโทเปีย (ความสมบูรณ์แบบในอุดมคติ) แต่มีการเชื่อมต่อกับตำนานหรือบทกวีที่สามารถทำให้เราปลดล็อกความเพ้อฝันได้
BZ เป็นไปได้ไหมที่คอลเลกชั่นนี้จะมีบทบาทอย่างมากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดนี้ เนื่องจากผู้คนต่างกำลังมองหาสิ่งที่มา ‘ปลอบโยน’ และนำพาพวกเราเข้าหาสถานที่ที่จะหลบหนีจากความเป็นจริง?
BF Othertopias เป็นการสร้างความตระหนักถึงพื้นที่ภูมิทัศน์ ที่เปิดหน้าต่างสู่ธรรมชาติ สู่จินตนาการ ความทรงจำ และนามธรรม ซึ่งการซ้อนทับของพื้นที่ในคอลเลกชั่นนี้ทำให้คนต้องการน้ำหอมที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและต้องใช้ประสบการณ์มากขึ้นอีกเล็กน้อยในการรับรู้ ผมหวังว่าจะสามารถนำผู้ใช้ให้มีส่วนร่วมในดินแดนแห่งนี้ ที่ซึ่งผู้คนต้องการค้นหาความจริงของพวกเขา ไม่เพียงจะเห็นสิ่งตามที่มันเป็นจริงๆ แต่ก็เข้าใจในการรับรู้ที่แตกต่างกันด้วย ผมขอใช้ชายฝั่งเป็นตัวอย่าง เมื่อคุณไปทะเล นั่งอยู่ริมชายหาดและมองไปที่ทะเลกับเพื่อน คุณและเพื่อนมองโลกนี้แตกต่างกัน แม้ว่าจะนั่งอยู่ในจุดเดียวกัน ด้วยกัน มองสิ่งเดียวกัน แต่คุณต่างก็มองเห็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทะเลเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับโปรเจ็คท์นี้และในชีวิตจริง จุดมุ่งหมายโปรเจ็คท์นี้ก็คือการให้เรารู้สึกถึงเสรีภาพและเรียกร้องให้คุณใช้อารมณ์ร่วมไปกับการรับรู้ที่แตกต่างออกไป
BZ เป็นคอนเซ็ปท์ที่น่าสนใจมาก อะไรคือกระบวนการของการจับภาพแก่นแท้ของสถานที่เป็นกลิ่น คุณใช้แนวทางอะไร เน้นไปที่สถานที่ที่มีอยู่จริงหรือในจินตนาการ?
BF ผมทำงานร่วมกับเพื่อนที่เป็นนักปรัชญา และพบข้อความหลักหลายอย่างของเฮเทอโรโทเปีย ซึ่งเราคิดถึงน้ำหอมที่เป็นเฮเทอโรโทเปียด้วยตัวของมันเอง และวิธีการที่สร้างสร้างสรรค์คอลเลกชั่นภายใต้แนวคิดนี้ เราคิดถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ พื้นที่ทางบทกวี และพื้นที่ที่เป็นนามธรรม โดยเราเริ่มแนวคิดของน้ำหอมที่จะพาเราไปสู่ภูมิทัศน์ในบทกวี มันจึงผนวกความเป็นปรัชญา ทำให้เราเข้าถึงความเป็นจริง ซึ่งชัดเจนกว่าการใช้ประสบการณ์เพราะมันคือน้ำหอม
สุนทรียภาพเบื้องหลังแนวคิดนี้คือการเปลี่ยนสิ่งที่เป็นกายภาพสู่สิ่งที่เป็นมโนภาพ มันคือภาพในใจของผู้อ่านบทกวี ซึ่งในขณะเดียวกันวรรณกรรมก็ถือเป็นเฮเทอโรโทเปียเช่นเดียวกับน้ำหอม ผมได้รวบรวมแนวคิดทางปรัชญาและแลกเปลี่ยนกับทีมเอสอป แล้วจึงเริ่มการคิดค้นสูตรน้ำหอม เมื่อผมพูดถึงไอเดียของภาพที่ผู้อ่านเห็นเมื่ออ่านบทกวี สิ่งนี้ทำให้ภาพของน้ำหอมค่อยๆเกิดขึ้นทีละน้อยผ่านการสนทนา การศึกษา และการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สำหรับเอสอปน้ำหอม Othertopias แต่ละกลิ่นเป็นเครื่องมือในการวัดระดับความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ไอเดียนี้คือการอยู่คู่กันของความฝันและความทรงจำ ความเป็นจริงและตำนาน พื้นที่ว่างและเวลา รวมถึงมนุษย์และธรรมชาติ มันคือการเทียบคู่กันของแนวคิดต่างๆที่มีความสำคัญ
BZ ขั้นตอนใดที่คุณคิดว่ามีความท้าทายมากที่สุด?
BF เราต้องการจะมั่นใจว่าน้ำหอมแต่ละกลิ่นมีความโดดเด่นและไม่เหมือนใคร ต่างไปจากน้ำหอมเอสอปที่มีอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องการความมั่นใจด้วยว่าน้ำหอมเหล่านี้มีความสอดคล้องกันเป็นคอลเลกชั่น เพราะน้ำหอมแต่ละกลิ่นมีความแตกต่างกันมาก และมันยังท้าทายที่จะนำเสนอความโดดเด่นของแต่ละกลิ่นให้มีความเชื่อมโยงกันในขณะเดียวกัน
BZ คุณรู้สึกอย่างไรในการทำงานกับน้ำหอม 3 กลิ่นที่แตกต่างในคราวเดียวกันและต้องทำให้มันมีความสอดคล้องกันอีกด้วย?
BF เลขคี่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับเอสอป ในคอลเลกชั่นนี้มีทั้งหมด 6 กลิ่น และเรารู้สึกว่ามันน่าสนใจที่จะปล่อยออกมาทีละครึ่ง เพื่อให้คุณรับประสบการณ์ของ Othertopias อย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกันเราก็เล่นกับการเทียบเคียงกันของน้ำหอม การมีแค่กลิ่นเดียวอาจจะไม่ทำให้เห็นภาพชัดนัก แต่เราก็ไม่ต้องการให้มันจับคู่กันด้วยเช่นกัน 3 กลิ่นนี่ล่ะเวิร์ค เพราะมันนำสู่มิติที่หลากหลาย ซึ่งเราจะทบทวนกันอีกครั้งกับการปล่อย 3 กลิ่นที่เหลือ
BZ คุณมีสถานที่เฉพาะที่สร้างแรงบันดาลใจ หรือทำให้เห็นภาพของ Karst และ Eremia ไหม?
BF ภาพแรกก็คือแนวคิดที่เราเรียกว่า ‘Khora’ ในปรัชญากรีก มันคือช่องว่างเล็กๆด้านนอกของเมือง เป็นพื้นที่ที่คุณมองเห็นจากในเมืองและรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ไกลเกินไป ที่ซึ่งคุณยังรู้สึกได้ชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ สวนหลายแห่งที่ขึ้นชื่อในวัฒนธรรมกรีกก็มาจาก Khora อีกนัยหนึ่ง Kora คือสวน เราต้องการเล่นกับ 2 ภาพนี้ เมืองและสวนนอกเมืองซึ่งเป็นสถานที่สะท้อนของสรวงสวรรค์ เราคิดถึง ‘สวน’ และโลกพฤกษศาสตร์ที่มาพร้อมกัน และปรากฏการ์ทางธรรมชาติที่ต่อต้านโลกคอนกรีต มันยังไม่ได้เป็นสวนซะทีเดียว เป็นเหมือนพื้นที่รกร้างมากกว่า เป็นพื้นที่ในเมืองที่ธรรมชาติกำลังทวงคืน นี่เป็นภาพที่ชัดเจนมากสำหรับ Eremia
ส่วน Karst เราได้แนวคิดมาจากแนวชายฝั่ง การอยู่บนยอดของหน้าผาและความรู้สึกถึงเสรีภาพเมื่อได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ที่ซึ่งนักปรัชญา Neitzsche พูดบ่อยครั้งว่าน้ำหอมที่ดีที่สุดควรเป็นอย่างไร กลิ่นหอมที่สุดที่คุณมีประสบการณ์มาในชีวิตก็คือกลิ่นของอากาศบริสุทธิ์ที่แท้จริง เราต้องการสร้างความเกินจริงในที่นี้ ดังนั้นใน Karst ก็เลยจะเป็นกลิ่นบางเบาราวอากาศ แนวคิดนี้คือความเป็นกลาง อยู่ระหว่างการรุกรานของทะเลและเขตแนวชายฝั่ง เมื่อทะเลสร้างชายฝั่งผ่านการกัดเซาะ นี่คือดินแดนตรงกลางระหว่างปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้งสองนี้เป็นพื้นที่มหัศจรรย์ ผมมักพูดถึง Henry Corbin นักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศสที่เก่งที่สุดสำหรับผม เขาเขียนหนังสือพูดเกี่ยวกับดินแดนชายฝั่ง อธิบายว่าเราค้นพบอดีตของเราจากสิ่งที่ถูกท้องทะเลกลืนกิน ณ แนวชายฝั่งคุณจะพบตะกอน เศษไม้ หรือซากฟอสซิล สิ่งซึ่งเราจะไม่มีทางหาพบหากไม่มีการกัดเซาะของคลื่นกระทบฝั่ง
BZ สำหรับ Karst ที่คุณบอกว่ามันคือกลิ่นของชายหาด ส่วนผสมใดที่จำลองกลิ่นน้ำจากท้องทะเล?
BF Karst เปิดตัวด้วยกลิ่นสดชื่นของเครื่องเทศที่นุ่มนวลอย่างจูนิเปอร์ แทนการกล่าวถึงกลิ่นหอมแห่งจิตวิญญาน ตามด้วยกลิ่นสดชื่นของพริกไทสีชมพูและกลิ่นหอมอบอุ่นของพริกไทดำที่ช่วยสร้างความสมดุลกลิ่นที่มาถ่วงดุลความหอมของเครื่องเทศเหล่านี้ก็คือเบอร์กาม็อทซึ่งนำความสว่างไสว กระปรี้กระเปร่าและความสง่างามเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยที่กลิ่นท็อปโน๊ตทั้งหมดจะให้กลิ่นที่เกือบจะคล้ายกับกลิ่นของน้ำแร่ ซึ่งเป็นการเบลนกลิ่นเพื่อนำพาผู้ที่ใช้ไปยังชายฝั่งทะเลเมติเตอร์เรเนียน โดยคาแรคเตอร์กลิ่นเปิดโดยรวมของน้ำหอมเป็นกลิ่นคล้ายการรวมกันของ ‘น้ำแร่-มะนาว-จิน’

