Oyster Perpetual Air-King
เสมือนบรรณาการแด่นักสำรวจฟากฟ้า นาฬิการุ่น Air-King ฉลองการเริ่มต้นของศาสตร์การบิน และเชื้อเชิญผู้สวมใส่ให้ควบคุมเส้นทางแห่งโชคชะตาด้วยตนเอง โดยตั้งแต่ปี 2016 นาฬิการุ่นนี้มีรูปลักษณ์ที่เหมาะสําหรับมืออาชีพมาโดยตลอด ด้วยหน้าปัดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอุปกรณ์บนเครื่องบิน ในปี 2022 โดยรวบรวมคุณสมบัติใหม่ไว้หลายประการ ทั้งหน้าปัดที่ปัจจุบันสามารถอ่านเวลาได้ง่ายขึ้น และมีความสมดุลเป็นหนึ่งเดียวยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเลข 0 ก่อนเลข 5 บนสเกลนาที รวมถึงการเพิ่มขอบขอบป้องกันเม็ดมะยมและขอบตรงด้านข้าง วิวัฒนาการเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันสถานะสําคัญของ Air-King ท่ามกลางนาฬิกาสําหรับมืออาชีพ รุ่นอื่นๆ ของแบรนด์ สุดท้ายเรือนเวลารุ่นนี้ก็ยังประดับด้วยเส้นอันบางเบาของแสงรอบตัวเรือนตรงกลาง สัญลักษณ์ของขอบฟ้าแห่งใหม่ที่ Rolex เป็นผู้เปิดเส้นทางอยู่บ่อยครั้ง
Oyster Perpetual GMT-Master II
GMT-Master รังสรรค์ขึ้นเพื่อการผจญภัยทางอากาศ และปัจจุบันนาฬิการุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกสำหรับนักเดินทางที่เชื่อมต่อผู้คนในเขตเวลาที่แตกต่าง โดยนับตั้งแต่รังสรรค์ขึ้นในปี 1955 นาฬิกา GMT-Master ได้ร่วมเดินทางผ่านช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์การบินหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่เที่ยวบินระหว่างทวีปเที่ยวแรกจนถึงการทำสถิติความเร็วของโลก และการทดสอบเครื่องบินคองคอร์ดอันเป็นความสำเร็จทั้งสำหรับมนุษยชาติและเทคโนโลยี เฉกเช่น GMT-Master II ที่มีเม็ดมะยมอยู่ซ้ายมือ และเวอร์ชั่นใหม่ของเรือนเวลารุ่นนี้ยังไม่เพียงแต่เป็นนวัตกรรมสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ ด้วยการย้ายเม็ดมะยมไปด้านซ้ายของตัวเรือนและช่องวันที่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกา รวมถึงการเพิ่มจานวันที่ การปรับปรุงเหล่านี้ล้วนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในขั้นตอนการทดสอบความเที่ยงตรง ที่ดำเนินการรำหว่างการควบคุมขั้นสุดท้าย รวมถึงขอตัวเรือน Cerachrom ที่เป็นสีเขียวและดำ ซึ่งเป็นการผสมผสานนสีสันแบบดั้งเดิมที่สงวนไว้สำหรับเรือนเวลานี้เท่านั้น ที่ GMT-Master II ตอกย้ำความงามร่วมสมัยด้วยการเปลี่ยนแปลงที่แสดงให้เห็นถึงแรงขับเคลื่อนของ Rolex สู่ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี
Oyster Perpetual Day-Date 40
Day-Date เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของชื่อเสียงและนวัตกรรมมาโดยตลอด ผลิตขึ้นจากโลหะมีค่าโดยเฉพาะ และนี่คือเรือนเวลาโครโนมิเตอร์ไขลานอัติโนมัติแบบกันน้ำ พร้อมแสดงวันที่และวันของสัปดาห์แบบเต็มคำในหน้าต่างบนหน้าปัด โดย Day-Date 40 ทำจากแพลตินัมมาพร้อมขอบหน้าปัดแบบเซาะร่องโดยใช้โลหะชั้นสูงเป็นวัสดุชนิดเดียวกัน และการรังสรรค์เรือนเวลารุ่นใหม่นี้ยังมากด้วยคุณสมบัติด้านสุนทรีย์สาสตร์และเทคนิคนี้ต้องใช้เวลากว่าหลายปีในการศึกษา วิจัย และพัฒนา เนื่องจากแพลตินัมมีความท้าทายในการรังสรรค์ รวมไปถึงขั้นตอนการเซาะร่อง ซึ่งแต่เดิมใช้กับทองคำที่นำมาปรับเปลี่ยนเพื่อใช้ในกการผลิตขอบหน้าปัด โดย Day-Date 40 จึงเปรียบเหมือนภาพสะท้อนในการแสวงหาความสมบูรณ์แบบของ Rolex เพื่อแสดงให้เห็นถึงอุดมคติสำคัญของแบรนด์ นั่นก็คือทักษะความชำนาญด้านวัสดุเพื่อการรังสรรค์ผลงานชั้นยอด
