รู้จักกับ Oyster & Things ร้านที่เกิดขึ้นจากการพลิกวิกฤติ Covid-19 ให้เป็นโอกาส
มีตั้งแต่ของตกแต่งบ้านชิ้นเก๋ไปจนถึงคาเฟ่สุดชิค
by: JANCHITTRA TANTIKARN
photo: HARPER'S BAZAAR THAILAND
ช่วงวิกฤติโควิด-19 ทำให้มีธุรกิจเล็กใหม่ๆ เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์เต็มไปหมด ซึ่งร้านขายของตกแต่งบ้านก็ได้กลายเป็นที่นิยมในตลาดเนื่องจากการกักตัวอยู่บ้านทำให้ทุกคนอยากเติมแต่งให้ห้องน่าอยู่ขึ้น Oyster & Things คือหนึ่งในร้านขายของแต่งบ้านผ่านอินสตาแกรมที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจากช่วงวิกฤติ Covid-19 บาซาร์ขออาสาพาไปรู้จักกับหุ้นส่วนร้าน อ๊อย-วรามล ชนะกิจการชัย ที่จะเล่าถึงความเป็นมาของร้านเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนากลายเป็น Blue Wild Space คอมมูนิตี้ที่มีทั้งคาเฟ่และร้านเสื้อผ้ามัลติแบรนด์เก๋ใจกลางสุขุมวิท
Harper’s BAZAAR: จุดเริ่มต้นของกิจการร้าน Oyster & Things มีความเป็นมาอย่างไร?
Varamol Chanakitkarnchai: ก่อนที่จะมาเริ่มทำร้านนี้ อ๊อยได้ทำแบรนด์รองเท้าซึ่งเคยขายอยู่ในห้างสรรพสินค้าและร้าน Oyster Footwear แต่ด้วยผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 จึงได้ปิดร้านทางด้านนั้นและลองปรับเปลี่ยนกิจการมาเป็นขายทางออนไลน์แทน ส่วนร้าน Oyster & Things นี้เริ่มมากจากแพสชั่นด้านการสรรหาของแต่งบ้านของอ๊อยล้วนๆ เลยค่ะ และนี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดคอมมูนิตี้ Blue Wild Space ที่รวบรวมทั้งร้านกาแฟซึ่งต่อยอดมาจาก Blue Dye Cafe ของหุ้นส่วนร้าน คุณตั้ม - กิตติพงษ์ ไพบูลย์สมบัติ ร้านของแต่งบ้าน Oyster & Things ร้านเสื้อผ้ามัลติแบรนด์จากอินสตาแกรม สตูดิโอถ่ายภาพ ร้านเสื้อผ้าวินเทจ และร้านต่อขนตา มาไว้ในแห่งเดียว เหมือนเป็น one-stop service เลยค่ะHB: แนะนำแต่ละส่วนของคอมมูนิตี้ Blue Wild Space
VC: ตั้งแต่ที่ลูกค้าก้าวเท้าเข้าประตูมาก็จะเจอโซนของแต่บ้าน Oyster & Things ที่มีให้เลือกตั้งแต่แก้ว จาน ชามราคาน่ารัก สัตว์สต๊าฟ และอีกมากมายที่เราตั้งใจจัดวางเพื่อให้ลูกค้ามีไอเดียในการซื้อของแต่ละชิ้นไปใช้ที่บ้าน สำหรับลูกค้าที่สนใจเฟอร์นิเจอร์วินเทจ เราจะแยกชิ้นพิเศษเหล่านั้นไว้ในห้องขาวหลังม่านเพื่อง่ายต่อลูกค้าที่จะใช้เวลาตัดสินใจซื้อ collectible piece เหล่านี้ส่วนโซนคาเฟ่นั้นจะอยู่ตรงประตูไปทางด้านขวาด้านในร้านที่มีแสงธรรมชาติเข้าเยอะและมีความสงบ เหมาะสำหรับใครที่ชอบนั่งจิบชาหรือกาแฟในบรรยากาศสบายๆหากขึ้นบันไดในร้านไปยังชั้นสอง ก็จะพบกับโซนร้านเสื้อผ้ามัลติแบรนด์ที่อ๊อยเลือกแบรนด์เด่นมาจากอินสตาแกรมให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของร้าน อย่าง Ricochet, Maillot Co.,Oyster Footwear และอีกมากมายมาให้เลือกสรรค์กันในชั้นเดียวกันก็มีร้านเสื้อผ้าวินเทจของผู้ชายนี้จะเป็นเสื้อผ้าวินเทจแนวอเมริกัน แนว utility และร้านสูทวินเทจที่รวมอยู่ด้วยกันภายใต้ชื่อว่า Union Wave แต่จะเปิดเฉพาะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์มาถึงโซนสุดท้ายที่เป็นห้องเล็กที่สุดก็คือร้านต่อขนตา ที่ห้องกระทัดรัดแต่คุณภาพคับแก้วแน่นอน ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและไม่จอแจ อ๊อยอยากให้สาวๆ มาลองทำกันดูนะคะ HB: มีวิธีการคัดเลือกของแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นอย่างไรบ้าง?
