เอกลักษณ์และความโดดเด่นของ Tube Gallery อยู่ที่โครงชุดอันโก้หรูงามสง่า แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดของการตัดเย็บในแบบงานโอต์กูตูร์ทั้งโครงชุดแบบกระโปรงสุม หรือการปักประดับด้วยเลื่อม ปล้องสีทอง คริสตัลหลากสี รวมไปถึงลายพิมพ์ต่างๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจในการเดินทางในแต่ละคอลเล็กชั่นของทั้งสองดีไซเนอร์ และในคอลเล็กชั่นนี้ก็คือการเดินทางตลอด 20 ปีของแบรนด์ที่ผ่านมา          โชว์เริ่มต้นด้วยเสียงเพลง ‘จูบ’ เวอร์ชั่นรีมิกซ์​ ตามมาด้วยซูเปอร์โมเดลอย่าง ซอนย่า ในชุดกระโปรงผ้าไหมสีเขียวประดับด้วยดีเทลการปักด้วยหมุดและปล้องสีทอง ซึ่งเป็นดีเทลหลักในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าคอลเล็กชั่นนี้ ในรูปทรงคล้ายกับพลุ อันหมายถึงการเฉลิมฉลอง ในขณะที่ลายพิมพ์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์ Tube Gallery เลือกใช้ลายพิมพ์แบบคาโดสโคปสีสันสดสวย ชุดกระโปรงหลากหลายรูปแบบทั้งความโดดเด่นที่ไหล่ รูปทรงนาฬิกาทราย ชุดเคป คือการเริ่มต้นแห่งการเฉลิมฉลองในคอลเล็กชั่นนี้ตามมาด้วยลวดลายปะการังที่เป็นทั้งลายพิมพ์และลายปักสีแดงสด มีการใช้ผ้าลูกไม้ซ้อนทับบนเสื้อผ้าเพื่อสร้างดีเทลที่น่าสนใจ ทั้งชุดของผู้ชายและผู้หญิง โดยเฉพาะชุดกระโปรงสุ่มผ้ามุ้งประดับด้วยลูกไม้ ชุดกระโปรงแขนพองสุดคลาสสิก จากลวดลายปะการังเดินทางเข้าสู่ความเรียโก้และคลาสสิกของชุดกระโปรงในโทนสีขาวปักประดับด้วยดีเทลสีทอง ตามมาด้วยชุดในโทนสีดำ          ก่อนจะปิดท้ายด้วยชุดฟินาเล่สุดอลังการของลูกเกด เมทินี ที่มาพร้อมด้วยเพลง At Last ของ  Etta James ที่เรียกเสียงปรบมือเกรียวกราว และจบลงด้วยขบวนฟินาเล่ด้วยเพลงคลาสสิก ปล. ฉันรักคุณ และเดินทางเข้าสู่อาฟเตอร์ปาร์ตี้โดยทันทีจากเสียงเพลง ‘Bang Bang’ ที่ขับร้องโดยแก้ม วิชญาณี หนึ่งในนางแบบในโชว์ครั้งนี้ ตามมาด้วยเพลง ‘เต่างอย’ ที่ทำให้ทุกคนในโชว์ลุกขึ้นมาร้องและเต้นไปพร้อมกับนางแบบบนรันเวย์ เฉลิมฉลองให้กับการเดินทาง 20 ปีของ Tube Gallery และการปิดฉากลงของงาน Bangkok International Fashion Week 2019 อย่างสวยงาม