ดื่มด่ำบรรยากาศแสนพิเศษของจังหวัดกระบี่ Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve
รีสอร์ตหรูระดับ 6 ดาวที่สงบงดงามจนยากจะลืมเลือน
ขณะที่กำลังเก็บกระเป๋าเดินทางอยู่นั้น ฉันคิดว่าตัวเองช่างโชคดีเหลือเกินที่สามารถเดินทางไปยังเกาะสวาทหาดสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกถวิลหาได้ด้วยเวลาเพียงพริบตา โอเค... ฉันอาจพูดเกินจริงไปสักนิด... แต่ถ้าเทียบกับการขับรถเข้าไปเที่ยวห้างในตัวเมืองโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าเท่ากันล่ะก็ เรียกว่าพริบตาก็คงไม่ผิดนัก จริงไหมล่ะ?
การเดินทางครั้งนี้ จุดหมายปลายทางของฉันอยู่ที่จังหวัดกระบี่ ฉันมาถึงสนามบินแต่เช้าตรู่เพื่อให้ตัวเองมีเวลาพอที่จะเตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่อง หลัง Check-in ที่เคาน์เตอร์ของ Blue Ribbon Club ซึ่งทำให้ไม่ต้องเสียเวลามาก ฉันก็พุ่งตรงไปยัง Blue Ribbon Lounge ที่นอกจากจะมีบาร์เครื่องดื่มและของว่างให้เพลิดเพลินแล้ว ยังมีเมนู A-la-carte สุดพิเศษพร้อมเสิร์ฟให้ถึงที่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิทิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรฟลายเออร์โบนัส ระดับพรีเมียร์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) เท่านั้น ภายในเวลาเพียงไม่ถึงสองชั่วโมง เที่ยวบินแอร์บัส 320 ก็ร่อนลงสู่ท่าอากาศยานแห่งชาติกระบี่โดยสวัสดิภาพ
ภาพบรรยากาศของ Blue Ribbon Lounge
สถานที่พักของฉันในครั้งนี้คือ ภูเลเบย์ อะ ริตซ์-คาร์ลตัน รีเสิร์ฟ (Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve) รีสอร์ตหรูระดับ 6 ดาวที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งที่ทอดยาวพาดผ่านทะเลอันดามันชายฝั่งทะเลอันดามันของจังหวัดกระบี่ ซึ่งความพิเศษของริตซ์-คาร์ลตัน รีเสิร์ฟนั้น จะมีความพิเศษในด้านของสถานที่พักผ่อนที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น มีความเป็นส่วนตัว และการบริการที่เหนือระดับ ซึ่งภูเลย์ เบย์ นั้นในการได้รับเลือกให้เป็นรีสอร์ตแห่งแรกของโลกที่อยู่ภายใต้ชื่อนี้ ฉันใช้เวลาราว 45 นาทีจากสนามบินนานาชาติกระบี่ (KBV) เพื่อเดินทางมายังรีสอร์ตก่อนที่จะได้สัมผัสความตื่นตาหลังผ่านประตูทางเข้า กำแพงสูงที่มีช่องกำแพงรูปเรขาคณิตขนาดใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมที่โอ่อ่า และอาจเป็นเพราะเส้นสายที่เรียบนิ่ง สีสันที่อบอุ่น ซึ่งโอบล้อมด้วยพืชพันธุ์ท้องถิ่นสีเขียวชะอุ่ม จึงให้ความรู้สึกสงบคล้ายกับเป็นการซ่อนตัวหลังกำแพงขนาดใหญ่ ตัดขาดจากโลกภายนอกอันแสนวุ่นวาย และฉันต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณของศาลาที่รายล้อมด้วยน้ำและเทียนนับพันเล่ม ทางพนักงานต้อนรับกล่าวว่าที่ตรงนี้ใช้เป็นจุดต้อนรับแขกที่ให้บรรยากาศแตกต่างจากล็อบบี้ทั่วไป โดยองค์ประกอบต่างๆ นั้น มีที่มาจากธาตุทั้ง 4 คือ น้ำ ลม ไฟ และไม้ ด้วยอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ จึงจำเป็นต้องมีผู้ที่ช่วยคอยประสานงานบริการต่างๆ อย่างเช่นการเดินทางไปยังหลายจุดภายในรีสอร์ตก็ต้องอาศัยรถกอล์ฟเพื่อความสะดวกรวดเร็ว