VC: อ๊อยจะเป็นคนเลือกทั้งไอเท็มชิ้นใหม่ไปจนถึงชิ้นวินเทจที่เป็น collectible piece มีตั้งแต่ชิ้นที่อ๊อยเลือกซื้อกลับมาจากตอนไปเที่ยวยุโรปมาสะสมเอง หรือบางชิ้นก็นำเข้ามาจากเมืองนอกโดยตรง ซึ่งอ๊อยเน้นสั่งมาจากอิตาลีและเดนมาร์คเนื่องจากเป็นสองประเทศที่มีเสน่ห์ด้านเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ที่เฉพาะตัว แถมแต่ละชิ้นยังมีเรื่องราวประวัติอันล้ำลึกที่เราไม่สามารถหาได้จากประเทศอื่นค่ะ HB: การแต่งบ้านในแบบของคุณอ๊อยคือสไตล์แบบไหน?
VC: อ๊อยชอบการมิกซ์ของหลากดีไซน์จากต่างยุคสมัยที่ดูคอนทราสต์กันให้เข้ามาอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว อย่างเช่นโคมไฟสไตล์นอร์ดิก อาจจะมาตั้งกับโต๊ะทรงยุโรปหรูหรา ประกอบกับสัตว์สต๊าฟของคุณตั้ม มันก็ทำให้เกิดเป็นสไตล์แบบใหม่ที่ไม่เรียบและก็ไม่เลี่ยนเกินไปHB: ช่วงวิกฤติโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจของคุณอ๊อยอย่างไรบ้าง
VC: ร้านรองเท้าของอ๊อยถูกกระทบเต็มๆ เนื่องจากการส่งออกถูกระงับทั่วโลก แต่โชคดีที่อ๊อยตัดสินใจเริ่มทำร้าน Oyster & Things ขึ้นมาแล้วผลตอบรับกลับดีเกินคาด เนื่องจากทุกคนกักตัวอยู่บ้านจึงทำให้การทำอาหาร ตกแต่งบ้านและปลูกต้นไม้กลายเป็นกิจกรรมใหม่ที่ทุกคนทำกันนับตั้งแต่ช่วงนั้นจนถึงปัจจุบันHB: ขอคำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเริ่มทำธุรกิจในยุค New Normal
VC: อันที่จริงอ๊อยก็ลองผิดลองถูกมาเยอะนะคะ และในยุคนี้เราก็ไม่สามารถอิงธุรกิจกับเทรนด์ไปได้ทั้งหมด ตัวช่วยสำคัญในการทำธุรกิจยุคนี้สำหรับอ๊อยก็คือการทำมาร์เก็ตติ้งที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอภาพลักษณ์ด้วยการถ่ายรูปและวิดีโอของไอเท็มแต่ละชิ้นให้ดูน่าดึงดูดใจ อีกจุดสำคัญก็คือการรู้จักฐานลูกค้าของเรา ซึ่งนำไปสู่การพรีเซ็นต์ให้ลูกค้าเห็นภาพการจัดวางและใช้สอยของแต่ละชิ้นก่อนจะตัดสินใจซื้อ หากลูกค้าท่านไหนที่ต้องการปรึกษาเราในด้านการจัดวางหรือทำสไตลิ่งห้องในงบประมาณที่กำหนด เราก็สามารถให้คำแนะนำได้เช่นกันค่ะสำหรับใครที่กำลังอยากค้นหาแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้านใหม่ๆ หรือสถานที่นั่งจิบชายามบ่ายอันสงบสุข คงต้องไปที่ Blue Wild Space แล้วล่ะ
Blue Wild Space
56 ซอยนภาศัพท์ 1
แขวงคลองตัน เขตคลองเตย
กรุงเทพฯ 10110
*เปิดทุกวันอังคาร ถึง อาทิตย์ เวลา 11.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)*