BZ สำหรับ Miraceti อันเป็นกลิ่นตัวแทนของการเดินเรือ อยากทราบว่ากลิ่นของวิสกี้ในนั้นมาจากวิสกี้จริงๆหรืออย่างอื่นคะ?
BF กลิ่นนี้เป็นกลิ่นของคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมของวิสกี้ ผมใช้การสกัดบรั่นดีมาเป็นส่วนผสมพิเศษ มันค่อนข้างไม่ธรรมดา เพราะคนส่วนใหญ่มักจะใช้กลิ่นของรัม ดังนั้นคุณต้องกลั่นและเปลี่ยนส่วนผสมเหล่านี้เพื่อมาใช้ในน้ำหอม ผมเคยใช้กลิ่นยาสูบมาก่อนใน Istros Room Spray ซึ่งกลิ่นนี้ก็มีอยู่เช่นกันใน Miraceti นี้
BZ พอจะพูดได้ไหมว่า Miraceti เหมาะสำหรับผู้ชายมากกว่า เนื่องจากแนวคิดของกะลาสีนักเดินเรือและกลิ่นวิสกี้นี้?
BF จริงๆแล้ว Miraceti เปิดกว้าง เพราะรวมองค์ประกอบสิ่งที่ลอยอยู่ในทะเลมาเป็นเวลานาน อย่างกลิ่นอายเรือไม้ที่ลอยละล่องในทะเลก็เป็นส่วนผสมที่มีความสำคัญมากซึ่งผมนำกลิ่นไม้สดผสานกับกลิ่นของไม้ซีดาร์ ทำให้ได้กลิ่นที่แตกต่างมากมายออกมาจากในกลิ่นเดียว ผมยังมอบกลิ่นผ้าใบของใบเรือและกลิ่นของห้องเก็บเหล้าใต้ดินที่อุทิศให้กับ Edgar Allan Poe ซึ่งมีกลิ่นของเหล้าลอยอบอวลอยู่ในนั้น ผสานกลิ่นกำยาน สาหร่ายทะเล และชะมดต้นเพื่อมอบเป็นกลิ่นไม้ที่อบอุ่น ผมยังเพิ่มกลิ่นของสมุนไพรเข้าไปให้ความสดชื่น นี่ถือเป็นกลิ่นน้ำหอมซับซ้อนที่สุดที่ผมเคยปรุงมา