ฉันได้พบกับคุณยิด บัตเลอร์ที่จะคอยดูแลฉันตลอดการพักผ่อนในสถานที่แห่งนี้ หลังแนะนำตัวกันอย่างเป็นกันเอง คุณยิดได้นำฉันแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ห้องอาหารจำปูน ห้องอาหารที่ให้บริการอาหารไทยและอาหารนานาชาติ ทั้งยังให้บริการอาหารเช้าในช่วงเช้้าของทุกวัน หลังมื้อเที่ยงฉันเข้าพักในห้องพักแบบ Reserve Pool Villa Sea View ที่มีพื้นที่กว่า 352 ตารางเมตร ซึ่งหรูหราโอ่อ่ามากกว่าที่ฉันจินตนาการไว้เสียอีก ฉันทราบมาว่ารีสอร์ตแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยคุณเล็ก บุนนาค สถาปนิกไทยผู้มีชื่อเสียง ซึ่งได้ออกแบบและตกแต่งให้ออกมาในสไตล์ร่วมสมัยแต่ยังคงแฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยที่ลงตัวระหว่างความหรูหราแต่ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายยามพักผ่อนด้วยบรรยากาศของธรรมชาติและสวนสวยโดยรอบ แม้แต่ภายในห้องพักก็ยังมีทั้งภาพวาดและงานจิตรกรรมฝาผนัง บานประตูไม้ขนาดใหญ่อีกด้วย ในห้องยังมีห้องอาบน้ำกลางแจ้งท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจีที่ทำให้ฉันผ่อนคลายและตัดขาดจากความวุ่นวายของโลกภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม
ขณะที่ฉันเอ็นจอยกับเครื่องดื่มและทิวทัศน์ริมทะเลที่สวยสะกดตาที่บาร์ชมตะวัน ฉันก็สังเกตได้ว่าภูเลเบย์ อะ ริตซ์-คาร์ลตัน รีเสิร์ฟ ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่านอกจากพื้นที่ต่างๆ จะมีต้นไม้สูงใหญ่ที่ถูกรักษาไว้ตามธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังรณรงค์เรื่องการใช้พลาสติกอย่างจริงจัง อย่างการใช้หลอดที่ผลิตจากกระดาษ หรือภาชนะที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งเเวดล้อม ทำให้ฉันได้ไอเดียมากมายในการปรับใช้ชีวิตเพื่อที่จะคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ประสบการณ์อันน่าประทับใจของฉันที่ภูเลเบย์ อะ ริตซ์-คาร์ลตัน รีเสิร์ฟ แห่งนี้มีอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริการ ไดนิ่ง บียอนด์ (Dining Beyond) ที่ให้ฉันสามารถเลือกสถานที่ในการรับประทานอาหารค่ำอย่างเป็นส่วนตัวภายในพื้นที่ที่เป็นไฮไลต์ของรีสอร์ต รวมถึงการได้ผ่อนคลายใน เดอะ สปา ที่บริการด้วยหลากหลายโปรแกรมซิกเนเจอร์ทรีตเม้นต์ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบโดยแท้
บรรยากาศริมชายหาดยากพระอาทิตย์ตกดิน
บรรยากาศของ The Spa
นับเป็นประสบการณ์พิเศษที่ยากจะลืมเลือนสำหรับรีสอร์ตที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจการเดินทางสู่จังหวัดกระบี่ สายการบินบางกอก แอร์เวยส์ให้บริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่กระบี่ วันละ 3 เที่ยวบิน ทุกวัน นับเป็นประสบการณ์พิเศษที่ยากจะลืมเลือนสำหรับรีสอร์ตที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจการเดินทางสู่จังหวัดกระบี่ สายการบินบางกอก แอร์เวยล์ให้บริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่กระบี่ วันละ 3 เที่ยวบิน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่เว็บไซต์ www.bangkokair.com หรือ Call Center โทร. 1771 สำหรับผู้ที่สนใจแพ็กเกจตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักในภูเก็ตสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.bangkoktravelclub.co.th นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถเช็คอินล่วงหน้าอย่างสะดวกสบายด้วยตัวเองผ่านทางเว็บไซต์และบางกอกแอร์เวย์สโมบายแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนทุกเครือข่ายทั้งระบบ iOS และ Android
