1. แบรนด์ที่สืบทอดในสายเลือด
เร่ิมจากประวัติของครอบครัวที่เริ่มจาก Thierry Hermès ผู้ริเริ่มก่อตั้งเวิร์คช็อปในปี 1837 ก่อนจะส่งต่อให้ลูกชาย Charles-Émile Hermès และรับช่วงต่อด้วยหลานชาย 2 คน Adolphe กับ Émile-Maurice จากนั้นลูกเขย Robert Dumas ก็ได้รับช่วงต่อหลังจากที่ Émile-Maurice เสียชีวิต ซึ่งเขาเป็นผู้สืบทอดคนแรกที่ไม่ใช้สายเลือดโดยตรงจาก Hermès ผ่านจากการแต่งงานแต่อย่างใด เมื่อเขาได้คุมบังเหียนของแบรนด์นี้อย่างเต็มตัว เขาก็ได้ตัดสินใจใช้ชื่อ Hermès ต่อไป และเปลี่ยนชื่อเป็น Dumas-Hermès แทน2. จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
Hermès เริ่มต้นจากการก่อตั้งเวิร์คช็อป เครื่องเทียมม้าที่กรุงปารีสเมื่อปลายยุค 1800 ที่ทำขึ้นสำหรับลูกค้าเชื้อสายยุโรปชั้นสูงโดยเฉพาะ งานฝีมือสุดปราณีตบรรจงของพวกเขา ทำให้แบรนด์ได้รับรางวัลมากมาย 40 ปีให้หลัง พวกเขาก็ได้สร้างสรรค์อานม้าเพิ่มขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์อีกรายการ ซึ่งกลายเป็นที่นิยมในหมู่จักรพรรดิรัสเซีย นั้นจึงเป็นที่มาของโลโก้รูปม้าและรถม้าที่ทางแบรนด์ยังใช้จนถึงทุกวันนี้3. สิ่งที่ Hermès ทำเพื่อความรัก
กระเป๋าหนังคอลเลกชั่นแรกของ Hermès ถูกรังสรรค์ขึ้นโดย Émile-Maurice ด้วยฝีมือของเขาเมื่อปี 1922 หลังจากที่ภรรยาของเขาไม่สามารถหากระเป๋าที่เธอถูกใจได้ทั่วทั้งกรุงปารีส ถ้านั้นไม่ใช่ความรัก ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว!4. เบื้องหลังของกระเป๋า Birkin และ Kelly
อย่างที่รู้กันว่ากระเป๋าสุดไอคอนิค 2 รุ่น ของแบรนด์ก็คือ ‘Hermès Birkin’ และ ‘Hermès Kelly’ ที่ตั้งชื่อตาม Jane Birkin และ Grace Kelly แต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะรู้ว่ากระเป๋ารุ่น ‘Kelly’ มีชื่อแบบนั้น หลังจากที่กระเป๋าหนัง ‘Sac à dépêches’ ได้ถูกเผยโฉมให้โลกได้รู้จักเมื่อปี 1935 ในปี 1956 ก็มีเหตุที่ทำให้ทางแบรนด์ต้องเปลี่ยนชื่อกระเป๋าหลังจากที่มีภาพอันโด่งดังของ Grace Kelly เจ้าหญิงแห่งโมนาโกถือกระเป๋า ‘Sac à dépêches’ ด้านหน้าเพื่อปกปิดการตั้งครรภ์ของพระองค์ ส่วน Birkin มีเรื่องราวที่แตกต่างออกไป ไอเดียและคอนเซ็ปต์ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาโดย Jean-Louis Dumas กับ Jane Birkin ในขณะที่ทั้งคู่กำลังขึ้นเครื่องบินไปยังกรุงลอนดอน กระเป๋ารุ่น Birkin ที่ราคาแพงที่สุดก็คือรุ่นหนังจระเข้ในราคา $432,000 (12,887,424 บาท) ที่เป็นรุ่นสั่งทำพิเศษสุดๆ อย่างไรก็ตามกระเป๋ารุ่น Birkin และ Kelly ก็ได้กลายเป็นไอเท็มที่บ่งบอกระดับของคนที่ถือ ทั้งในแง่ชนชั้นและแฟชั่นได้อย่างชัดเจน และทั้งคู่ยังของเป็นรุ่นที่ขายดีของ Hermès ตราบจนทุกวันนี้5. แพ็กเกจที่บอกเล่าเรื่องราว
หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจที่สุดของแบรนด์ก็คือบรรดากล่องสีส้มสุดไอคอนิคของ Hermès ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นสีครีมและขอบสีมัสตาร์ด ส่วนตอนนี้กล่องถูกสร้างขึ้นจากหนังหมูสีส้มและสีน้ำตาล กล่องสีส้มใบแรกถูกเผยโฉมหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง (WWII) ด้วยเหตุผลที่ว่าทางแบรนด์ขาดวัสดุสำหรับทำกล่องสีครีม จากนั้นเจ้ากล่องสีส้มก็ได้รับรางวัลออสการ์ในปี 1994 ซึ่งปัจจุบันกล่องสีส้มเหล่านี้มีมากกว่า 188 ไซส์กว่าจะมาเป็นแบรนด์ Hermès ได้อย่างทุกวันนี้ ก็ได้มีการลองผิดลองถูกและผ่านอุปสรรค์หลายอย่างมาเช่นกัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและไม่ย่อถอย แฟชั่นเฮ้าส์สุดหรูสัญชาติฝรั่งเศสจึงได้แทนเป็นแบรนด์ระดับแถวหน้าในวงการแฟชั่นได้อย่างสง่างาม