BZ ช่วยพูดถึงกลิ่น Eremia ด้วยค่ะ
BF นี่คือกลิ่นตัวแทนของดินแดนที่ถูกทิ้งร้าง เป็นพื้นที่ในเมืองที่ธรรมชาติกำลังทวงคืน แม้จะขมุกขมัวแต่ก็เปี่ยมด้วยความงามที่ซึ่งมนุษย์เกิดความพิศวงสงสัยหลงลืมความจริงไปชั่วขณะ ผมต้องการมอบกลิ่นหอมซึ่งเป็นการส่งข้อความไร้เสียงระหว่างความเป็นเมืองและธรรมชาติ ด้วยกลิ่นของยางไม้ยี่หร่า ไอริส และยูสุ ถูกปรุงขึ้นเป็นกลิ่นหอมที่สดใส สดชื่นด้วยกลิ่นของซิทรัสแฝงกลิ่นไอดิน อันชวนให้นึกถึงการเจริญเติบโตของพืชอย่างมอสและดอกไม้ป่า แฝงด้วยกลิ่นมัสก์และกลิ่นคอนกรีตหลังฝนตก

BZ ในน้ำหอมทั้ง 3 กลิ่นนี้ คุณว่ากลิ่นไหนเข้าถึงง่ายที่สุด?
BF พวกมันทั้งซับซ้อนและมีความแตกต่าง น้ำหอมของเราไม่มีขอบเขตแห่งเพศ พวกมันเหมาะกับทุกคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมที่มีความเฉพาะตัวชวนประทับใจ ซึ่งความน่าดึงดูดโดยรวมของ Othertopias นี้เกิดจากการสร้างความสมดุลของกลิ่นดราย กลิ่นไม้ กลิ่นสดชื่น และสะอาด ซึ่งจะมีอยู่ในทุกกลิ่นของน้ำหอมในคอลเลกชั่นนี้
BZ คุณคงไม่สามารถเลือกกลิ่นโปรดที่สุดได้ แต่พอจะอธิบายได้ไหมว่าน้ำหอมแต่ละกลิ่นเหมาะกับการใช้ในโอกาสใดบ้าง?
BF น้ำหอมของเราคือการแสดงอารมณ์มากกว่าจะเป็นใบสั่งยา การตอบสนองของแต่ละคนต่อน้ำหอมนั้นแตกต่างกันและเป็นส่วนตัวเอามากๆ พวกเขาจึงควรเลือกกลิ่นที่ใช่สำหรับตัวเอง มีกลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพรที่สอดประสานในกลิ่นน้ำหอมเหล่านี้ ซึ่งบางคนอาจจะชื่นชอบกลิ่นหอมสดชื่นของซิทรัสใน Eremia มากกว่าในช่วงฤดูร้อนอันปลอดโปร่ง กลิ่นไม้แห้งและกลิ่นอายของดินก็อาจจะดึงดูดบางคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมสำหรับใช้ในยามค่ำคืน
สิ่งที่เราจะทำต่อไปก็คือการสร้างคาแรคเตอร์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นให้กับน้ำหอมกลิ่นต่างๆของเรา และเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาสำรวจและตีความกลิ่นหอมเหล่านี้ในแบบของพวกเขาเอง
BZ เหตุใดน้ำหอมของ Aesop จึงมีความพิเศษไม่เหมือนใคร และปรัชญาของคุณในฐานะนักปรุงน้ำหอมของแบรนด์ Aesop คืออะไร?
BF เอสอปถือว่าการรังสรรค์น้ำหอมเป็นเสมือนแบบฝึกหัดที่หลอมรวมบทกวีและวิทยาศาสตร์ ซึ่งเริ่มต้นด้วยแรงบันดาลใจในมิติต่างๆหลายแง่มุม ผ่านกระบวนการที่ใส่ใจและเคารพต่อส่วนผสมอันหลากหลายซึ่งส่งผ่านอารมณ์ความรู้สึก ทำให้มันมีความซับซ้อน ด้วยสูตรผสมที่ไม่คาดฝันซึ่งสร้างความกลมกลืนกับการนำเสนอวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและปรัชญาของแบรนด์ สำหรับคนที่มองหากลิ่นน้ำหอมที่ซับซ้อน มีความเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และไร้ข้อจำกัด

