จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องทำงานที่บ้าน ด้วยสภาพแวดล้อมที่จำกัด หรือเวลาการทำงานที่ไม่ชัดเจน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จึงอาจทำให้หลายคนประสบปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงการออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวร่างกายที่ลดน้อยลง
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม คือ อาหาร ซึ่งมีส่วนในการส่งเสริมการทำงานของร่างกายและทำให้รูปร่างดีถึง 70% ในขณะที่อีก 30% มาจากการออกกำลังกายที่เหมาะสม ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพ น้ำหนักตัว และรูปร่าง

สำหรับหลายคน การทำงานที่บ้านส่งผลให้มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ในขณะที่ยังรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิม จึงทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น นอกจากการแบ่งเวลาเพื่อออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่เพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
หลักการคำนวณ Basal Metabolic Rate (BMR) อย่างง่ายจะช่วยให้ทราบถึงพลังงานขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เพื่อรักษาน้ำหนักปัจจุบันได้ สามารถคำนวณได้ด้วยสูตรเบื้องต้น ดังนี้
ยกตัวอย่างเช่น คุณเอ มีน้ำหนักตัว 65 กิโลกรัม x 22 = 1,430 กิโลแคล เท่ากับว่า คุณเอต้องการพลังงานขั้นต่ำ 1,430 กิโลแคล ต่อวัน
อย่างไรก็ดี กิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน (Physical Activity Level หรือ PAL) ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยวางแผนและเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลได้ โดยสามารถคำนวณ Total Daily Energy Expenditure (TDEE) เพื่อทราบปริมาณพลังงานที่ใช้ในการทำกิจกรรมต่อวันได้ โดยนำค่า BMR ไปคูณ 1.2 สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ, คูณ 1.375 สำหรับคนที่ออกกำลังกาย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ คูณ 1.55 สำหรับคนที่ออกกำลังกาย 5-6 ครั้งต่อสัปดาห์ ตามสูตรดังนี้
ในกรณีของคุณเอที่ออกกำลั งกายโดยเฉลี่ย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จึงมีการใช้พลังงานต่อวัน เท่ากับ BMR 1,430 x PAL 1.375 = 1,966 กิโลแคล
ปัจจัยหลักที่ทำให้อ้วนขึ้น คือ อาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งมีปริมาณพลังงานไม่สมดุลกับกิจกรรมที่ทำการได้รับพลังงานโดยรวมเกินกว่าที่ใช้พลังงานออกไปในแต่ละวัน ทำให้เกิดเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ในร่างกาย อธิบายง่ายๆ ด้วยหลักการ Calorie In – Calorie Out ในรักษาร่างกายให้สมดุล พลังงานที่เข้าสู่ร่างกาย (Calorie In) จากการรับประทานอาหาร กับพลังงานที่ออกจากร่างกาย (Calorie Out) จากการทำกิจกรรมต่างๆ และการออกกำลังกาย ต้องมีความสมดุลกัน ดังนั้น สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ปริมาณแคลอรีที่รับมาจากอาหาร จึงควรต่ำกว่าแคลอรีที่เผาผลาญออกไป การกินน้อยกว่าพลังงานที่ใช้ ร่างกายจึงจะดึงไขมันที่สะสมออกมาใช้ ส่งผลให้น้ำหนักและไขมันของลดลง

ผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือต้องการลดไขมัน ยังสามารถรับประทานคาร์โบไฮเดรตได้ เนื่องจากเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพียงแต่ต้องเลือกและจำกัดปริมาณให้เหมาะสมและถูกต้อง ควรเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ปล่อยพลังงานช้า เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ข้าวโอ๊ต ธัญพืชต่างๆ หรือจากผักผลไม้ เช่น แตงโม แอปเปิ้ล กล้วย


