Aom Disaya: ทาง Disaya อยากจะร่วมงานกับ Dry Clean Only มานานแล้วเพราะคิดว่าน่าจะเป็นโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจค่ะ เป็นคอลลาบอเรชั่นที่ทุกคนอาจจะสงสัยว่ามาร่วมมือกันได้ยังไง เพราะดูเป็นผู้หญิงคนละขั้ว แต่อันที่จริงเเล้วเราแชร์ผู้หญิงคนเดียวกันอยู่
Best Dry Clean Only: อันที่จริงแล้วเราเริ่มโปรเจ็กต์นี้มานานถึง 2 แล้วครับ ประชุมกันไม่รู้กี่รอบ คุยกันแล้วคุยกันอีกกว่าจะลงตัวที่คอนเซ็ปต์แบบนี้ และตั้งใจเลือกวันเปิดตัวเป็นวันที่ 11/11/19 มีหลายอย่างที่จะมาเซอร์ไพรส์ทุกคนเยอะแยะเลย พวกเราชอบมันมากแล้วก็คิดว่าคนอื่นก็จะชื่นชอบมันด้วยเช่นกันครับ
Best Dry Clean Only: เพราะคิดว่าทั้งสองแบรนด์นี้แตกต่างและไม่น่ามีทางที่จะมาเจอกันได้ เพราะแบรนด์ของเบสท์คือผู้หญิงแบบกรันจ์ในขณะที่ Disaya คือสาวลักชัวรี่ แต่เราจับมาผสมกัน แต่สุดท้ายแล้วมันคือผู้หญิงแบบเดียวกัน แต่เหมือนไม่เคยเดินมาคุยกันสักที ได้แต่เคยสวนกันไปมา ครั้งนี้เราจึงตัดสินใจที่จะมาลองคุยกัน
HB: ธีมครั้งนี้เกี่ยวกับอะไร?
Best Dry Clean Only: ธีมครั้งนี้เบสท์เป็นขอพี่ออมทำเลย เพระาว่าเราชอบงานธีสิสที่ Central Saint Martin ของเขาตั้งแต่เขาเริ่มทำ Disaya แรกๆ โดยพี่ออมน้ำตุ๊กตาหมีมาดัดแปลงกลายเป็นชุดชั้นใน ผมเลยคิดว่านี่คือ instinct (สัญชาตญาน) ของ Disaya จริงๆ
Aom Disaya: เราก็เลยต้องย้อนยุคกลับไปลอนดอนในช่วง ‘90s ซึ่งเป็นช่วงที่ออมยังเรียนอยู่ที่อังกฤษค่ะHB: ทั้งสองแบรนด์มีความคล้ายคลึงกันตรงไหนบ้าง?
Best Dry Clean Only: งานคราฟท์ที่ทำขึ้นโดยช่างฝีมือดี และผู้หญิงของเราคือผู้หญิงฉลาด รู้จักการใช้ชีวิต ชอบท่องเที่ยว รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่ตามกระแส
Aom Disaya: แล้วก็ใส่ใจในเรื่องคราฟท์แมนชิป คุณค่าของไอเท็มที่มีดีไซน์เหล่านี้ และเธอยัง appreciate งานศิลปะอีกด้วย เธอสนใจทถกอย่างรอบตัว ไม่ใช่แค่เพียงแฟชั่น
HB: คอลเลกชั่นนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับ sustainable fashion (แฟชั่นแบบยั่งยืน) อย่างไรบ้าง?
Best Dry Clean Only: นี่คือเทรนด์หลักของโลกตอนนี้ที่แฟชั่นแบรนด์ทั่วโลกต่างหันมาให้ความสนใจ ซึ่งในคลลาบอเรชั่นคอลเลกชั่นครั้งนี้เรามีถึง 2 เฟส โดยเฟสแรกจะเป็นการนำชิ้น archive ของ Disaya ตั้งแต่ปี 2013 เอามาให้ Dry Clean Only รีเวิร์คใหม่ โดยแต่ละชิ้นจะเป็นลิมิเต็ดเอดิชั่น มีจำนวนจำกัดและที่สำคัญเป็น one of a kind จริงๆ มันอาจะมี 15 แบบ แต่บางแบบอาจจะมีแค่ 4 ตัว ซึ่งนี่คือความ sustainable ของเรา
Aom Disaya: อีกหนึ่งความพิเศษก็คือ แต่ละชิ้นจะโดนบันทึกไว้ว่าเป็นชิ้นที่เท่าไร ผลิตในจำนวนที่เท่าไร จะมีที่มาที่ไปว่าชิ้นนี้มากจากคอลเลกชั่นไหน เรียกได้ว่าเป็น collectible piece เลยล่ะค่ะ
Best Dry Clean Only: สัตว์สองชนิดนี้คือตัวแทนคาแร็กเตอร์ของแต่ละแบรนด์ เพราะมันดูน่ารัก เข้าถึงง่ายและสามารถสื่อกับคนได้ทุกวัย Disaya คือหมี และ Dry Clean Only คืออินทรีย์
Aom Disaya: ในอีกส่วนหนึ่งของเราก็คือคอลเลกชั่น Souvenir ที่อินสไปร์มากจากร้านขายของฝากตามถนนอ็อกซ์ฟอร์ดและแหล่งท่องเที่ยวในกรุงลอนดอน
HB: อยากให้คุณออมและคุณเบสท์เลือกชิ้นที่เหมาะกับสาวๆ บาซาร์ที่จะไปปาร์ตี้ปลายปีนี้
Best Dry Clean Only: ชิ้นสำหรับสาวบาซาร์ก็จะต้องมีความแก่นผสมความหรูหรา พวกเราคิดตรงกันเลยครับ ว่าจะเลือกเป็นเบลเซอร์ปักเลื่อมของ Disaya ที่ถูก Dry Clean Only แปลงโฉมให้มาเป็นเสื้อเชิ้ตผ้าอ็อกซ์ฟอร์ดทรงโอเวอร์ไซส์
Aom Disaya: เหตุผลที่เลือกชิ้นนี้เพราะมีเพียงแค่ 5 ชิ้นเท่านั้นค่ะ ซึ่งเป็นลิมิเต็ดเอดิชั่นจริงๆ แถมยังเหมาะแก่การสวมใส่ได้แบบ day-to-night ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนชุด และยังมีการปักลายเป็น Dizzy ซึ่งเป็นชื่อเล่นของออมเอง ชิ้นนี้คือ transformation ที่โดนใจมาก เพราะชิ้นนี้เคยเป็นไอเท็มที่แกลมมากแต่ถูกลดทอนให้สวมใส่ง่ายขึ้นด้วยผ้าอ็อกซ์ฟอร์ด ความคิดสร้างสรรค์ของดีไซเนอร์ทั้งสองที่ถูกกลั่นกรองมาจนเป็นคอลเลกชั่นพิเศษที่กลมกล่อมลงตัวคงถูกใจแฟนตัวยงของทั้งสองแบรนด์ไม่ใช่น้อย
มาจับจองเป็นเจ้าของไอเท็มเปรี้ยวๆ จากคอลเลกชั่นพิเศษนี่ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2019 ไปจนถึง 31 มกราคม 2020 ที่ชั้น 2 Central Embassy