1. Congratulations to those men
น่าเสียดายที่ปีนี้ไม่มีไดเร็กเตอร์หญิงคนไหนได้เข้าชิงรางวัลสาขา Best Director เลย นั่นแปลว่า 10 ปีที่ผ่านมานั้น มีผู้กำกับ 49 คนจาก 50 คนที่ได้เข้าชิงนั้นล้วนเป็นผู้ชายทั้งหมดถึงแม้ว่า Greta Gerwig (ผู้กำกับ Little Women), Lulu Wang (ผู้กำกับ The Farewell) และ Marielle Heller (ผู้กำกับ A Beautiful Day in the Neighborhood) จะได้รับการสนับสนุนมากแค่ไหน นั่นก็ยังไม่สามารถช่วยให้พวกเธอได้เข้าชิงออสการ์เนื่องจากประเด็นความเท่าเทียมทางเพศของเวทีนี้
หลังจากที่รายชื่อของผู้เข้าชิงรางวัลสาขา Best Director นักแสดงสาว Issa Rae ก็ได้กล่าว "Congratulations to all those men" ด้วยสีหน้าเรียบเฉย จึงทำให้จุดประเด็นความเท่าเทียมทางเพศของออสการ์บนโลกโซเชี่ยลขึ้นมา
2. Going backwards on diversity?
นักแสดง 19 คนจาก 20 คนที่เข้าชิงรางวัล Oscar ล้วนเป็นคนผิวขาวทั้งหมด ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ประเด็น #OscarsSoWhite เมื่อปี 2015 และ 2016หลังจากที่นักแสดงผิวสี 3 คนได้คว้ารางวัลตุ๊กตาทองไปเมื่อปี 2019 ก็น่าแปลกใจที่ภาพยนตร์ที่เข้าชิงปีนี้นั้นไม่มีเรื่องไหนที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับ diversity หรือมีนักแสดงต่างเชื้อชาติเลย
ซึ่งรายชื่อผู้เข้าชิงออสการ์นั้นประกาศหลังจากงาน Baftas หนึ่งสัปดาห์โดยทั้งหมดนั้นเป็นนักแสดงผิวขาวแต่กลับมีนักแสดงผิวสีเพียงแค่คนเดียวที่ได้เข้ารอบคือ Cynthia Erivo ที่ได้สร้างชื่อเสียงข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและได้เข้าชิงรางวัลจากบทบาท Harriet Tubman ทาสที่กลายเป็นผู้รณรงค์ให้เลิกทาส ในภาพยนตร์เรื่อง Harriet
ปีนี้มีนักแสดงต่างเชื้อชาติมากมายที่สมควรจะได้อยู่ในลิสต์ผู้เข้าชิงอย่างอื่นอย่าง Lupita Nyong'o จาก Us, ผู้ชนะรางวัล Golden Globe อย่าง Awkwafina จาก The Farewell, หรือ Eddie Murphy จกา Dolemite Is My Name แต่ภาพยนตร์ 3 เรื่องนี้กลับไร้วี่แววในออสการ์
จึงมีบางการจุดประเด็นในเรื่องที่ Scarlett Johansson ได้เข้าชิงถึง 2 สาขา ทั้ง Best Actress จาก Marriage Story และ Best Supporting Actress จาก Jojo Rabbit ซึ่งเป็นการเข้าชิงออสการ์ครั้งแรกของเธอ
3. Erivo in line for an EGOT
หาก Cynthia Erivo ชนะครั้งนี้ เธอจะได้เป็นเพียงแค่นักแสดงหญิงผิวสีคนที่สองที่ได้รับรางวัล Best Actress จาก Oscar หลังจาก Halle Berry เมื่อปี 2002นอกจากนั้น เธอจะได้ขึ้นแท่นเป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุด (33 ปี) ที่กลายเป็น EGOT หรือผู้ชนะ 4 รางวัลใหญ่อย่าง Emmy, Grammy, Oscar และ Tony Awards (อ้างอิงจาก Los Angeles Times)
เธอได้รับรางวัล Tony เมื่อปี 2016 จากภาพยนตร์เรื่อง The Color Purple on Broadway, รางวัล Best Musical Theater Album จาก Grammy และ รางวัล Daytime Emmy ในสาขา Outstanding Musical Performance ต้องรอลุ้นกันว่าเธอจะสามารถคว้าออสการ์ไปครอบครองทั้งสาขา Best Actress หรือ Best Song กับเพลง Stand Up จากภาพยนตร์เรื่อง Harriet ได้หรือไม่
4. Jenny from the block is blocked
แม้กระแสและบทบาทของ Jennifer Lopez จาก Hustlers จะมาแรงแค่ไหนแต่เธอกลับ Oscar กลับไม่สนใจที่จะเลือกให้เธอเป็นผู้เข้าชิงรางวัลเลย ด้วยเหตุนี้ชาวเน็ตจึงไม่พอใจอย่างยิ่ง รายชื่อผู้เข้าชิง Best Supporting Actress ได้แก่ Kathy Bates (Richard Jewell), Laura Dern (Marriage Story), Scarlett Johansson (Jojo Rabbit), Florence Pugh (Little Women) และ Margot Robbie (Bombshell) ซึ่งเป็นนักแสดงผิวขาวทั้งหมด
