ขับรถหนีความเครียดไปสัมผัสบรรยากาศของทะเลหน้าฝนที่หัวหิน
ให้วีคเอนด์นี้ผ่อนคลายแบบสุดๆ ที่ Mövenpick Asara Resort & Spa
Photos: Mövenpick Asara Resort & Spa Hua Hin
เย็นวันศุกร์หน้าฝน เรารีบหนีออกจากกรุงเทพฯที่กำลังจะเริ่มเฉอะแฉะเจิ่งนองด้วยน้ำฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ด้วยการขับรถมุ่งหน้าสู่หัวหิน หวังให้เสียงคลื่นทะเลที่นั่นพาเราผ่อนคลายจากความเครียดที่สะสมมาทั้งอาทิตย์ ครั้งนี้เราเก็บกระเป๋าเร็วมาก ไม่เกิน 10 นาที ไม่พิถีพิถันในการเลือกเสื้อผ้า เพราะไม่ได้กะจะถ่ายรูปอวดโซเชียล อยากให้ทริปนี้เป็นการพักผ่อนและได้อยู่กับตัวเองอย่างแท้จริงมากกว่า
เมอเวนพิค อัสสรา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน (Mövenpick Asara Resort & Spa Hua Hin) คือที่พักที่เป็นจุดหมายปลายทางในวีคเอนด์ทริปครั้งนี้ นับเป็นรีสอร์ทแห่งใหม่ล่าสุดในเครือ ‘เมอเวนพิค’ แบรนด์โรงแรมสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก จึงไม่ต้องสงสัยเรื่องความสะดวกสบายอันพรั่งพร้อมภายในรีสอร์ทระดับ 5 ดาวแห่งนี้หลังจากขับรถมาประมาณ 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ พนักงานต้อนรับจัดการเช็คอินและพาเราตรงไปยัง The Asara Spa ก่อนเป็นอันดับแรก โดยแนะนำโปรแกรมนวดแบบซิกเนเจอร์ที่ใช้เกลือหิมาลายันมาประคบร้อนและเย็นบนร่างกาย ซึ่งเป็นการฟื้นฟูร่างกายและผ่อนคลายจิตใจ เหมาะกับคนเมืองที่ต้องการหลบหนีความเครียดในชีวิตประจำวัน ส่วนผสมทรีตเมนต์ที่มาจากธรรมชาติบวกกับศาสตร์การนวดที่ผสมผสานทั้งแบบตะวันตกและตะวันออก ไม่ต้องกลัวว่าเกลือจะร้อนเกินไป ถ้าหากใครไม่ชอบร้อนมาก เธอราพิสต์เขาจะคอยถามไถ่เราอยู่เรื่อยๆ บอกเลยว่าลืมความเหนื่อยล้าจากการขับรถไปเลยสำหรับห้องพักที่นี่จะแบ่งเป็นแบบสวีทและวิลล่า จำนวนทั้งหมด 96 ห้อง ตกแต่งสไตล์ไทยร่วมสมัย เราเข้าพักที่วิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ซึ่งเพียงแค่เปิดประตูห้องนอนก็สามารถหย่อนขาลงสระไปเมื่อไรก็ได้ตามต้องการ มีส่วนอาบน้ำทั้งแบบอินดอร์และเอาต์ดอร์พร้อมเรนชาวเวอร์ แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุดและเป็นสิ่งที่แบรนด์เมอเวนพิคภูมิใจนำเสนอด้วย ก็คือความนุ่มของเตียงและหมอนที่พอดิบพอดี ไม่จม ไม่ยวบเกินไป สบายจนรู้สึกว่าไม่อยากจะลุกไปไหนเลย ในฐานะผู้ที่รักการนอนอย่างเราแล้วการันตีเลยว่านี่คือเตียงที่นุ่มสบายที่สุดแห่งหนึ่งตั้งแต่เคยเข้าพักมาเลยในตอนเช้า เบรกฟาสต์จะเสิร์ฟที่ห้องอาหาร Kampu (ก้ามปู) สามารถเลือกที่จะนั่งทานในห้องแอร์หรือเอาต์ดอร์ที่สามารถมองวิวทะเลไปด้วยก็ได้ โดยในช่วงบ่ายจะมี Chocolate Hour ช่วง 15.00-16.00น. ให้เราได้อร่อยกับช็อกโกแลตสวิสและเบลเยี่ยแบบไม่อั้น บริการฟรีสำหรับแขกที่เข้าพัก ในขณะที่ยามค่ำคืน บรรยากาศจะเปลี่ยนไปเป็นแบบโรแมนติก ด้วยแสงไฟตกแต่งที่กระทบผืนน้ำของสระว่ายน้ำ พร้อมสายลมทะเลเย็นๆ เหมาะแก่การลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสแบบไฟน์ไดน์นิ่งกับค็อกเทลหรือไวน์ นอกจากนี้ก็ยังมีอีกห้องอาหารหนึ่งอยู่บริเวณไม่ไกลจากกัน ชื่อ Baan Dum (บ้านดำ) ซึ่งจะเน้นเสิร์ฟอาหารไทยแท้ ปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่น อยากให้ลองไข่เจียวปู ต้มยำกุ้ง และน้ำพริกต่างๆ เพราะรสชาติเข้มข้นถึงใจสุดๆวีคเอนด์ทริปครั้งนี้เรียกได้ว่าครบเครื่อง ตั้งแต่การพักผ่อนในห้องนอนอันแสนสบาย วิวทะเลและเสียงคลื่น สปาทรีตเมนต์จากธรรมชาติ ไปจนถึงอาหารอร่อยๆ ถึงจะเป็นการมาทะเลหน้าฝน แต่หัวหินก็ทำให้เรารู้สึกดีไปอีกแบบนะ
MOST VIEWED
Collection N°5 เมื่อขวดน้ำหอมกลายร่างเป็น high jewelry จาก CHANEL
แรงบันดาลใจจากน้ำหอมคลาสสิค CHANEL N°5 สู่เครื่องประดับ
สวยพร้อมแต่ง! น้องฉัตรแนะนำ 6 ลิปสติกเจ้าสาวหวานละมุน พร้อมเทคนิคการทาลิปสติกให้สวยทนในวันสำคัญ
พร้อมบอกแบรนด์และชื่อสีไม่มีกั๊ก
MORE FROM
TRAVEL
อยู่บ้านก็เที่ยวได้ บาซาร์รวบ 9 แหล่ง ‘เที่ยวทิพย์’ ที่ลองแล้วว่า ‘สนุก ฟิน เสมือนจริง’
สถานการณ์แบบนี้ #StayHome #StaySafe ดีที่สุด แต่ก็อดโหยหาการท่องเที่ยวไม่ได้
เก็บกระเป๋าเดินทางสู่วิลล่าส่วนตัวในรีสอร์ตหรูสีคราม Meliá Koh Samui สวรรค์สำหรับทริปของครอบครัว
เว้นระยะอย่างมีความสุขด้วยการพักผ่อนในห้องพักที่มอบความเป็นส่วนตัว