Miraceti กลิ่นหอมที่เป็นตัวแทนของการเดินเรือในมหาสมุทร
ด้วยแนวกลิ่นสไปซี่-วู้ดดี้ ของยางไม้ กำยาน ชะมดต้น สาหร่ายทะเล และเครื่องเทศ ผสานกลิ่นไม้ ผ้าใบ ยาสูบ และวิสกี้เจือจาง อันเป็นสัญลักษณ์ของการเดินเรือทะเล กลิ่นนี้ในบรรดาทั้งสามกลิ่นถือว่าเป็นกลิ่นที่มีความมัสคิวลีนมากที่สุด ด้วยกลิ่นหอมที่ค่อนข้างซับซ้อน น่าค้นหา แต่อบอุ่น สัมผัสแรกให้อารมณ์สดชื่นเหมือนกลิ่นลมทะเลพัดผ่าน ตามด้วยกลิ่นที่ซับซ้อนขึ้นมีความนัวร์ให้ความรู้สึกลึกลับชวนค้นหาด้วยกลิ่นของยาสูบและวิสกี้ ปิดท้ายด้วยกลิ่นฐานที่อบอุ่นสะอาดของกำยานและเครื่องเทศ ซึ่งบอกเลยว่ากลิ่นนี้ติดผิวได้ยาวนานมากจริงๆ
ถ้าให้เปรียบเป็นคาแรคเตอร์นี่คือกลิ่นที่ให้ภาพของคนที่มีโลกส่วนตัวสูง รักสันโดษ แรกๆอาจจะดูเหมือนเข้าถึงยากแต่ถ้าได้ลองทำความรู้จักแล้วคุณจะหลงรักในความเป็นตัวของตัวเอง มีความน่าค้นหา เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นนักคิด และเป็นคนที่อบอุ่นเมื่อได้รู้จัก (ถึงภายนอกจะดูเย็นชาก็เถอะ คุณอาจต้องเวลาสักนิดในการเรียนรู้) ที่สำคัญบอกเลยว่าเป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน

Karst กลิ่นหอมอันสดชื่นของชายหาดทอดยาวและการกัดเซาะของคลื่นธรรมชาติ
มาพร้อมกลิ่นหอมของเหล่าพืชสมุนไพรสะท้อนความสดชื่นของอากาศบริสุทธิ์และสายน้ำ ด้วยการผสมผสานกันของเครื่องเทศที่อบอุ่น ไม้แห้ง และแร่ธาตุ ที่ให้ความรู้สึกเสมือนคุณใช้เวลาที่ริมชายหาดจิบจินโทนิกเย็นๆพร้อมมองออกไปไกลๆ กลิ่นนี้โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นกลิ่นที่เข้าถึงได้ง่าย ด้วยสัมผัสแรกที่สดชื่นเหมือนสายน้ำและการสาดซัดของคลื่นด้วยกลิ่นของจูนิเปอร์ ตามด้วยความหอมของพริกไทดำและชมพูบางเบา ผสานขมิ้น แซดัลวู้ด และกลิ่นของแร่ธาตุที่มีความเค็มนิดๆชวนให้นึกถึงน้ำทะเลและการก่อตัวของพายุที่กำลังใกล้เข้ามา คือถึงจะสดชื่นแต่ก็มีความน่าสนใจ ซึ่งสัมผัสที่ตามมาและกลิ่นฐานนั้นจะให้ความรู้สึกสดชื่นเย็นสบายเหมือนผิวที่โดนลมทะเล โดยกลิ่นนี้นั้นจะมีกลิ่นหอมที่ชวนให้นึกถึงความสะอาดสดชื่นของน้ำได้อย่างชัดเจน
ถ้าให้นึกถึงคาแรคเตอร์ นี่คือกลิ่นหอมของคนที่มีชีวิตชีวา รักความอิสระ ไม่ชอบการผูกมัด เป็นคนที่สบายๆ เข้าถึงง่ายและเป็นมิตร แต่ก็มีแง่มุมที่เป็นส่วนตัวอยู่หน่อยๆ
Ecremia กลิ่นหอมตัวแทนของดินแดนที่ถูกทิ้งร้างอันเงียบสงบ
อีกหนึ่งกลิ่นที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนแต่น่าสนใจ ให้ความรู้สึกถึงความเงียบสงบสันโดษ ด้วยการเปิดกลิ่นแรกที่หอมสดชื่นน่าตื่นใจของส้มยูซุ เกรพฟรุ๊ต และเบอร์กาม็อท ที่จะกระตุ้นสัมผัส ตามด้วยกลิ่นสะอาดสดชื่นของกัลบานัมซึ่งมีรสขมนิดๆและมิโมซ่านำพาสู่สัมผัสกลางของเหล่าดอกไม้และแว๊กซ์ที่ให้ความรู้สึกสงบเรียบง่าย กลิ่นฐานที่นำพาสู่ความรู้สึกของความว่างเปล่าด้วยกลิ่นของแพทชูลี่ ไอริส และดรายวู้ดให้ความรู้สึกสง่างาม เยือกเย็น มีกลิ่นของแป้งนิดๆ เป็นกลิ่นหอมที่ทำให้เหมือนกำลังยืนอยู่ในดินแดนที่ว่างเปล่าถูกทิ้งร้างจริงๆเหมือนกำลังอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่มีแต่ความรู้สึกเงียบสงบสบายใจ กลิ่นนี้เป็นอีกกลิ่นที่ติดอยู่บนผิวได้ยาวนานไม่แพ้ Miraceti
สำหรับคาแรคเตอร์ของกลิ่นนี้ถ้าจะให้เห็นภาพคือคนที่รักสันโดษ มีโลกส่วนตัวสูง เกลียดความวุ่นวาย เป็นตัวของตัวเองที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา ค่อนข้างเคร่งขรึม ใจเย็นมีเหตุผล และมีความเป็นผู้ใหญ่
ซึ่งทั้งสามกลิ่นนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ใครที่ชอบแนวไหนนั้น จะให้ดีถ้าได้ลองสัมผัสบนผิวจริงๆคุณอาจจะเซอร์ไพรส์ตัวเองก็ได้ที่ชอบกลิ่นนั้นๆ บอกเลยว่าสำหรับแฟนเอสอปแล้วคอลเลกชั่นนี้เป็นกลิ่นหอมที่ช่วยพาเราออกจากโมเม้นท์ที่น่าตึงเครียดนี้ได้เป็นอย่างดี
ทั้ง Miraceti, Karst และ Ecremia มาในขนาด 50 มล. ราคา 6,400 บาท