Oyster Perpetual Yacht-Master 42
อัญมณีชิ้นใหม่ส่องประกายบนท้องทะเล และเป็นครั้งแรกที่ Yacht-Master 42 วางจําหน่ายในสีทองที่มอบความหรูหราสุดประณีต ให้แก่เรือนเวลาอันเป็นสัญลักษณ์ของการเดินเรือที่ไม่มีวันเปลี่ยนเส้นทาง ด้วยวัสดุล้ำค่าอย่างโลหะผสมทองคํา 18K นี้มีความพิเศษเฉพาะตัวที่ล้ำค่าซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการหล่อและขึ้นรูปที่เตาหลอมพิเศาของแบรนด์ในกรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อมอบความทนทานเป็นเลิศที่ทำให้ Yacht-Master 42 พร้อมสาย Oysterflex เป็นเรือนเวลาคู่ใจที่ยากจะหาใครเทียบเคียงได้
Oyster Perpetual Datejust 31
ความคลาสสิกกับการบอกเล่าจินตนาการครั้งใหม่ พร้อมแต่งแต้มสีสันประกายสุนทรีย์ด้วยความรู้สึกแห่งการเริ่มต้นใหม่ กับหน้าปัดที่ประดับใน Datejust 31 ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันสดใสและคำมั่นของ Rolex กับสามผิวสัมผัสอันแตกต่าง ได้แก่ แบบซันเรย์ แบบด้าน และแบบหยาบ และเพิ่มความสดใสและการเริ่มใหม่ด้วยลวดลายดอกกไม้ถูกแต่งแต้มเพื่อฟื้นคืนชีวิตภายใต้แสงสว่าง ซึ่งมีทั้งสิ้น 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีฟ้าอัซซูร์โร สีเขียวมะกอก และสีเงิน โดยชิ้นงานเหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยขั้นตอนสุดประณีตที่เป็นเทคนิคการตกแต่งชั้นสูงของแบรนด์ ไม่ว่าจะป็นการประดับด้วยเพชรขนาดต่างๆ อันเป็นตัวแทนของน้ำค้างที่เปล่งประกายท่ามกลางดอกไม้ ซึ่งเรือนเวลาสุดคลาสสิกรุ่นนี้เคยถูกพัฒนาในรูปแบบใหม่อยู่บ่อยครั้ง และนี่ถือเป็นอีกครั้งที่ Datejust ได้พิสูจน์รูปลักษณ์ร่วมสมัยด้วยหน้าปัดลายดอกไม้อันเปล่งประกายมีชีวิตชีวา พร้อมกลไกการทำงานที่มอบมุมมองอันแตกต่างในวัฏจักรของฤดูกาล
Oyster Perpetual Yacht-Master 40
ส่องประกายดั่งแสงไฟไปกับ Oyster Perpetual Yacht-Master 40 ที่เปรียบดั่งจุดตัดขอบฟ้ากับท้องทะเล และยามอาทิตย์โผล่เหนือผืนน้ำ บรรยากาศสุดโรแมนติกนี้ถูกถ่ายทอดผ่านเรือนเวลาใหม่อย่าง Yacht-Master 40 กับการเล่าเรื่องราวและนำเสนอของสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่มารังสรรค์ความงดงามอยู่บนข้อมือ โดยหน้าปัดถูกประดับตกแต่งด้วยเพชรและแซฟไฟร์ในโทนสีฟ้า สีเงิน และสีชมพู ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแสงขั้วโลกเหนือและประกายแวววายแห่งรุ่งอรุณ ซึ่งการเรียงลำดับของสีสันทั้งห้าอย่างพิถีพิถันและได้รับการทําซ้ำกว่า 8 ครั้ง เริ่มจากแซฟไฟร์สีชมพู แซฟไฟร์สีฟ้า แซฟไฟร์สีม่วง และตามด้วยแซฟไฟร์สีน้ำเงินเข้ม และเพิ่มความโดดเด่นให้เหล่าแซฟไฟร์มากยิ่งขึ้นด้วยกการประดับตกแต่งเพชร 46 เม็ด ที่ประดับบนสลักตะขอและขอบป้องกันเม็ดมะยม โดยการรังสรรค์อัญมณีบน Yacht-Master 40 เรือนใหม่นี้ใช้ความเชี่ยวชาญชั้นสูงที่ทำให้ประกายอันสมบูรณ์ของอัญมณีเกิดความโดดเด่นมากที่สุด