Varamol Chanakitkarnchai: ก่อนที่จะมาเริ่มทำร้านนี้ อ๊อยได้ทำแบรนด์รองเท้าซึ่งเคยขายอยู่ในห้างสรรพสินค้าและร้าน Oyster Footwear แต่ด้วยผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 จึงได้ปิดร้านทางด้านนั้นและลองปรับเปลี่ยนกิจการมาเป็นขายทางออนไลน์แทน ส่วนร้าน Oyster & Things นี้เริ่มมากจากแพสชั่นด้านการสรรหาของแต่งบ้านของอ๊อยล้วนๆ เลยค่ะ และนี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดคอมมูนิตี้ Blue Wild Space ที่รวบรวมทั้งร้านกาแฟซึ่งต่อยอดมาจาก Blue Dye Cafe ของหุ้นส่วนร้าน คุณตั้ม - กิตติพงษ์ ไพบูลย์สมบัติ ร้านของแต่งบ้าน Oyster & Things ร้านเสื้อผ้ามัลติแบรนด์จากอินสตาแกรม สตูดิโอถ่ายภาพ ร้านเสื้อผ้าวินเทจ และร้านต่อขนตา มาไว้ในแห่งเดียว เหมือนเป็น one-stop service เลยค่ะHB: แนะนำแต่ละส่วนของคอมมูนิตี้ Blue Wild Space
VC: ตั้งแต่ที่ลูกค้าก้าวเท้าเข้าประตูมาก็จะเจอโซนของแต่บ้าน Oyster & Things ที่มีให้เลือกตั้งแต่แก้ว จาน ชามราคาน่ารัก สัตว์สต๊าฟ และอีกมากมายที่เราตั้งใจจัดวางเพื่อให้ลูกค้ามีไอเดียในการซื้อของแต่ละชิ้นไปใช้ที่บ้าน สำหรับลูกค้าที่สนใจเฟอร์นิเจอร์วินเทจ เราจะแยกชิ้นพิเศษเหล่านั้นไว้ในห้องขาวหลังม่านเพื่อง่ายต่อลูกค้าที่จะใช้เวลาตัดสินใจซื้อ collectible piece เหล่านี้ส่วนโซนคาเฟ่นั้นจะอยู่ตรงประตูไปทางด้านขวาด้านในร้านที่มีแสงธรรมชาติเข้าเยอะและมีความสงบ เหมาะสำหรับใครที่ชอบนั่งจิบชาหรือกาแฟในบรรยากาศสบายๆหากขึ้นบันไดในร้านไปยังชั้นสอง ก็จะพบกับโซนร้านเสื้อผ้ามัลติแบรนด์ที่อ๊อยเลือกแบรนด์เด่นมาจากอินสตาแกรมให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของร้าน อย่าง Ricochet, Maillot Co.,Oyster Footwear และอีกมากมายมาให้เลือกสรรค์กันในชั้นเดียวกันก็มีร้านเสื้อผ้าวินเทจของผู้ชายนี้จะเป็นเสื้อผ้าวินเทจแนวอเมริกัน แนว utility และร้านสูทวินเทจที่รวมอยู่ด้วยกันภายใต้ชื่อว่า Union Wave แต่จะเปิดเฉพาะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์มาถึงโซนสุดท้ายที่เป็นห้องเล็กที่สุดก็คือร้านต่อขนตา ที่ห้องกระทัดรัดแต่คุณภาพคับแก้วแน่นอน ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและไม่จอแจ อ๊อยอยากให้สาวๆ มาลองทำกันดูนะคะ HB: มีวิธีการคัดเลือกของแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นอย่างไรบ้าง?
VC: อ๊อยจะเป็นคนเลือกทั้งไอเท็มชิ้นใหม่ไปจนถึงชิ้นวินเทจที่เป็น collectible piece มีตั้งแต่ชิ้นที่อ๊อยเลือกซื้อกลับมาจากตอนไปเที่ยวยุโรปมาสะสมเอง หรือบางชิ้นก็นำเข้ามาจากเมืองนอกโดยตรง ซึ่งอ๊อยเน้นสั่งมาจากอิตาลีและเดนมาร์คเนื่องจากเป็นสองประเทศที่มีเสน่ห์ด้านเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ที่เฉพาะตัว แถมแต่ละชิ้นยังมีเรื่องราวประวัติอันล้ำลึกที่เราไม่สามารถหาได้จากประเทศอื่นค่ะ HB: การแต่งบ้านในแบบของคุณอ๊อยคือสไตล์แบบไหน?