Barnabe Fillion คอลเลกชั่นนี้เป็นการศึกษาเรื่องของช่องว่างเล็กๆที่เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเรื่อง เฮเทอโรโทเปีย (การปฏิเสธภาวะทางสังคม (ที่ไม่พึงพอใจ) ซึ่งนำไปสู่ภายในโลกสะท้อนที่เป็นการซ้อนทับของมิติอันเป็นโลกที่ถวิลหาและต่างออกไป) โดยแนวคิดนี้เป็นแกนหลักในการพัฒนาน้ำหอมและแสดงความเคารพต่อผลงานของ Gaston Bachelard และนักปรัชญาอื่นๆ รวมถึงนักคิดที่ทำงานเกี่ยวกับไอเดียนี้ที่มีความเกี่ยวข้องกับความเป็นจริง ไม่ใช่แนวคิดแบบยูโทเปีย (ความสมบูรณ์แบบในอุดมคติ) แต่มีการเชื่อมต่อกับตำนานหรือบทกวีที่สามารถทำให้เราปลดล็อกความเพ้อฝันได้
BZ เป็นไปได้ไหมที่คอลเลกชั่นนี้จะมีบทบาทอย่างมากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดนี้ เนื่องจากผู้คนต่างกำลังมองหาสิ่งที่มา ‘ปลอบโยน’ และนำพาพวกเราเข้าหาสถานที่ที่จะหลบหนีจากความเป็นจริง?
BF Othertopias เป็นการสร้างความตระหนักถึงพื้นที่ภูมิทัศน์ ที่เปิดหน้าต่างสู่ธรรมชาติ สู่จินตนาการ ความทรงจำ และนามธรรม ซึ่งการซ้อนทับของพื้นที่ในคอลเลกชั่นนี้ทำให้คนต้องการน้ำหอมที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและต้องใช้ประสบการณ์มากขึ้นอีกเล็กน้อยในการรับรู้ ผมหวังว่าจะสามารถนำผู้ใช้ให้มีส่วนร่วมในดินแดนแห่งนี้ ที่ซึ่งผู้คนต้องการค้นหาความจริงของพวกเขา ไม่เพียงจะเห็นสิ่งตามที่มันเป็นจริงๆ แต่ก็เข้าใจในการรับรู้ที่แตกต่างกันด้วย ผมขอใช้ชายฝั่งเป็นตัวอย่าง เมื่อคุณไปทะเล นั่งอยู่ริมชายหาดและมองไปที่ทะเลกับเพื่อน คุณและเพื่อนมองโลกนี้แตกต่างกัน แม้ว่าจะนั่งอยู่ในจุดเดียวกัน ด้วยกัน มองสิ่งเดียวกัน แต่คุณต่างก็มองเห็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทะเลเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับโปรเจ็คท์นี้และในชีวิตจริง จุดมุ่งหมายโปรเจ็คท์นี้ก็คือการให้เรารู้สึกถึงเสรีภาพและเรียกร้องให้คุณใช้อารมณ์ร่วมไปกับการรับรู้ที่แตกต่างออกไป
BZ เป็นคอนเซ็ปท์ที่น่าสนใจมาก อะไรคือกระบวนการของการจับภาพแก่นแท้ของสถานที่เป็นกลิ่น คุณใช้แนวทางอะไร เน้นไปที่สถานที่ที่มีอยู่จริงหรือในจินตนาการ?
BF ผมทำงานร่วมกับเพื่อนที่เป็นนักปรัชญา และพบข้อความหลักหลายอย่างของเฮเทอโรโทเปีย ซึ่งเราคิดถึงน้ำหอมที่เป็นเฮเทอโรโทเปียด้วยตัวของมันเอง และวิธีการที่สร้างสร้างสรรค์คอลเลกชั่นภายใต้แนวคิดนี้ เราคิดถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ พื้นที่ทางบทกวี และพื้นที่ที่เป็นนามธรรม โดยเราเริ่มแนวคิดของน้ำหอมที่จะพาเราไปสู่ภูมิทัศน์ในบทกวี มันจึงผนวกความเป็นปรัชญา ทำให้เราเข้าถึงความเป็นจริง ซึ่งชัดเจนกว่าการใช้ประสบการณ์เพราะมันคือน้ำหอม
สุนทรียภาพเบื้องหลังแนวคิดนี้คือการเปลี่ยนสิ่งที่เป็นกายภาพสู่สิ่งที่เป็นมโนภาพ มันคือภาพในใจของผู้อ่านบทกวี ซึ่งในขณะเดียวกันวรรณกรรมก็ถือเป็นเฮเทอโรโทเปียเช่นเดียวกับน้ำหอม ผมได้รวบรวมแนวคิดทางปรัชญาและแลกเปลี่ยนกับทีมเอสอป แล้วจึงเริ่มการคิดค้นสูตรน้ำหอม เมื่อผมพูดถึงไอเดียของภาพที่ผู้อ่านเห็นเมื่ออ่านบทกวี สิ่งนี้ทำให้ภาพของน้ำหอมค่อยๆเกิดขึ้นทีละน้อยผ่านการสนทนา การศึกษา และการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สำหรับเอสอปน้ำหอม Othertopias แต่ละกลิ่นเป็นเครื่องมือในการวัดระดับความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ไอเดียนี้คือการอยู่คู่กันของความฝันและความทรงจำ ความเป็นจริงและตำนาน พื้นที่ว่างและเวลา รวมถึงมนุษย์และธรรมชาติ มันคือการเทียบคู่กันของแนวคิดต่างๆที่มีความสำคัญ