HYPOXI เป็นเทคโนโลยีการออกกำลังกายในระดับเบาถึงปานกลาง (Low Impact) รูปแบบใหม่ ซึ่งคิดค้นโดย Dr. Norbert Egger นักวิทยาศาสตร์การกีฬาชาวออสเตรีย ที่ได้ผสานประสบการณ์และองค์ ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายและกายภาพบำบัดเข้ากับเทคโนโลยีการบีบอัด โดยมีทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรเครื่องกลร่วมพัฒนาอุปกรณ์ ออกกำลังกายแนวใหม่นี้ จนเกิดเป็นอุปกรณ์สุดล้ำอุปกรณ์ แรกและอุปกรณ์เดียวที่ใช้ เทคโนโลยีการบีบอัดร่วมกับการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ HYPOXI เหมาะสำหรับคนที่มีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย มีอาการบาดเจ็บ หรือเคยได้รับบาดเจ็บหรือผ่าตัดต่าง ๆ รวมไปถึงคนที่อยู่ในกลุ่มโครงสร้างร่างกายใหญ่ หรือมีกรรมพันธุ์ช่วงล่างของลำตัวใหญ่
ภายในเครื่องจะติดตั้งระบบสูญญากาศที่มีแรงดันขั้วบวกขั้วลบ ช่วยในการกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือด เพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด ให้เกิดการเผาผลาญไขมันในจุดที่ สะสมและกำจัดได้ยาก ทำให้สามารถเผาผลาญไขมันเฉพาะส่วนได้ตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่ลดได้ยาก อย่างเช่น ท้องล่าง สะโพก ต้นขา ช่วยลดเซลลูไลท์ นับเป็นวิธีการปรับรูปร่างที่ อย่างเฉพาะเจาะจงตรงจุด โดยการออกกำลังด้วย HYPOXI จะอยู่ภายใต้การดูแลของโค้ชผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เริ่มจากการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ และออกแบบโปรแกรม HYPOXI รวมถึงการดูแลโภชนาการเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และยั่งยืน
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HYPOXI ได้ที่ facebook.com/HYPOXIThailand หรือเว็บไซต์ hypoxi.in.th/th

โภชนาการเพื่อการลดไขมัน
สำหรับหลายคน การทำงานที่บ้านส่งผลให้มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ในขณะที่ยังรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิม จึงทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น นอกจากการแบ่งเวลาเพื่อออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่เพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
หลักการคำนวณ Basal Metabolic Rate (BMR) อย่างง่ายจะช่วยให้ทราบถึงพลังงานขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เพื่อรักษาน้ำหนักปัจจุบันได้ สามารถคำนวณได้ด้วยสูตรเบื้องต้น ดังนี้
BMR = น้ำหนักตัว x 22
ยกตัวอย่างเช่น คุณเอ มีน้ำหนักตัว 65 กิโลกรัม x 22 = 1,430 กิโลแคล เท่ากับว่า คุณเอต้องการพลังงานขั้นต่ำ 1,430 กิโลแคล ต่อวัน

TDEE = BMR x PAL
ในกรณีของคุณเอที่ออกกำลั งกายโดยเฉลี่ย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จึงมีการใช้พลังงานต่อวัน เท่ากับ BMR 1,430 x PAL 1.375 = 1,966 กิโลแคล


แนวทางการเลือกอาหารที่เหมาะสม
กุญแจหลักของการเลือกรับประทานอาหารแบบง่ายๆ คือ การหลีกเลี่ยงอาหารแคลอรีสูง ลดน้ำตาล หรืองดอาหารที่มีรสหวานจัด หลีกเลี่ยงอาหารทอด ผัด และอาหารที่มีไขมันสูง เน้นอาหารจำพวกโปรตีน ซึ่งช่วยให้เราอิ่มท้องนานและช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญ เน้นผัก ผลไม้ให้ได้มากที่สุดในแต่ละมื้อ อย่าลืมดื่มน้ำให้พอเพียงและรับประทานอาหารที่หลากหลายเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือต้องการลดไขมัน ยังสามารถรับประทานคาร์โบไฮเดรตได้ เนื่องจากเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพียงแต่ต้องเลือกและจำกัดปริมาณให้เหมาะสมและถูกต้อง ควรเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ปล่อยพลังงานช้า เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ข้าวโอ๊ต ธัญพืชต่างๆ หรือจากผักผลไม้ เช่น แตงโม แอปเปิ้ล กล้วย

ปรับไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพช่วงเวิร์กฟรอมโฮม
ในการเวิร์กฟรอมโฮม จำเป็นต้องจัดเวลาในการทำงาน ช่วงพัก และแบ่งเวลาส่วนตัวให้ชัดเจน เพื่อสร้างความสมดุลในการใช้ชีวิต ควรแบ่งเวลาเพื่อออกกำลังกายเป็นประจำ โดยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อความยืดหยุ่น และออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ 150 นาทีต่อสัปดาห์ โดยแบ่งเป็นครั้งละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ ในช่วงที่มีข้อจำกัดด้านการออกกำลังกาย อาจเดินเล่นรอบหมู่บ้าน หรือเปิดวิดีโอคลิปเพื่อออกกำลังกาย กระโดดเชือกหรือเล่นฮูล่าฮูปภายในบ้าน และเพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้นในกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอยังเป็นปัจจัยสำคัญ
นอกจากนี้ การพักผ่อนให้เพียงพอยังเป็นอีกปัจจัยหลักที่มีผลต่อสภาพร่างกายโดยรวม นอกจากชั่วโมงในการนอนต่อเนื่องอย่างน้อย 5-7 ชั่วโมง เวลาในการเข้านอนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมาในช่วงที่เราหลับลึก ระหว่าง 23.00 – 01.30 น. เพื่อซ่อมแซมร่างกาย ช่วยให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานเป็นปกติ การเข้านอนภายในเวลา 24.00 น. จะทำให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคได้อีกด้วย
วัตกรรมการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ออกน้อยเท่ากับออกมาก
นอกจากการดูแลโภชนาการให้มีความสมดุล และออกกำลังกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น สำหรับบุคคลที่มีความกังวลเกี่ยวกับไขมันส่วนเกิน ยังมีนวัตกรรมการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ที่ช่วยเสริมให้ร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพ พร้อมลดไขมันเฉพาะจุดและส่วนที่ลดได้ยากได้อย่างรวดเร็วHYPOXI เป็นเทคโนโลยีการออกกำลังกายในระดับเบาถึงปานกลาง (Low Impact) รูปแบบใหม่ ซึ่งคิดค้นโดย Dr. Norbert Egger นักวิทยาศาสตร์การกีฬาชาวออสเตรีย ที่ได้ผสานประสบการณ์และองค์ ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายและกายภาพบำบัดเข้ากับเทคโนโลยีการบีบอัด โดยมีทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรเครื่องกลร่วมพัฒนาอุปกรณ์ ออกกำลังกายแนวใหม่นี้ จนเกิดเป็นอุปกรณ์สุดล้ำอุปกรณ์ แรกและอุปกรณ์เดียวที่ใช้ เทคโนโลยีการบีบอัดร่วมกับการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ HYPOXI เหมาะสำหรับคนที่มีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย มีอาการบาดเจ็บ หรือเคยได้รับบาดเจ็บหรือผ่าตัดต่าง ๆ รวมไปถึงคนที่อยู่ในกลุ่มโครงสร้างร่างกายใหญ่ หรือมีกรรมพันธุ์ช่วงล่างของลำตัวใหญ่
ภายในเครื่องจะติดตั้งระบบสูญญากาศที่มีแรงดันขั้วบวกขั้วลบ ช่วยในการกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือด เพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด ให้เกิดการเผาผลาญไขมันในจุดที่ สะสมและกำจัดได้ยาก ทำให้สามารถเผาผลาญไขมันเฉพาะส่วนได้ตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่ลดได้ยาก อย่างเช่น ท้องล่าง สะโพก ต้นขา ช่วยลดเซลลูไลท์ นับเป็นวิธีการปรับรูปร่างที่ อย่างเฉพาะเจาะจงตรงจุด โดยการออกกำลังด้วย HYPOXI จะอยู่ภายใต้การดูแลของโค้ชผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เริ่มจากการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ และออกแบบโปรแกรม HYPOXI รวมถึงการดูแลโภชนาการเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และยั่งยืน
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HYPOXI ได้ที่ facebook.com/HYPOXIThailand หรือเว็บไซต์ hypoxi.in.th/th