VC: อ๊อยชอบการมิกซ์ของหลากดีไซน์จากต่างยุคสมัยที่ดูคอนทราสต์กันให้เข้ามาอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว อย่างเช่นโคมไฟสไตล์นอร์ดิก อาจจะมาตั้งกับโต๊ะทรงยุโรปหรูหรา ประกอบกับสัตว์สต๊าฟของคุณตั้ม มันก็ทำให้เกิดเป็นสไตล์แบบใหม่ที่ไม่เรียบและก็ไม่เลี่ยนเกินไปHB: ช่วงวิกฤติโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจของคุณอ๊อยอย่างไรบ้าง
VC: ร้านรองเท้าของอ๊อยถูกกระทบเต็มๆ เนื่องจากการส่งออกถูกระงับทั่วโลก แต่โชคดีที่อ๊อยตัดสินใจเริ่มทำร้าน Oyster & Things ขึ้นมาแล้วผลตอบรับกลับดีเกินคาด เนื่องจากทุกคนกักตัวอยู่บ้านจึงทำให้การทำอาหาร ตกแต่งบ้านและปลูกต้นไม้กลายเป็นกิจกรรมใหม่ที่ทุกคนทำกันนับตั้งแต่ช่วงนั้นจนถึงปัจจุบันHB: ขอคำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเริ่มทำธุรกิจในยุค New Normal
VC: อันที่จริงอ๊อยก็ลองผิดลองถูกมาเยอะนะคะ และในยุคนี้เราก็ไม่สามารถอิงธุรกิจกับเทรนด์ไปได้ทั้งหมด ตัวช่วยสำคัญในการทำธุรกิจยุคนี้สำหรับอ๊อยก็คือการทำมาร์เก็ตติ้งที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอภาพลักษณ์ด้วยการถ่ายรูปและวิดีโอของไอเท็มแต่ละชิ้นให้ดูน่าดึงดูดใจ อีกจุดสำคัญก็คือการรู้จักฐานลูกค้าของเรา ซึ่งนำไปสู่การพรีเซ็นต์ให้ลูกค้าเห็นภาพการจัดวางและใช้สอยของแต่ละชิ้นก่อนจะตัดสินใจซื้อ หากลูกค้าท่านไหนที่ต้องการปรึกษาเราในด้านการจัดวางหรือทำสไตลิ่งห้องในงบประมาณที่กำหนด เราก็สามารถให้คำแนะนำได้เช่นกันค่ะสำหรับใครที่กำลังอยากค้นหาแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้านใหม่ๆ หรือสถานที่นั่งจิบชายามบ่ายอันสงบสุข คงต้องไปที่ Blue Wild Space แล้วล่ะ
Blue Wild Space
56 ซอยนภาศัพท์ 1
แขวงคลองตัน เขตคลองเตย
กรุงเทพฯ 10110
*เปิดทุกวันอังคาร ถึง อาทิตย์ เวลา 11.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)*
TAGS
MOST VIEWED
Daphne Bridgerton สวมชุดสวย 104 ชุดตลอดซีรีส์ Bridgerton ทั้ง 6 ตอน
ตกเฉลี่ยตอนละ 16-17 ชุดเลยทีเดียว
ซูเปอร์โมเดลโลก ‘Stella Tennant’ ฆ่าตัวตาย
บทสัมภาษณ์จากครอบครัว ชี้ชัดแล้วว่า ‘Stella Tennant’ ฆ่าตัวตายเพราะสาเหตุนี้!
MORE FROM
ART LIVING
ปลากัดไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก! ลายหน้ากากอนามัยของคนไทยในเวที Kingston x CSD ระดับเอเชียแปซิฟิก
ภายใต้คอนเซ็ปต์..ในความทรงจำมีความแข็งแกร่ง
Muji ดร็อปราคาสินค้าเพิ่มอีก เพื่อให้เหล่าสาวกช็อปได้เต็มที่ในช่วงวิกฤติการณ์ Covid-19
ไม่แน่ว่าอาจมีไอเท็มที่เล็งไว้อยู่ก็ได้
ศิลปะแห่งไลฟ์สไตล์ภายใต้ความสำเร็จของ MOTIF ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำระดับโลก
พร้อมการปรับโฉมพื้นที่ใหม่ของโชว์รูมที่สะท้อนความงามและฝีมือเหนือระดับในแบบฉบับอิตาเลียน