BF เราต้องการจะมั่นใจว่าน้ำหอมแต่ละกลิ่นมีความโดดเด่นและไม่เหมือนใคร ต่างไปจากน้ำหอมเอสอปที่มีอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องการความมั่นใจด้วยว่าน้ำหอมเหล่านี้มีความสอดคล้องกันเป็นคอลเลกชั่น เพราะน้ำหอมแต่ละกลิ่นมีความแตกต่างกันมาก และมันยังท้าทายที่จะนำเสนอความโดดเด่นของแต่ละกลิ่นให้มีความเชื่อมโยงกันในขณะเดียวกัน
BZ คุณรู้สึกอย่างไรในการทำงานกับน้ำหอม 3 กลิ่นที่แตกต่างในคราวเดียวกันและต้องทำให้มันมีความสอดคล้องกันอีกด้วย?
BF เลขคี่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับเอสอป ในคอลเลกชั่นนี้มีทั้งหมด 6 กลิ่น และเรารู้สึกว่ามันน่าสนใจที่จะปล่อยออกมาทีละครึ่ง เพื่อให้คุณรับประสบการณ์ของ Othertopias อย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกันเราก็เล่นกับการเทียบเคียงกันของน้ำหอม การมีแค่กลิ่นเดียวอาจจะไม่ทำให้เห็นภาพชัดนัก แต่เราก็ไม่ต้องการให้มันจับคู่กันด้วยเช่นกัน 3 กลิ่นนี่ล่ะเวิร์ค เพราะมันนำสู่มิติที่หลากหลาย ซึ่งเราจะทบทวนกันอีกครั้งกับการปล่อย 3 กลิ่นที่เหลือ

BF ภาพแรกก็คือแนวคิดที่เราเรียกว่า ‘Khora’ ในปรัชญากรีก มันคือช่องว่างเล็กๆด้านนอกของเมือง เป็นพื้นที่ที่คุณมองเห็นจากในเมืองและรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ไกลเกินไป ที่ซึ่งคุณยังรู้สึกได้ชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ สวนหลายแห่งที่ขึ้นชื่อในวัฒนธรรมกรีกก็มาจาก Khora อีกนัยหนึ่ง Kora คือสวน เราต้องการเล่นกับ 2 ภาพนี้ เมืองและสวนนอกเมืองซึ่งเป็นสถานที่สะท้อนของสรวงสวรรค์ เราคิดถึง ‘สวน’ และโลกพฤกษศาสตร์ที่มาพร้อมกัน และปรากฏการ์ทางธรรมชาติที่ต่อต้านโลกคอนกรีต มันยังไม่ได้เป็นสวนซะทีเดียว เป็นเหมือนพื้นที่รกร้างมากกว่า เป็นพื้นที่ในเมืองที่ธรรมชาติกำลังทวงคืน นี่เป็นภาพที่ชัดเจนมากสำหรับ Eremia
ส่วน Karst เราได้แนวคิดมาจากแนวชายฝั่ง การอยู่บนยอดของหน้าผาและความรู้สึกถึงเสรีภาพเมื่อได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ที่ซึ่งนักปรัชญา Neitzsche พูดบ่อยครั้งว่าน้ำหอมที่ดีที่สุดควรเป็นอย่างไร กลิ่นหอมที่สุดที่คุณมีประสบการณ์มาในชีวิตก็คือกลิ่นของอากาศบริสุทธิ์ที่แท้จริง เราต้องการสร้างความเกินจริงในที่นี้ ดังนั้นใน Karst ก็เลยจะเป็นกลิ่นบางเบาราวอากาศ แนวคิดนี้คือความเป็นกลาง อยู่ระหว่างการรุกรานของทะเลและเขตแนวชายฝั่ง เมื่อทะเลสร้างชายฝั่งผ่านการกัดเซาะ นี่คือดินแดนตรงกลางระหว่างปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้งสองนี้เป็นพื้นที่มหัศจรรย์ ผมมักพูดถึง Henry Corbin นักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศสที่เก่งที่สุดสำหรับผม เขาเขียนหนังสือพูดเกี่ยวกับดินแดนชายฝั่ง อธิบายว่าเราค้นพบอดีตของเราจากสิ่งที่ถูกท้องทะเลกลืนกิน ณ แนวชายฝั่งคุณจะพบตะกอน เศษไม้ หรือซากฟอสซิล สิ่งซึ่งเราจะไม่มีทางหาพบหากไม่มีการกัดเซาะของคลื่นกระทบฝั่ง

BF Karst เปิดตัวด้วยกลิ่นสดชื่นของเครื่องเทศที่นุ่มนวลอย่างจูนิเปอร์ แทนการกล่าวถึงกลิ่นหอมแห่งจิตวิญญาน ตามด้วยกลิ่นสดชื่นของพริกไทสีชมพูและกลิ่นหอมอบอุ่นของพริกไทดำที่ช่วยสร้างความสมดุลกลิ่นที่มาถ่วงดุลความหอมของเครื่องเทศเหล่านี้ก็คือเบอร์กาม็อทซึ่งนำความสว่างไสว กระปรี้กระเปร่าและความสง่างามเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยที่กลิ่นท็อปโน๊ตทั้งหมดจะให้กลิ่นที่เกือบจะคล้ายกับกลิ่นของน้ำแร่ ซึ่งเป็นการเบลนกลิ่นเพื่อนำพาผู้ที่ใช้ไปยังชายฝั่งทะเลเมติเตอร์เรเนียน โดยคาแรคเตอร์กลิ่นเปิดโดยรวมของน้ำหอมเป็นกลิ่นคล้ายการรวมกันของ ‘น้ำแร่-มะนาว-จิน’