5. Rocketman fails to launch
หลังจากที่ Rami Malek ได้รับรางวัล Best Actor กับบท Freddie Mercury นักร้องนำวง Queenในภาพยนตร์เรื่อง Bohemian Rhapsody ก็น่าเสียดายที่ Taron Egerton ในบทบาท Sir Elton John จาก Rocketman ไม่ได้รับกระแสดีตามที่คาดไว้ แต่อย่างน้อย Rocketman ก็ได้เข้าชิงหนึ่งสาขาโดยฝีมือของ Sir Elton และ Bernie Taupin สำหรับ Best Original Song กับเพลง (I'm Gonna) Love Me Again แต่พลาดสาขาการออกแบบอคสตูม, แต่งหน้าทำผม และการผสมผสานซาวน์
6. Beyonce's Spirit is broken
นอกจากที่เราจะไม่ได้เห็น Jennifer Lopez บนพรมแดง Oscar แล้วเราก็จะอดชมลุคของแม่ Beyonce ด้วย หลายกระแสเชื่อว่าเธอจะได้เข้าชิงรางวัลกับเพลง Spirit จาก The Lion King แต่กลับไร้วี่แวว
7. Frozen II frozen out
เมื่อ 6 ปีที่แล้ว Frozen ได้คว้ารางวัลจาก Oscar ไปครองถึง 2 สาขา ทั้ง Best Animated Feature และ Let It Go สำหรับ Best Songแต่ภาคต่อของแอนิเมชันดังเรื่องนี้กลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะได้เข้าชิงเพียงแค่ Best Song สำหรับเพลง Into the Unknown แต่ไม่ได้เข้าชิง Best Animation
ส่วนเรื่องที่ได้เข้าชิงสาขานั้นคือ Toy Story 4, Missing Link, How to Train Your Dragon: The Hidden World, I Lost My Body, Klaus และ The latter ซึ่งการเข้าชิงของคริสต์มาสแอนิเมชันจาก Netflix นี้จัดว่าเป็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ของวงการเลยทีเดียว
8. The return of the Oscar darlings
อดีตนักแสดงเจ้าของรางวัลและผู้ที่เคยเข้าชิงออสการ์ได้กลับมาสู่สปอตไลท์อีกครั้งAl Pacino ได้เข้าชิงออสการ์ถึง 8 ครั้ง และครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 9 จากบทบาท Jimmy Hoffa ในภาพยนตร์ The Irishman ที่กำกับโดย Martin Scorsese เขาได้เข้าชิงออสการ์ครั้งแรกเมื่อปี 1993 ถึง 2 สาขาและได้คว้ารางวัลไปกับภาพยนตร์เรื่อง Scent of a Woman
Sir Anthony Hopkins ได้เข้าชิงออสการ์ครั้งแรกเมื่อปี 1998 และในครั้งที่ 5 นี่เขาได้เข้าชิงกับภาพยนตร์เรื่อง The Two Popes
Tom Hanks เคยเป็น Mr Oscar และเคยชนะรางวัลถึง 2 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาได้เขาชิงกับเรื่อง A Beautiful Day in the Neighborhood ซึ่งเป็นการถูกนำเสนอชื่อครั้งแรกนับตั้งแต่เรื่อง Cast Away เมื่อปี 2001
Renee Zellweger ได้เข้าชิงสาขา Best Actress กับบทบาทนักร้องในตำนาน Judy Garland กับภาพยนตร์ชีวประวัติ
Judy นี่คือการได้เข้ารอบชิงครั้งแรกหลังจากที่ถูกคัดเลือกชื่อมาตั้งแต่ช่วง 2002-04
Charlize Theron ได้เข้าชิงกับภาพยนตร์ Bombshell นับตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง North Country เมื่อปี 2006
9. A country for old men
71 คือเฉลยอายุของนักแสดงชายในสาขา Best Supporting Actor เริ่มจาก Brad Pitt ที่อายุ 56 แต่กลับเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด, ต่อด้วย Tom Hanks (63), Joe Pesci (76), Al Pacino (79) และ Sir Anthony (82)มารอลุ้นผลประกาศรางวัล Oscar ครั้งที่ 92 พร้อมๆ กันได้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้