BF กลิ่นนี้เป็นกลิ่นของคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมของวิสกี้ ผมใช้การสกัดบรั่นดีมาเป็นส่วนผสมพิเศษ มันค่อนข้างไม่ธรรมดา เพราะคนส่วนใหญ่มักจะใช้กลิ่นของรัม ดังนั้นคุณต้องกลั่นและเปลี่ยนส่วนผสมเหล่านี้เพื่อมาใช้ในน้ำหอม ผมเคยใช้กลิ่นยาสูบมาก่อนใน Istros Room Spray ซึ่งกลิ่นนี้ก็มีอยู่เช่นกันใน Miraceti นี้
BZ พอจะพูดได้ไหมว่า Miraceti เหมาะสำหรับผู้ชายมากกว่า เนื่องจากแนวคิดของกะลาสีนักเดินเรือและกลิ่นวิสกี้นี้?
BF จริงๆแล้ว Miraceti เปิดกว้าง เพราะรวมองค์ประกอบสิ่งที่ลอยอยู่ในทะเลมาเป็นเวลานาน อย่างกลิ่นอายเรือไม้ที่ลอยละล่องในทะเลก็เป็นส่วนผสมที่มีความสำคัญมากซึ่งผมนำกลิ่นไม้สดผสานกับกลิ่นของไม้ซีดาร์ ทำให้ได้กลิ่นที่แตกต่างมากมายออกมาจากในกลิ่นเดียว ผมยังมอบกลิ่นผ้าใบของใบเรือและกลิ่นของห้องเก็บเหล้าใต้ดินที่อุทิศให้กับ Edgar Allan Poe ซึ่งมีกลิ่นของเหล้าลอยอบอวลอยู่ในนั้น ผสานกลิ่นกำยาน สาหร่ายทะเล และชะมดต้นเพื่อมอบเป็นกลิ่นไม้ที่อบอุ่น ผมยังเพิ่มกลิ่นของสมุนไพรเข้าไปให้ความสดชื่น นี่ถือเป็นกลิ่นน้ำหอมซับซ้อนที่สุดที่ผมเคยปรุงมา

BF นี่คือกลิ่นตัวแทนของดินแดนที่ถูกทิ้งร้าง เป็นพื้นที่ในเมืองที่ธรรมชาติกำลังทวงคืน แม้จะขมุกขมัวแต่ก็เปี่ยมด้วยความงามที่ซึ่งมนุษย์เกิดความพิศวงสงสัยหลงลืมความจริงไปชั่วขณะ ผมต้องการมอบกลิ่นหอมซึ่งเป็นการส่งข้อความไร้เสียงระหว่างความเป็นเมืองและธรรมชาติ ด้วยกลิ่นของยางไม้ยี่หร่า ไอริส และยูสุ ถูกปรุงขึ้นเป็นกลิ่นหอมที่สดใส สดชื่นด้วยกลิ่นของซิทรัสแฝงกลิ่นไอดิน อันชวนให้นึกถึงการเจริญเติบโตของพืชอย่างมอสและดอกไม้ป่า แฝงด้วยกลิ่นมัสก์และกลิ่นคอนกรีตหลังฝนตก

BF พวกมันทั้งซับซ้อนและมีความแตกต่าง น้ำหอมของเราไม่มีขอบเขตแห่งเพศ พวกมันเหมาะกับทุกคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมที่มีความเฉพาะตัวชวนประทับใจ ซึ่งความน่าดึงดูดโดยรวมของ Othertopias นี้เกิดจากการสร้างความสมดุลของกลิ่นดราย กลิ่นไม้ กลิ่นสดชื่น และสะอาด ซึ่งจะมีอยู่ในทุกกลิ่นของน้ำหอมในคอลเลกชั่นนี้
BZ คุณคงไม่สามารถเลือกกลิ่นโปรดที่สุดได้ แต่พอจะอธิบายได้ไหมว่าน้ำหอมแต่ละกลิ่นเหมาะกับการใช้ในโอกาสใดบ้าง?
BF น้ำหอมของเราคือการแสดงอารมณ์มากกว่าจะเป็นใบสั่งยา การตอบสนองของแต่ละคนต่อน้ำหอมนั้นแตกต่างกันและเป็นส่วนตัวเอามากๆ พวกเขาจึงควรเลือกกลิ่นที่ใช่สำหรับตัวเอง มีกลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพรที่สอดประสานในกลิ่นน้ำหอมเหล่านี้ ซึ่งบางคนอาจจะชื่นชอบกลิ่นหอมสดชื่นของซิทรัสใน Eremia มากกว่าในช่วงฤดูร้อนอันปลอดโปร่ง กลิ่นไม้แห้งและกลิ่นอายของดินก็อาจจะดึงดูดบางคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมสำหรับใช้ในยามค่ำคืน
สิ่งที่เราจะทำต่อไปก็คือการสร้างคาแรคเตอร์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นให้กับน้ำหอมกลิ่นต่างๆของเรา และเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาสำรวจและตีความกลิ่นหอมเหล่านี้ในแบบของพวกเขาเอง
BZ เหตุใดน้ำหอมของ Aesop จึงมีความพิเศษไม่เหมือนใคร และปรัชญาของคุณในฐานะนักปรุงน้ำหอมของแบรนด์ Aesop คืออะไร?
BF เอสอปถือว่าการรังสรรค์น้ำหอมเป็นเสมือนแบบฝึกหัดที่หลอมรวมบทกวีและวิทยาศาสตร์ ซึ่งเริ่มต้นด้วยแรงบันดาลใจในมิติต่างๆหลายแง่มุม ผ่านกระบวนการที่ใส่ใจและเคารพต่อส่วนผสมอันหลากหลายซึ่งส่งผ่านอารมณ์ความรู้สึก ทำให้มันมีความซับซ้อน ด้วยสูตรผสมที่ไม่คาดฝันซึ่งสร้างความกลมกลืนกับการนำเสนอวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและปรัชญาของแบรนด์ สำหรับคนที่มองหากลิ่นน้ำหอมที่ซับซ้อน มีความเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และไร้ข้อจำกัด

Fragrances Review
เมื่ออ่านบทสัมภาษณ์กันไปแล้ว คุณอาจจะอยากรู้เพิ่มเติมว่าแต่ละกลิ่นนั้นมีลักษณะอย่างไร บาซาร์จะขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้สัมผัสกับแต่ละกลิ่นให้คุณได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น เริ่มกันที่
ด้วยแนวกลิ่นสไปซี่-วู้ดดี้ ของยางไม้ กำยาน ชะมดต้น สาหร่ายทะเล และเครื่องเทศ ผสานกลิ่นไม้ ผ้าใบ ยาสูบ และวิสกี้เจือจาง อันเป็นสัญลักษณ์ของการเดินเรือทะเล กลิ่นนี้ในบรรดาทั้งสามกลิ่นถือว่าเป็นกลิ่นที่มีความมัสคิวลีนมากที่สุด ด้วยกลิ่นหอมที่ค่อนข้างซับซ้อน น่าค้นหา แต่อบอุ่น สัมผัสแรกให้อารมณ์สดชื่นเหมือนกลิ่นลมทะเลพัดผ่าน ตามด้วยกลิ่นที่ซับซ้อนขึ้นมีความนัวร์ให้ความรู้สึกลึกลับชวนค้นหาด้วยกลิ่นของยาสูบและวิสกี้ ปิดท้ายด้วยกลิ่นฐานที่อบอุ่นสะอาดของกำยานและเครื่องเทศ ซึ่งบอกเลยว่ากลิ่นนี้ติดผิวได้ยาวนานมากจริงๆ
ถ้าให้เปรียบเป็นคาแรคเตอร์นี่คือกลิ่นที่ให้ภาพของคนที่มีโลกส่วนตัวสูง รักสันโดษ แรกๆอาจจะดูเหมือนเข้าถึงยากแต่ถ้าได้ลองทำความรู้จักแล้วคุณจะหลงรักในความเป็นตัวของตัวเอง มีความน่าค้นหา เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นนักคิด และเป็นคนที่อบอุ่นเมื่อได้รู้จัก (ถึงภายนอกจะดูเย็นชาก็เถอะ คุณอาจต้องเวลาสักนิดในการเรียนรู้) ที่สำคัญบอกเลยว่าเป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน

มาพร้อมกลิ่นหอมของเหล่าพืชสมุนไพรสะท้อนความสดชื่นของอากาศบริสุทธิ์และสายน้ำ ด้วยการผสมผสานกันของเครื่องเทศที่อบอุ่น ไม้แห้ง และแร่ธาตุ ที่ให้ความรู้สึกเสมือนคุณใช้เวลาที่ริมชายหาดจิบจินโทนิกเย็นๆพร้อมมองออกไปไกลๆ กลิ่นนี้โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นกลิ่นที่เข้าถึงได้ง่าย ด้วยสัมผัสแรกที่สดชื่นเหมือนสายน้ำและการสาดซัดของคลื่นด้วยกลิ่นของจูนิเปอร์ ตามด้วยความหอมของพริกไทดำและชมพูบางเบา ผสานขมิ้น แซดัลวู้ด และกลิ่นของแร่ธาตุที่มีความเค็มนิดๆชวนให้นึกถึงน้ำทะเลและการก่อตัวของพายุที่กำลังใกล้เข้ามา คือถึงจะสดชื่นแต่ก็มีความน่าสนใจ ซึ่งสัมผัสที่ตามมาและกลิ่นฐานนั้นจะให้ความรู้สึกสดชื่นเย็นสบายเหมือนผิวที่โดนลมทะเล โดยกลิ่นนี้นั้นจะมีกลิ่นหอมที่ชวนให้นึกถึงความสะอาดสดชื่นของน้ำได้อย่างชัดเจน
ถ้าให้นึกถึงคาแรคเตอร์ นี่คือกลิ่นหอมของคนที่มีชีวิตชีวา รักความอิสระ ไม่ชอบการผูกมัด เป็นคนที่สบายๆ เข้าถึงง่ายและเป็นมิตร แต่ก็มีแง่มุมที่เป็นส่วนตัวอยู่หน่อยๆ

อีกหนึ่งกลิ่นที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนแต่น่าสนใจ ให้ความรู้สึกถึงความเงียบสงบสันโดษ ด้วยการเปิดกลิ่นแรกที่หอมสดชื่นน่าตื่นใจของส้มยูซุ เกรพฟรุ๊ต และเบอร์กาม็อท ที่จะกระตุ้นสัมผัส ตามด้วยกลิ่นสะอาดสดชื่นของกัลบานัมซึ่งมีรสขมนิดๆและมิโมซ่านำพาสู่สัมผัสกลางของเหล่าดอกไม้และแว๊กซ์ที่ให้ความรู้สึกสงบเรียบง่าย กลิ่นฐานที่นำพาสู่ความรู้สึกของความว่างเปล่าด้วยกลิ่นของแพทชูลี่ ไอริส และดรายวู้ดให้ความรู้สึกสง่างาม เยือกเย็น มีกลิ่นของแป้งนิดๆ เป็นกลิ่นหอมที่ทำให้เหมือนกำลังยืนอยู่ในดินแดนที่ว่างเปล่าถูกทิ้งร้างจริงๆเหมือนกำลังอยู่ในอีกโลกหนึ่งที่มีแต่ความรู้สึกเงียบสงบสบายใจ กลิ่นนี้เป็นอีกกลิ่นที่ติดอยู่บนผิวได้ยาวนานไม่แพ้ Miraceti
สำหรับคาแรคเตอร์ของกลิ่นนี้ถ้าจะให้เห็นภาพคือคนที่รักสันโดษ มีโลกส่วนตัวสูง เกลียดความวุ่นวาย เป็นตัวของตัวเองที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา ค่อนข้างเคร่งขรึม ใจเย็นมีเหตุผล และมีความเป็นผู้ใหญ่
ซึ่งทั้งสามกลิ่นนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ใครที่ชอบแนวไหนนั้น จะให้ดีถ้าได้ลองสัมผัสบนผิวจริงๆคุณอาจจะเซอร์ไพรส์ตัวเองก็ได้ที่ชอบกลิ่นนั้นๆ บอกเลยว่าสำหรับแฟนเอสอปแล้วคอลเลกชั่นนี้เป็นกลิ่นหอมที่ช่วยพาเราออกจากโมเม้นท์ที่น่าตึงเครียดนี้ได้เป็นอย่างดี
ทั้ง Miraceti, Karst และ Ecremia มาในขนาด 50 มล. ราคา 6,400 บาท